บันเทิง

‘กุ้ง สุธิราช’ เปิดใจน้ำตาคลอ เล่าอาการน้องสาว ‘วิ วิรดา’ ป่วยไข้เลือดออกขั้นวิกฤต

โดย chutikan_o

9 ม.ค. 2567

397 views

ยังต้องส่งกำลังใจให้กับครอบครัว ‘กุ้ง สุทธิราช’ อย่างต่อเนื่อง หลังจากน้องสาว ‘วิ วิรดา วงศ์เทวัญ’ (ภิญญ์วดี ภูวรุ่งเรืองหิรัญ) ป่วยเป็นไข้เลือดออกชนิดรุนแรง อยู่ในขั้นวิกฤต โดยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ยังไม่รู้สึกตัว


ล่าสุด กุ้ง สุทธิราช ได้โพสต์ภาพคุณแม่ที่ได้โกนหัวบวชชี เพื่อหวังให้ลูกสาวฟื้น พร้อมเขียนข้อความว่า “ไม่มีความรักใด ยิ่งใหญ่เท่ากับความรักของแม่อีกแล้ว ถ้าหนูฟื้นขึ้นมารู้ไว้นะวิลูก ว่าแม่ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก เป็นความตั้งใจของแม่ที่จะบวช ขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้จงสำเร็จ ขอให้น้องวิ ภิญญ์วดี ภูวรุ่งเรืองหิรัญ กลับมาเร็วๆ นะวิ พี่รักหนูนะ #ยังหวังปาฏิหาริย์ #วิรดาวงศ์เทวัญ”


ก็มีเพื่อนพี่น้องศิลปิน เข้ามาร่วมส่งกำลังใจกันมากมาย อาทิ ‘ก็อต จักรพันธ์’ ที่เข้ามาให้กำลังใจว่า “ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ ขอให้ผลบุญที่แม่ปฏิบัติ ช่วยให้น้องวิกลับมาสู่อ้อมกอดของแม่กับกุ้งอย่างแข็งแรงเหมือนเดิมนะครับ สู้นะวิ ทุกคนในครอบครัวและคนที่รักหนูรอหนูอยู่นะ”


‘ตั๊ก ศิริพร’ ก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า “พี่เป็นห่วงมากๆ เลยจ้ะ กุ้งและคุณแม่รวมทั้งน้องวิเป็นคนดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องคุ้มครองจ้ะ”


‘ฮาย อาภาพร’ ก็เข้ามาบอกว่า “ขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง กับครอบครัววงศ์เทวัญ เป็นกำลังใจให้ แม่ กุ้ง และครอบครัววงศ์เทวัญ บุญที่พี่ฮายทำ ขอส่งให้น้องวิกลับมาในเร็ววัน ด้วยเทอญ”


ล่าสุดทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ไปพูดคุยกับกุ้ง สุทธิราช ถึงอาการของน้องสาว โดยกุ้งเผยว่า รู้ว่าน้องเป็นไข้เลือดออก คือวันที่ 30 ธันวาคม ที่เข้าแอดมิทที่โรงพยาบาล โดยก่อนหน้านั้นได้ไปรับงานที่จังหวัดชัยนาท และ อ.อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม หลังจากนั้นวันที่ 26 ธันวาคม น้องสาวก็มีอาการปวดท้อง มีไข้ หนาวสั่น ตอนแรกก็ซื้อยาลดไข้มากิน เพราะสงสัยว่าเป็นแค่ไข้ทับฤดู ก็กินยาตามอาการ หลังจากนั้นก็ไปทำงานตามปกติ จนวันที่ 27 เริ่มมีความดันต่ำ มึนหัว เวลาเดินคล้ายหัวจะทิ่มลงกับพื้น จึงไปหาหมอ และคุณหมอก็ได้ฉีดยา ซึ่งไม่รู้ว่าฉีดยาอะไร หลังจากนั้นก็ขับรถไม่ไหว ก็มีคนที่ดูแลไปขับรถให้ จนวันที่ 29 น้องนัดกับแม่และคณะเพื่อเตรียมเดินทางไปทำงาน ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันที่ 30-31 ธันวาคม ซึ่งในระหว่างนั้นก็พบว่าน้องสาวมีอาการปกติ แต่ดูอ่อนเพลียและหนาว จากนั้นก็ไปหาหมอที่โรงพยาบาลจนกระทั่งตี 3 พี่ที่ดูแลน้องวิ โทรมาบอกว่าต้องแอดมิทเพราะไข้สูงมาก


หมอตรวจเลือดเพราะสงสัยเป็นไข้เลือดออก และผลออกมาก็พบว่าเป็นไข้เลือดออกจริง ซึ่งตอนนั้นคาดว่าน้องโดนยุงกัด จากการไปงานสองพื้นที่ เพราะแถวที่จัดงานมีป่าและร่องสวนคาดว่าน่าจะโดนยุงกัดในช่วงเวลานั้น


เช้าวันที่ 30 ก็ได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล แต่น้องสาวไม่รู้สึกตัว นอนหลับและหมอบอก มีเกร็ดเลือดต่ำ ตอนนั้นไม่คิดว่าจะเป็นอะไร ก็บอกน้องว่าพักผ่อนนะ พี่จะไปทำงาน จากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงบอกว่าน้องวิเป็นอะไรไม่รู้นิ่งไปเลย ระหว่างที่พยาบาลมาเช็ดตัวพบว่ามีไข้สูง 40.7 พยาบาลก็เช็ดตัวและไข้ลดลง แต่น้องวิไม่ตอบสนองมีอาการนิ่ง ตาลอย จากนั้นหมอก็บอกว่า น้องช็อก หมดสติต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และท่อช่วยความดัน


ตอนนั้นช็อกมากไม่คิดว่าน้องสาวจะมีอาการรุนแรงขนาดนี้ ต่อมาทางครอบครัวตัดสินใจย้ายมาโรงพยาบาลหนึ่งย่านสุขุมวิทก็พบว่า หัวใจเต้นเพียง 20% และมีภาวะทางสมอง คุณหมอทำบอลลูนหัวใจทันทีและตอนนี้ผ่านไป 9 วันแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกตัว


อาการโดยรวม อวัยวะภายในไม่มีติดเชื้อ หัวใจก็ดีขึ้น จากการใส่บอลลูน แต่ยังหายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนสมองก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น โดยเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ก็ได้ตรวจเช็กสมองด้วยเครื่องเอ็มอาร์ไอ ก็ยังไม่พบคลื่นสมอง แต่ก็ยังมีความหวังว่าน้องจะดีขึ้น ส่วนความหวังทางด้านความเชื่อ ไปไหว้ขอพร อะไรทำได้ก็ทำ


ส่วนที่คุณแม่บวชชี กุ้งบอกว่า คุณแม่เคยบนไว้ว่าถ้าน้องหายมาจะบวชชีโกนหัวด้วยกัน 7 วันขึ้นไป แต่คุณแม่เห็นว่ายังวิกฤตอยู่ คุณแม่ก็เลยไม่รอ ไปบวชก่อนและยังไม่มีกำหนดจะสึกเมื่อไหร่


กุ้งยอมรับว่าเป็นกังวล เพราะกลัวว่าเคสของน้องวิ จะเหมือนกับ ‘ปอ ทฤษฎี’ แต่ก็ยังใจชื้น ที่อวัยวะต่างๆ ยังไม่มีการติดเชื้อ มีแค่สมองบวมจากอาการป่วย


กุ้งพูดด้วยอาการน้ำตาคลอ ยอมรับว่าเครียดเพราะมีกันสองคนพี่น้อง ตนเองและน้องสาวทำงานด้วยกันมาตลอด เล่นลิเกก็เป็นพระเอกนางเอกคู่กันมา สิ่งที่เกิดขึ้นมันกระทันหันมาก โรคนี้เป็นภัยเงียบที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ก็อยากบอกกับน้องวิว่า อยากให้กลับมาเร็วๆ พี่และแม่ มีความหวังว่าน้องจะกลับมา


สำหรับอาการที่น้องสาวของกุ้งเป็นนั้น เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้เลือดออก ซึ่งแพทย์ระบุว่าน้องสาวได้รับเชื้อตัวเดงกิ สายพันธุ์ที่ 1 บวกกับภาวะแทรกซ้อนจึงทำให้เกิดอาการดังกล่าว โดยแพทย์ไม่สามารถระบุได้ว่าอาการจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ต้องประคับประคองเป็นรายวัน แต่ตอนนี้ขอให้สมองกลับมามีคลื่นสมองและใช้งานได้ รู้สึกตัว ส่วนอาการอีกอย่างที่เห็นได้ชัด นอกจากมีไข้ คือ เกร็ดเลือดผิดปกติ ซึ่งคนปกติคนจะมีเกล็ดเลือดอยู่ประมาณ 150,000-450,000 ตัวต่อปริมาณเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร (150,000-450,000/mm3) แต่ของน้องวิ เกร็ดเลือด อยู่ที่ 100,004 เซลล์ไมโครลิตร เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตกลงมา 80,000 เซลล์ไมโครลิตร ตอนนี้หมอให้เลือดอยู่ รวมแล้วเกร็ดเลือดอยู่ที่ประมาณ 30,000 ถึง 40,000 เซลล์ไมโครลิตรต่อวัน

คุณอาจสนใจ

Related News