'กุ้ง สุธิราช' ยังรอปาฏิหาริย์ หลังน้องสาวป่วยไข้เลือดออก นานเกือบปี ค่ารักษาเกิน 10 ล้าน

พระเอกลิเกชื่อดัง “กุ้ง-สุธิราช วงศ์เทวัญ” ออกมาอัปเดตอาการป่วยของน้องสาว “วิ-วิรดา วงศ์เทวัญ” ที่ป่วยหนักนานเกือบ 1 ปี  ขณะมาร่วมงานแถลงข่าวกิจกรรมโหมโรงลิเกการกุศล ตามโครงการ “หนึ่งใจ…ช่วยเหลือผู้ประสบภัย” โดยกุ้งได้เผยว่า

อาการของน้องวิ ยังเหมือนเดิม ยังคงไม่รู้สึกตัว ยังนอนอยู่โรงพยาบาล ปลายปีนี้ก็จะครบ 1 ปีเต็ม ก็เฝ้ารอปาฏิหาริย์ ยังรออยู่ ก็ยังมีความหวังเล็กๆ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่มีการสื่อสารอะไรออกมา ให้เราได้เห็นชัดเจนว่าดีขึ้น ก็ยังทรงๆ ส่วนสภาพจิตใจของคนในครอบครัวทุกคนก็ยังสู้ ยังรอคอยความหวังอยู่ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็อยู่กับความเป็นจริง ในส่วนตัวของตนเอง ก็อยู่กับความเป็นจริง ก็ต้องยอมรับให้ได้ในทุกแบบ แต่ก็พยายามให้กำลังใจคนในครอบครัว ให้กำลังใจญาติพี่น้อง คุณแม่คือคนสำคัญที่ต้องให้กำลังใจมากๆ

โดยตลอด 1 ปีที่น้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ร่างกาย หน้าตายังเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่ว่าสมองยังไม่ทำงาน ไม่ซูบผอมลง ค่อนข้างปกติมากๆ เหมือนนอนหลับ

ตอนนี้คุณหมอก็ไม่ได้ให้ความหวังอะไรมาก รักษาไปตามอาการ พยายามไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้มีอะไรที่มันหนักกว่านี้ ก็อยู่แบบทรงๆ แต่ในเรื่องของสมองก็ยังคงนิ่งอยู่ ทางการแพทย์ก็คงไม่ได้ให้ความหวังอะไรขนาดนั้น ก็ยังสู้ ยังไหว้พระขอพรกันอยู่ หวังว่าปาฏิหาริย์มันจะเกิดขึ้นเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งทางครอบครัวก็ตั้งใจดูแลรักษาน้องแบบเต็มที่ เดี๋ยวดูว่าหลังจากนี้ ใกล้ครบประกันแล้ว อาจจะต้องย้ายอีก แต่ยังหาข้อสรุปกันอยู่ ซึ่งสิ้นปีนี้ประกันยังถึงอยู่ แต่ปีหน้าน่าจะต้องเริ่มใหม่ เพราะน่าจะครบแล้ว

ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลก็ต้องสู้กันต่อไป อยากดูแลน้องให้ดีที่สุด ถามว่าหมดประกันแล้วจะทำอย่างไรต่อไป กุ้งก็เผยว่าเท่าที่คุยกับทางประกัน เขาก็ต่อให้ แต่ว่าต้องเว้นระยะประมาณ 90 วัน ซึ่งในช่วง 90 วันนี้ ก็ต้องดูแลกันเอง น่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ก็เตรียมไว้เท่าที่มี สู้กันเต็มที่ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเรื่องจิตใจมากกว่าที่สำคัญ เพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก จากเมื่อปีที่แล้ว จนจะครบปีแล้ว ก็ยังไม่เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็ยังทรงๆ อยู่ ได้แต่ภาวนา ได้แต่ให้กำลังใจกันกับคนที่ไปเฝ้า

เมื่อถามว่ามีถอดใจไหม ? กุ้งเผยว่าไม่ได้ถอดใจ เพราะอย่างน้อยเราได้เห็นน้องอยู่ทุกวัน ก็เอาตามความเป็นจริง ถ้าอะไรมันไม่ดีขึ้น มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น ถ้ามันดีขึ้น เราก็จะได้เห็นกัน เพียงแต่ว่าเราดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ถามว่าจะดูแลจนกว่าเขาจะไปด้วยตนเองใช่ไหม ก็คิดอยู่ว่าเราจะต้องดูแลกันไป ซึ่งที่ผ่านมาก็หมดค่ารักษาเกิน 10 ล้านแล้ว แต่ประกันจะอยู่ที่ 15 ล้าน แล้วหลังจากนั้นก็ต้องมาดูแลกันเองก่อน

ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงคุณแม่ ที่อายุมากแล้วแต่ยังต้องมาเฝ้าลูกสาว กุ้งเผยว่า เขาก็เต็มที่ที่สุดแล้ว ตนเองก็พยายามบอกเขาว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถามว่าเรารักไหม ห่วงไหม เราก็รักน้องที่สุด แม่ก็แน่นอนอยู่แล้ว ก็ทำให้เต็มที่ที่สุด แม่มีเวลาก็ต้องไปเฝ้า แต่ก็ไม่ได้ให้อยู่ตลอดเวลาทุกวัน บางทีตนเองไปงาน ก็พาคุณแม่ไปด้วย เพื่อที่จะให้เขาได้ออกมาข้างนอก ได้มีรีแลกซ์บ้าง