"บิ๊กป้อม" ควง 3 รัฐมนตรี พปชร. นั่งชิลกินไอศกรีมโบราณศรีเทพ ฉลองมรดกโลก

"บิ๊กป้อม" ปรากฎตัวร่วมเวที พปชร.สัญจรเพชรบูรณ์ ครั้งแรก กลบกระแส พปชร.ไม่เหนียวแน่น ลั่น! ยังยืนหยัดเคียงข้างประชาชน



พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จัดกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจรเป็นครั้งแรก ที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อติดตามความคืบหน้า การแก้ปัญหาที่ดินที่ทำกิน รวมถึงนโยบายสำคัญในการเปลี่ยนที่ดิน สปก.4-01 เป็นโฉนด ตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่สามารถดำเนินการสำเร็จ ภายใน 3 เดือนหลังร่วมรัฐบาล โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ผลักดัน



โดยการเดินทางมาร่วมกิจกรรมกับพรรคพลังประชารัฐ ของพลเอกประวิตร ครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังจากที่หายหน้าหายตาไป ไม่มาแม้แต่ประชุมสภาฯ ทามกลางกระแสพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่เหมือนเหนียวแน่นเหมือนเดิม



ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ขึ้นเวทีคล้ายกับการปราศรัยกับประชาชนชาวเพชรบูรณ์ โดยได้อวยพรปีใหม่ ขอให้ทุกคนโชคดี ประสบความสำเร็จ ส่วนตัวรู้สึกประทับใจที่มาจังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะมาทุกครั้งก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี และขอบคุณชาวเพชรบูรณ์ ที่เลือกผู้พรรคพลังประชารัฐยกจังหวัด ซึ่งพรรคฯได้ให้เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับนายสันติ พร้อม​พัฒน์​ เพื่อตอบแทนชาวเพชรบูรณ์



พลเอกประวิตร ยังยืนยันด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐ ยังยึดมั่นในการก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ และจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนต่อไป พร้อมขออวยพรให้ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ มีความสุขตลอดปีและตลอดไป พร้อมยืนยันว่า การผลักดันให้เมืองศรีเทพเป็นมรดกนั้น เป็นผลงานของตนเอง




ด้าน ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้เรามาบอกข่าวดีให้กับชาวเพชรบูรณ์ จากที่เคยหาเสียงไว้ว่าจะเปลี่ยนที่ดิน สปก. 4-01 เป็นโฉนด ในอีก 8 วัน เราจะทําการแจกโฉนดเพื่อการเกษตรให้กับคนไทยทั้งแผ่นดิน ทั้งนี้ พลเอกประวิตร เป็นคนสั่งตนว่าต้องทําให้ได้



“ท่านครับ ตอนนี้นัสทําได้แล้วครับนายครับ“ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว



ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเมืองมะขามหวาน ดังนั้นเราจะเปลี่ยนต้นมะขามของท่านให้มีมูลค่า ออกเอกสารต้นไม้ให้คนจังหวัดเพชรบูรณ์ คือโฉนดต้นมะขาม ซึ่งขณะนี้กําลังศึกษาอยู่

พร้อมกับลงพื้นที่เมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ชมมหาเจดีย์เขาคลังนอก หลังจาก UNESCO รับรองบรรจุเมืองโบราณศรีเทพ เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 ซึ่งเป็นผลงานที่ พล.อ.ประวิตร ผลักดันเมื่อสมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และขับเคลื่อนต่อในสมัยรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน โดย พล.ต.อ.พัชรวาท น้องชาย



ทั้งนี้ คณะพรรค พปชร. ได้นั่งพักผ่อนทานไอศกรีมเมืองโบราณศรีเทพระหว่างฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์ และถ่ายภาพร่วมกันก่อนเดินทางกลับ

ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจรเป็นครั้งแรก ที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์



โดยย้ำว่า กิจกรรมดังกล่าว เป็นการมาชี้แจงการทำหน้าที่ของตนเอง และพรรคพลังประชารัฐตลอด 7-8 ปีทีผ่านมาต่อประชาชน ทั้งการแก้ปัญหาที่ดิน แก้ปัญหาเรื่องน้ำ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ แก้ปัญหาราคาปาล์ม ยกระดับที่ สปก.4-01 เป็นโฉนด รวมถึงปัญหาการค้ามนุษย์ และการประมง IUU จนประเทศไทย สามารถปรับเทียร์ได้ รวมถึงนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่ง ผลงานพลังประชารัฐทั้งนั้น



พลเอกประวิตร ยังย้ำด้วยว่า หลังจากนี้ตนเอง และพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่ไปในหลายๆจังหวัด ที่พรรคพลังประชารัฐมี สส. รวมถึงจังหวัดที่ไม่มี สส.พรรคฯ ด้วย



ส่วนการลงพื้นที่หลังจากนี้มีนัยยะทางการเมืองที่พลเอกประวิตร จะคัมแบ็คกลับมาสู่เวทีการเมืองหรือไม่นั้น พลเอกประวิตร ยืนยันว่า ไม่ใช่การคัมแบ็ค เพราะตนเองไม่ได้ไปไหน แต่ที่เงียบหายไปนาน เพราะไม่ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังคงทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ อยู่เป็นเบื้องหลัง เช่นเดียวกับการทำหน้าที่ สส. แต่ไม่ค่อยได้ไปประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะขาเดินไม่ได้ เจ็บขา เพิ่งดีขึ้น 2 วันนี้เอง



ส่วนพลเอกประวิตร ยังมีโอกาสการกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังมีกระแสข่าวจะปรับ ครม. พลเอกประวิตร ไม่ได้ปฏิเสธ ย้อมถามสื่อคุณจะตั้งหรือไม่ละ ก่อนจะระบุว่า ให้ว่าไปตามกระแสข่าว เพราะตนเองก็ไม่ทราบ แม้จะอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีการส่งสัญญาณใดๆ มาที่พรรคพลังประชารัฐ ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี และตนเองก็ไม่รู้เรื่องดังกล่าวด้วย



ส่วนพรรคพลังประชารัฐยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมหรือไม่ หลังมีกระแสข่าว สส.หลายคนเริ่มหวั่นไหว และพลเอกประวิตร ก็เงียบหายไประยะหนึ่งนั้น พลเอกประวิตร ได้ย้อนถามสื่อมวลชนกลับมา แล้วมีอะไรที่ไม่เหนียวแน่น และใครหวั่นไหว ก่อนที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯ จะช่วยอธิบายว่า เป็นเนื่องจากช่วงปิดสมัยประชุม และ สส.พรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึงสมาชิกพรรคฯ ก็ยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนต่อไป



พลเอกประวิตร ยังกล่าวถึงเจ้าภาพการนัดกินข้าว ระหว่างหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่คราวนี้นายอยุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพ โดยระบุอย่างเสียงดังว่า ไม่ไป! เพราะตนไม่ใช่หัวหน้า ต้องไปถามพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะหัวหน้าทีมรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ และตนเองก็ดูแลเฉพาะพรรคฯ



ส่วนที่พลเอกประวิตร ยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อยู่ในกรณีที่มีอุบัติเหตุทางการเมืองนั้น พลเอกประวิตร ไม่ได้ตอบคำถามนี้



อย่างไรก็ตาม การให้สัมภาษณ์ของพลเอกประวิตรในครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พลเอกประวิตร มีอารมณ์ที่แจ่มใส ตอบคำถามด้วยลีลาหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวตลอดระยะเวลาการให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่การเลือกนายกรัฐมนตรีโดยที่ประชุมรัฐสภาเสร็จสิ้น จนมีกระแสข่าวพลเอกประวิตร จะลาออกจาก สส.จนกระทั่งพลเอกประวิตร ได้ปรากฏตัวกับสื่อมวลชน พร้อมร่วมทำกิจกรรมกับพรรคพลังประชารัฐอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ (7 ม.ค.) มีแกนนำของพรรคฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ มาร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง



เมื่อผู้สื่อข่าวแซวพลเอกประวิตรว่า หนี้สินจากการแสดงบัญชีทรัพย์สินมี 757 บาทนั้นมาจากจากอะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าเป็นหนี้สินจากบัตรเครดิต ผู้สื่อข่าวแซวต่อว่า แล้วใครเอาไปกด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้



ส่วนที่น้อยเกินไป จนถูกผู้ใช้ออนไลน์ต่างแสดงความคิดเห็นว่า เป็นค่าหมูกะทะหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของภาษี ที่เขาเก็บ พร้อมกล่าวว่า ถามอะไรก็ไม่รู้



ผู้สื่อข่าวจึงแซวต่อว่า ด้วยหนี้สินมูลค่า 757 บาทนั้น จะเข้าร่วมโครงการแก้หนี้ของรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยน้ำเสียงดังว่า “ฉันเป็นคนทำ จะไปอย่างไรล่ะ ฉันทำปลดหนี้ ทำเป็นโฉนดให้ประชาชนกว่า 20,000 บาท ทำไมไม่ชมฉันบ้าง”