ศุลกากรมุกดาหาร ฝังทำลายหมูเถื่อน 2 ตัน พบเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนเกินมาตรฐาน

หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช และกรมศุลกากร จะตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อปราบสินค้าเกษตรเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ จนเป็นสาเหตุให้สินค้าเกษตรในประเทศ มี ราคาตกต่ำ ขณะที่ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ทำลายหมูชำแหละ น้ำหนัก 2 ตัน ที่ไม่มีเอกสารเคลื่อนย้าย และยังพบว่ามีเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อแซลโมเนลลา เกินค่ามาตรฐาน



ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร พร้อมด้วยด่านศุลกากร นำซากสัตว์ประเภทซากสุกร จำนวน 2 ตัน ไปทำลายโดยวิธีการฝังกลบ ซึ่งซากสุกรชุดนี้ถูกเจ้าหน้าที่ยึดได้ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะลำเลียงผ่านด่านกักกันสัตว์ อำเภอเมืองมุกดาหาร โดยผู้ลำเลียงไม่มีใบอนุญาต จึงถูกดำเนินคดี ข้อหาขนย้ายซากสัตว์เข้า-ออก ผ่านเขตเฝ้าระวังโรค ระบาดสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 22 และข้อหาเคลื่อนย้ายซากสัตว์ ข้ามเขตจังหวัด โดยไม่มีใบอนุญาต เป็นความผิดตามมาตรา 34 ของ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และเมื่อนำตัวอย่างซากสุกรไปตรวจพิสูจน์ในห้องแล็บ ก็ยังพบเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อแซมโนเนลลาปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน



นางสาวอัจฉราพร ซาซุม สารวัตรกรมปศุสัตว์ ประจำด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ระบุว่าศาลชั้นต้นสั่งริบของกลาง ทั้งรถบรรทุกและซากสุกรเหล่านี้ และแม้ว่าคดียังไม่สิ้นสุด แต่เมื่อ ตรวจพบว่าของกลางมีเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อน หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ในฐานะสัตวแพทย์ ตามกฎหมายว่าด้วยโรค ระบาดสัตว์ จึงสั่งทำลายของกลางทั้งหมด



กรมปศุสัตว์ เปิดเผยข้อมูลของยุทธการปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ถึงวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่าตรวจห้องเย็นไปแล้วทั้งสิ้น 2,631 แห่ง อายัดสินค้าปศุสัตว์ ผิดกฎหมายในห้องเย็น จำนวน 111 ครั้ง จาก 36 จังหวัด มีสินค้าที่ถูกอายัดทั้งสิ้น 4,615,993 กิโลกรัม คิดเป็นเงินกว่า 477 ล้านบาท แยกเป็นซากโค-กระบือ 436,572 กิโลกรัม / ซากสุกร 885,927 กิโลกรัม และซากสัตว์ปีก จำนวน 3,293,494 กิโลกรัม



ส่วนการดำเนินคดีการลักลอบนำเข้าซากสุกรในปีงบประมาณ 2565-2567 โดยข้อมูลถึง 31 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่า ดำเนินการมาแล้ว 365 ครั้ง เป็นซากของกลาง 6,491,876 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 923 ล้านบาท ทำลายซากสุกรของกลางไปแล้ว 5,543,930 กิโลกรัม ในจำนวนนี้รวมถึงกรณี 161 ตู้ ที่เป็นเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ



ส่วนที่อยู่ระหว่างรอทำลาย จำนวน 12,162 กิโลกรัม และอยู่ระหว่างดำเนินคดี 935,784 กิโลกรัม และวันนี้หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ได้หารือร่วมกันกับกรมศุลกากร เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ แล้วสำแดงเป็นสินค้าอื่น ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงอากรและเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ เนื่องจากสินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้ แทรกแซงราคาสินค้าเกษตรในประเทศจนราคาตกต่ำ โดย 4 หน่วยงานที่ร่วมประชุมกำหนดแผนทำงาน ประกอบด้วยกรมวิชาการเกษตร/กรมประมง/กรมปศุสัตว์ และกรมศุลกากร