เลขาฯ ป.ป.ช.ไม่ยืนยัน รายงานความเห็นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่เผยแพร่เป็นของจริงหรือไม่

วันนี้มีการเผยแพร่เอกสารที่ระบุว่าเป็นรายงานของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.กรณีนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท โดยระบุว่าเป็นรายงานของ ป.ป.ช.ส่งถึงรัฐบาลนั้น เลขาธิการ ป.ป.ช.ไม่ยืนยันว่าเอกสารรายงานที่มีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนเป็นของจริงหรือไม่



วันนี้มีการเผยแพร่รายงานของคณะกรรมการศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานออกมาโดยระบุว่า เป็นรายงานการศึกษาที่จะส่งไปให้รัฐบาล โดยแบ่งเป็นประเด็นสุ่มเสี่ยง 4 ข้อใหญ่ เช่น ประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริต ประเด็นความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ



และ ข้อเสนอแนะ 8 ข้อ เช่น การดำเนินโครงการฯ รัฐบาลต้องศึกษา วิเคราะห์ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมว่าผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ จะไม่ตกแก่พรรคการเมือง หรือบุคคลรายใดรายหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีศักยภาพมากกว่าผู้ประกอบการรายย่อย และบุคคลที่มิได้เป็นคนจนหรือมิใช่กลุ่มเปราะบางที่แท้จริง



นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้เปิดเผยกับทีมข่าวการเมืองว่า คณะกรรมการศึกษานโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่มี น.ส.สุภา เป็นประธาน ได้เสนอรายงานดังกล่าวเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และที่ประชุมได้มอบหมายให้กรรมการ ป.ป.ช.แต่ละท่านนำกลับไปดูรายละเอียดว่าจะมีข้อท้วงติง หรือ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอีกหรือไม่



ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าจะนำเรื่องนี้กลับเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้งเมื่อใด และ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเอกสารรายงานที่มีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนเป็นของจริงหรือไม่



ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงรายงานของคณะกรรมการศึกษา และดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลว่าความเห็นของ ป.ป.ช. เป็นความเห็นที่ต้องรับฟัง เป็นข้อเสนอที่คล้ายกับกรณีโครงการจำนำข้าวที่ ป.ป.ช. ชี้ให้เห็นข้อมูลเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเทียบกับเศรษฐกิจโลกว่าไม่เป็นวิกฤต โดยอ้างอิงความเห็นจากหน่วยราชการ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยสภาพัฒน์ TDRI อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง