เลือกตั้งและการเมือง
'ชวน' กรีดรัฐบาลเพื่อไทย ไม่เคยเห็นภาคใต้สำคัญ ชี้ราคายางขึ้นกันทั้งโลก ไม่นับเป็นผลงาน 'เศรษฐา'
โดย nattachat_c
5 เม.ย. 2567
38 views
วานนี้ (4 เม.ย. 67) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ในเวลา 14.45 น. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายกว่า 30 นาที ถึงนโยบายของรัฐบาลที่ดำเนินการล้มเหลวหลายเรื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้
นายชวน เล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองว่า ในฐานะที่เป็นเด็กสวนยาง เกิดในสวนยาง ตอนเด็กๆ เป็นนักเรียนก็ต้องเก็บยางพารา ตนดีใจที่เรายากลำบากมากับยางพารา เพราะราคาตกไปหลายปี ตนเป็นหนึ่งในคนที่ดิ้นรนเรื่องนี้มากกว่าใครหลายคนมาก จะเห็นได้จากหนังสือร้องเรียนรัฐบาลทุกชุด เพราะในขณะนี้พี่น้องชาวสวนยางของเราไม่ได้มีเฉพาะจังหวัดภาคใต้ ภาคตะวันออกเท่านั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องอุปสงค์อุปทาน เป็นเรื่องผลผลิต เมื่อผลผลิตน้อย ความต้องการสูง ราคาก็ขึ้น
วันที่ 3 เม.ย.ในการอภิปรายวันแรก นายกรัฐมนตรีได้พูดเรื่องนี้ เราก็อยากให้ราคายางเป็นแบบนี้ไปตลอด แต่พี่น้องชาวสวนยางอย่าประมาทว่าราคายางจะดีตลอด เพราะในอนาคตข้างหน้ามันจะปรากฏผลออกมา เช่น ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ราคายางเคยขึ้นถึง 120 บาท เวลาขึ้นมันไม่ได้ขึ้นเพราะเราหรอก แต่มันขึ้นทุกประเทศ ตนไม่อยากให้หลงทาง แล้วภายภาคหน้ารัฐบาลจะโดนตำหนิว่าหลอกชาวบ้าน
ตนอยากให้รัฐบาลทำงานถี่ถ้วน ได้อ่านรัฐธรรมนูญเมื่อสักครู่แล้ว อยากให้รัฐบาลทำงานรอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม ตนคิดว่าความรอบคอบจะช่วยได้ เพราะมีเหตุร้ายหลายรอบที่เกิดจากความไม่รอบคอบ ซึ่งหากเกิดแล้วยากที่จะแก้ไข ตนจึงอยากถามรัฐบาลว่า ท่านคิดว่า ราคายางจะดีแบบนี้ต่อไปหรือไม่ และโดยความเชื่อส่วนตัวในเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เมื่ออุปสงค์อุปทานเปลี่ยนแปลง ทำให้ความต้องการตกลง รัฐบาลมีแนวการดำเนินการให้ชาวบ้านอยู่ได้ด้วยราคาเท่าไหร่
นายชวน ยังกล่าวถึงปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตนเคยกล่าวไว้แล้วว่ารัฐบาลไม่ได้เขียนนโยบายเกี่ยวกับภาคใต้ไว้เลย ซึ่งเราต้องเอาชีวิตคนเป็นหลัก ความผิดพลาดจากนโยบายในอดีต ทำให้เราสูญเสียชีวิตคนไปจำนวนมาก เราต้องห่วงใยพี่น้องทุกคน ทั้งพุทธ มุสลิม เราอยากรู้ว่า เหตุการณ์นี้รุนแรงแค่ไหน ให้ไปดูข่าวในพระราชสำนัก จะเห็นผู้ว่าฯ จังหวัดต่างๆ เป็นตัวแทนพระองค์ไปมอบสิ่งของ วางพวงมาลาตลอด เราจะมีมาตรการป้องกันความเสียหายพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร พื้นที่นี้เป็นด้ามขวาน ถ้าไม่มีเรื่องความไม่สงบ จะกลายเป็นด้ามทอง อุดมไปด้วยธรรมชาติ แต่ความไม่สงบทำให้มีคนตาย
เมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกว่า 50 ครั้ง นายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ดีขึ้น และได้กล่าวต่อว่าได้โทรไปหานายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จึงขอกราบเรียนถามท่านว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น เป็นเหตุในประเทศหรือระหว่างประเทศ นายกฯมาเลเซีย แนะนำหรือเสนอว่าอย่างไรบ้าง
“เรื่องปัญหาความไม่สงบ ถ้าไม่แน่ใจอย่าไปทดลอง เพราะถ้ามันพลาดแล้วเอาคืนยากมาก เหมือนอย่างวันนี้ก็ขอให้กำลังใจคนแก้ปัญหา… บางเรื่องต้องให้เกียรติคนที่หวังดี” นายชวนกล่าว
นายชวนยังกล่าวว่า ขอชื่นชมคนนอกหลายคน เช่น ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ไม่ใช่นักการเมือง แต่ได้ท้วงติงนโยบายแจกเงิน ท่านไม่ได้เป็นนักการเมือง เพราะฉะนั้น ความคิดท่านไม่ได้เกี่ยวกับคะแนนเสียง แต่เป็นความคิดที่หวังดีต่อชาติ เหมือนกับแม่ทัพภาค 4 ที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่เขาอยู่ในพื้นที่ มันเป็นภาพที่น่าเสียใจมาก พระบิณฑบาตต้องมีทหารเดินนำหน้า ครั้งหนึ่งต้องตายทั้งคู่
ส่วนที่นายกฯพูดว่า “ลงพื้นที่ภาคใต้ 2 วัน 3 คืน ไม่เห็นมีใครใส่เสื้อเกราะ หรือทหารขับรถถังตามมา เพราะมั่นใจว่าไปด้วยเจตนาที่ดี ไปด้วยใจจริง เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มี ส.ส.ที่นั่น ขออย่าไปเชื่อวาทกรรมที่ผู้นำบางท่านพูดว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบิน จ.ภูเก็ต พรรคเพื่อไทยไม่มี ส.ส. แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท”
นายชวน ย้ำว่า เพราะประโยคนี้ ตนจึงมีเรื่องต้องอธิบาย ขอฝากไว้ด้วยความเคารพ เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรี อย่าไปคิดว่ามี สส. เพื่อไทยอยู่หรือไม่ หน้าที่ต้องไป ไปนิดเดียวอย่าทวงบุญคุณ
“นั่นคือหน้าที่อยู่แล้ว ท่านลงพื้นที่ภูเก็ต เข้าใจครับ ความจริงท่านไปก่อนแล้ว เพราะมีบริษัทของท่านไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่นั่น แต่สิ่งที่อยากกราบเรียนก็คือว่า ภูเก็ตเป็นเมืองที่ทำรายได้ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของต่างจังหวัด รองจากกรุงเทพ เราต้องช่วยเขา พัฒนาเขา เพราะรายได้นั้นคือภาษีที่จะมาเลี้ยงประเทศเรา นายกฯเศรษฐา วันนี้เรียกชื่อไม่ผิดนะครับ ท่านไม่ใช่นายกฯ อีแอบนะครับ ท่านเป็นนายกฯ มาครึ่งปีแล้ว ผมก็ติดภาษาใต้ ขออภัยด้วยครับ ภาษาใต้เขาเรียกว่า เสดสา แปลว่าลำบาก แม่บอกว่ากรีดยางทั้งวันได้นิดเดียว เหนื่อย ชีวิตเสดสา ชีวิตเสดสา คือชีวิตลำบาก” นายชวน กล่าว
กราบเรียนท่านนายกฯ ด้วยว่าที่ท่านบอกว่าผู้นำบางท่านพูดว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ ท่านไปเอามาจากไหน ผมไม่เคยพูด ผมพูดในวันแถลงนโยบายว่าภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ คนที่เลือกปฏิบัติเขาไม่ได้ทำโดยแอบทำ เป็นอีแอบหรืออะไรก็ตาม เขาก็พูดตรงไปตรงมาว่า “เมื่อเราได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน ขอพูดตรงๆ เราพัฒนาจังหวัดที่เลือกเราก่อน คือจังหวัดพรรคไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง” นายกรัฐมนตรีอาจไม่ทราบว่าคนพูดคือใคร ผมจะบอกให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นคนพูด ซึ่งก็ไม่ได้แอบพูด แต่ประกาศกับประชาชนตรงๆ” นายชวน กล่าว
ช่วงนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ขอประท้วงในฐานะ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ว่า อย่าเอ่ยถึงคนนอก ที่เขาไม่มีสิทธิ์มาชี้แจง เพราะเรื่องพวกนี้กระทบกับบุคคลภายนอก ซึ่งนายชวนได้พูดถึงอดีตนายกฯ ว่าเลือกปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้นไม่เป็นความจริง เพราะไปดูในเรื่องงบประมาณที่ลงไปในช่วงที่นายกรัฐมนตรีแต่ละท่านได้ดำรงตำแหน่งจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่าการพัฒนาเกิดขึ้นในช่วงใด ขอความกรุณาอภิปรายอยู่ในกรอบพิจารณา และละเว้นการเอ่ยชื่อคนนอก
ทำให้นายชวน สวนกลับไปว่า “ ไม่มีใครอยู่ในกรอบเท่าผม” พร้อมกล่าวต่อว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีกลับไปบอกกับนักธุรกิจที่พูดในวันนั้นว่าไม่เป็นความจริง นายชวนไม่เคยพูดว่า เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ นายชวนพูดว่า ถูกเลือกปฏิบัติ และขอความเป็นธรรมให้ภาคใต้ โดยชดเชยให้ ย้ำว่าตนไม่ใช่คนพูดพล่อยๆ แบบบ้านน้ำลายรายวัน
จากนั้น การอภิปรายก็เข้าสู่เรื่องกระบวนยุติธรรม นายชวน กล่าวว่า รัฐบาลจะฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับต่อนานาประเทศ ซึ่งไม่มีใครไม่เห็นด้วย แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ 6 เดือนกว่า นโยบายบางอย่างอาจต้องใช้เวลา แต่เรื่องโกง เรื่องทุจริต นอกหลักนิติธรรม ไม่มีความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญสามารถอภิปรายได้ วันนี้นโยบายชุดนี้ รัฐบาลสามารถปฏิบัติได้โดยไม่ต้องรอเวลา คือยึดหลักนิติธรรม แต่กรณีที่เกิดขึ้นกับนักโทษ ขอไม่เอ่ยชื่อ จะบอกว่าการที่คนป่วยหายป่วยเป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาจะได้มีชีวิตเป็นขวัญใจให้กับลูกหลานต่อไป และรับกรรมกับสิ่งที่ทำไม่ดีเอาไว้
แต่ปัญหาคือได้มีการปฏิบัติตามกฎกระทรวงหรือไม่ และรัฐบาลก็จะเป็นตัวหลัก ได้ปล่อยปะละเลยหรือไม่ จึงต้องมีคำถามต่อไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดรัฐบาลจะดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ รัฐบาลเป็นผู้บังคับใช้เจ้าหน้าที่ จะจัดดำเนินการอย่างไร หากจะให้ประชาธิปไตยเป็นไปได้ดีไม่ว่าจะฝ่ายไหนต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง
“ที่ผมพูดเรื่องนี้ เพราะมีสิ่งที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนต้องยอมรับในเรื่องนี้ คือถ้าเราต้องการให้ประชาชนของเรามีความสุข เราต้องทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น ถ้าเราไม่รักษาความยุติธรรม ความสุขของประชาชนจะไม่เกิดขึ้น คำกล่าวนี้เป็นคำกล่าวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่รับสั่ง ดังนั้นผมหวังอย่างยิ่งว่า เราทุกคนที่มีภารกิจแตกต่างกันออกไป ต้องยึดหลักของความถูกต้องชอบธรรม” นายชวนกล่าว
---------------
เวลา 17.45 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เรื่องราคายางพารา ว่า
ขอแสดงความยินดีกับชาวสวน ที่ราคายางดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และขอแสดงความเห็นใจกับฝ่ายค้านที่ไม่นึกว่า จะต้องลำบากหาเหตุผลว่า ทำไมราคายางดีไม่ใช่ผลงานของรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามา ราคายางก็ขึ้นอย่างต่อเนื่อง การอธิบายเรื่องราคายางนั้นได้อธิบายไปแล้ว แต่ก็ยังวกไปเวียนมาอีก ซึ่งวิธีคิดและการบริหารงานของสองพรรคไม่เหมือนกัน แต่เราเอาเรื่องผลงานเป็นหลัก ว่าราคายางดีขึ้นในรอบสิบปีที่ผ่านมา รัฐบาลบริหารงานแบบเชิงรุก เข้าใจถึงปัญหา ลงรายละเอียดทุกเม็ด ทำให้ราคายางขึ้น ไทยคือมหาอำนาจของยางพาราโลก เราต้องมั่นใจว่า เราใหญ่ในเรื่องยางพารา ผู้นำต้องมีความกล้าในการผลักดันนโยบายเพื่อให้ราคายางสูง โดยทำงานเพื่อประชาชนให้อยู่ดีกินดี
การที่เราปราบยางเถื่อนไม่ใช่แค่สั่งอย่างเดียว แต่เรากระชับพื้นที่ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ ช่วยกันทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์ 101 ที่หลายท่านก็น่าจะรู้ หากเราทำอย่างจริงจังก็สามารถทำได้ แต่ในอดีตกลับไม่มีการดำเนินการเลย ทั้งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนก่อนหน้านี้ ก็เป็นคนใต้ เป็นคนที่มีกินมีใช้มาจากยางพารา แต่ก็ไม่ได้ดูแลอะไรที่ควรจะทำ
รัฐบาลนี้มีใจทำงานอย่างแท้จริงเพื่อประชาชน และเราจะพยายามรักษาราคายางให้สูงต่อไป เรามั่นใจว่าเราทำได้ แต่ราคาของผู้อภิปรายเรื่องนี้ในสายตาประชาชน จะเป็นอย่างไร ตนรับผิดชอบไม่ได้
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า เรื่องปัญหาภาคใต้ที่อดีตนายกฯ อภิปรายไปพอสมควรนั้น ภาคใต้ไม่ได้มีแค่ยางอย่างเดียว มีโอกาสอื่นอีกมากมาย รัฐบาลให้ความสนใจ แต่ก็วกไปเวียนมากระทั่งเป็นฝ่ายค้านที่ยังงงๆ อยู่ ตนฟังไม่ผิด นายชวนพูดเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 ได้กล่าวไว้ว่า พรรคเพื่อไทยพัฒนาจังหวัดเฉพาะที่เลือกเขา จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ท่านพูดชัดเจน ซึ่งตนพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ การที่ตนไปลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้หลายหน ถือเป็นที่ประจักษ์
มุขด้อยค่าพรรคที่อยู่คนละพรรคกับท่าน เป็นมุขเดิมๆ ลองใช้มุขใหม่ดูบ้างเหอะ ทุกวันนี้ สส.ก็ไหลไปอยู่พรรคอื่น คะแนนเสียงพรรคตัวเองก็น้อยลงไปทุกวัน ลองอะไรใหม่ ๆ บ้างดีกว่า ไม่งั้นจะไม่เหลือพื้นที่ในสภาเลย น่าเสียดาย เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์มาตลอด ก็เป็นห่วง ขอให้มันท้าทายหน่อย ไม่ใช่เอามุขเดิม ๆ มาพูดตลอดเวลา”
นายเศรษฐา ยืนยันว่า “ผมเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ ไม่เคยเลือกปฏิบัติ แต่เกรงว่าท่านจะเลือกอธิบายหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของท่าน แต่ที่จำไม่ผิด ผมได้ยินท่านแสดงถึงความมั่นคงในเรื่องนี้มาตลอด 20ปี ตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯ ทักษิณแล้ว ผมอยากเปลี่ยนมุมมองใหม่บ้างเหมือนกัน”
---------------
หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นราคายางพารา และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย โดยมีบางช่วงที่นายเศรษฐา โต้กลับนายชวนอย่างเผ็ดร้อน
ทำให้นายชวน ต้องลุกขึ้นชี้แจงทันที โดยระบุว่า ตนขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาตอบ แต่ขอยืนยันว่า ที่ท่านไปพูดกับนักธุรกิจ และบอกว่าอย่าไปเชื่อที่ตนพูด ตนยืนยันว่าตนไม่เคยพูด ตนพูดชัดเจนว่า พรรคไทยรักไทยเลือกปฏิบัติกับประชาชน โดยประกาศชัดเจนว่าจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ไม่ใช่เป็นมุขเดิมเป็นมุขเก่าอะไร แต่เป็นความจริงที่จะปรากฏตลอดไป
“คำตลบตะแลงไม่ยั่งยืนหรอกครับ แต่ความจริงจะยืนหยัดอยู่ เพราะฉะนั้นยืนยันว่าสิ่งที่นายกฯไปพูดกระแนะกระแหนผมข้างนอกนั้นไม่จริง ผมยืนยันว่าผมเป็นคนที่ไม่พูดอะไรสับปลับ หรือพูดอะไรที่ไม่รับผิดชอบ ผมไม่กล่าวหาใครที่ไม่เป็นความจริง ผมรู้ว่าคนที่ไม่พูดจริง คนที่โกหก กับพวกโกงบ้านโกงเมืองพวกเดียวกัน”
นายชวนกล่าวต่อว่า เรื่องยางก็ภาวนาให้ราคาดีตลอดไป ที่เราให้ความเห็นก็เพื่อที่จะให้เห็นว่า ผลจากการปราบยางเถื่อน ต่อไปนี้ราคายางจะดีตลอดไม่เกี่ยวกับอุปสงค์อุปทาน แต่พวกตนคิดว่าอุปสงค์อุปทานคือตัวสำคัญ และไม่ควรพูดไปถึงพรรคอย่างโน้นอย่างนี้
อย่างน้อยพรรคประชาธิปัตย์ก็อยู่มานาน ไม่รับใช้พวกโกงบ้านโกงเมือง ไม่ใช่อีแอบ เข้ามามีอำนาจโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ขอให้ท่านอยู่ในประเด็นประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชน ไม่ใช่ไปจด ลอกอะไรมาแล้วมาอ่าน มาพูดกระแนะกระแหนในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกัน สิ่งที่ตนพูดไปนั้นตนรับผิดชอบ
“ยืนยันว่า ผมไม่ได้โกรธอะไรท่านเลยที่ท่านไปพูด เพราะเชื่อว่าท่านเข้าใจผิดว่าผมไปพูดว่าพรรคเพื่อไทย แต่ความจริงที่ผมพูดในสภาสมัยนั้น คือ พรรคไทยรักไทย เพราะการเลือกปฏิวัติเกิดขึ้นตอนนั้น และมีผลจนทุกวันนี้
วันนั้น ผมขอร้องท่านว่า ท่านคงรู้บาป บุญ คุณ โทษ คงจะรู้ว่า สิ่งที่ปฏิบัติไปในอดีตนั้นมีผลกระทบต่อความก้าวหน้าของภาคใต้ ผมขอความกรุณาท่านว่าชดเชยการเสียโอกาส ผมยืนยันว่าผมพูดสิ่งนี้
และวันนี้ ผมก็ยืนยันว่า การเสียโอกาสอันเกิดจากการเลือกปฏิบัตินั้น กรุณาช่วยชดเชย งบประมาณในปีที่ผ่านมาไม่มี ผมเอ่ยชื่อนางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นผู้อภิปรายตัวเลขงบประมาณที่จัดสรรไปให้แต่ละภาค
วันนี้ ยังมีโอกาสในการจัดสรรงบประมาณในปีถัดไปที่จะเห็นว่าท่านจะได้ระลึกถึงการเสียโอกาสของพื้นที่อันเกิดจากการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ผมไม่ใช่คนที่พูดบ้าน้ำลายรายวัน สัมภาษณ์ไปเรื่อย ขอโปรดเข้าใจว่า ถ้าประเด็นใดที่ผมพูดไม่จริง ผมจะไม่ทำ ถ้าพูดไปแล้วผมต้องรับผิดชอบ ผมไม่ได้บอกให้ท่านถอนคำพูด แต่ขอว่าให้ช่วยไปพูดกับนักธุรกิจว่า สิ่งที่ท่านพูดไม่ตรงกับความเป็นจริงกับสิ่งที่ผมพูด” นายชวนกล่าว
-----------------
นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ตนได้ยินผู้อาวุโสพูดว่าอดีต สส.พรรคไทยรักไทย ซึ่งตนเคยอยู่พรรคไทยรักไทย ท่านก็แผ่นเสียงตกร่องอยู่ตลอด ขอให้เลิกสักทีเรื่องเก่าๆ แล้วเดินหน้าต่อ โตๆ กันแล้ว เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี แผ่นเสียงตกร่องมาตั้งแต่ปีไหน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมา 20 ปีแล้ว
นายชวน จึงลุกขึ้นสวนทันทีว่า “ต้องยอมรับว่า ผมอาจเป็นแผ่นเสียงตกร่องจริงๆ เพราะความชั่วก็อยู่เหมือนเดิม หากมีอะไรเปลี่ยนไปผมก็จะไม่ไปย้ำอยู่ที่เดิม การทุจริต และการเลือกปฏิบัติมีผลพวงมาจนถึงปัจจุบันนี้ เราก็ต้องไม่ปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้น”
ระหว่างที่นายชวนกำลังพูด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า การอภิปรายเสียดสีของนายชวน ทำให้พรรคเพื่อไทยเกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกปฏิบัติ การบริหารงานในอดีตก็ตาม สิ่งที่ท่านอภิปราย ท่านมักพูดว่า ท่านพูดแต่ความจริง แต่มันเป็นความจริงในความเข้าใจของท่านคนเดียวหรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะอภิปรายอะไรแล้วก็สรุปในความคิดเห็นของตนเอง แล้วพาดพิงให้พรรคอื่นเสียหาย ซึ่งตนมองว่ากระบวนการนี้ไม่ชอบ และวันนี้เป็นการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 มีอะไรกับรัฐบาล ท่านเต็มที่เลย และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็พร้อมตอบ แต่หากท่านพาดพิงมายังพรรคการเมือง บรรยากาศในห้องประชุมก็ไม่จบ
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ay7HKGD-Eak