เลือกตั้งและการเมือง

บรรยากาศเงียบเหงา อภิปรายงบประมาณ ปี 67 วันที่สอง

โดย attayuth_b

4 ม.ค. 2567

55 views

การอภิปรายงบประมาณปี 2567 วันที่สอง บรรยากาศเงียบเหงา ส่วนใหญ่เป็นการอภิปรายของฝ่ายรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้าน มีประเด็นงบของกระทรวงกลาโหม ที่มุ่งเน้นไปยังนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนนายกรัฐมนตรี ชี้แจง 3 ครั้ง และเดินทางกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็น

วันที่สองในการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้าน 3 ครั้ง ในประเด็นสำคัญ เช่น โครงการแลนด์บริดจ์ระนอง-ชุมพร ที่ยืนยันว่า จะเป็นเมกกะโปรเจ็คสำคัญของโลก เพราะกำลังมีปัญหาการขนส่งที่แออัดในช่องแคบมะละกาจึงเป็นทางเลือกสำคัญของนักลงทุน และยังจะเป็นการแสดงจุดยืนที่เป็นกลางของไทย ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ผ่านโครงการแลนด์บริดจ์ และจะรับฟังความเห็นของประชาชนและนักธุรกิจในพื้นที่ด้วย

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ชี้แจงการอภิปรายของนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ซึ่งอภิปรายงบประมาณในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งครบ 20 ปี ของเหตุการณ์ มีการใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 5 แสน 4 หมื่นล้านบาท มีการสูญเสียบาดเจ็บเสียชีวิตไปกว่า 21,575 ราย และงบปี 67 เพิ่มขึ้น 6.5 เปอร์เซ็นต์ สวนทางการสร้างสันติสุข ที่แม้ยังไม่สงบแต่งบก็มา พร้อมเปรียบเทียบงบคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของ สมช.กำหนดไว้ 10.1 ล้านบาท แต่ของ กอ.รมน.มีงบ 9.3 ล้านบาท สวนทางกับการใช้กฏหมายปิดปาก เหมือนคนเป็นโรคไบโพล่า

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงทันที โดยขอบคุณสมาชิกที่ให้ข้อคิดงบประมาณของ กอ.รมน. และวิธีการบริหารจัดการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะให้ทีมงานไปขยายผลให้ปัญหาลดลง

โดยเห็นว่าตั้งแต่เข้ามาทำงาน กอ.รมน.ตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง และต้องการคืนความสงบ ความมั่งคั่งให้คนในพื้นที่ รวมถึงได้หารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียพร้อมสนับสนุนการสร้างสันติภาพซึ่งยินดีที่ไทยมีหัวหน้าคณะพูดคุยเป็นพลเรือน ส่วนมีการกล่าวหา กอ.รมน.เป็นไบโพล่า นายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่ทราบเพราะไม่ได้เป็นหมอ

นอกจากนี้นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายผิดหวังงบปี 67 ของพรรคเพื่อไทย ที่คัดลอกวางมาจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แม้กระทั่งคำว่า มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เหมือนงบฝากเลี้ยง และการใช้งบประมาณไม่ตรงเป้าหมายเช่นจะเน้นปัญหาเศรษฐกิจปากท้องแต่เพิ่มงบประมาณความมั่นคง เปลี่ยนบทบาทกระทรวงการต่างประเทศให้ทำการค้าแทนกระทรวงพาณิชย์ จะสมัครคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่มีปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ เช่นการคุมขังชาวอุยกูร์ กว่า 9 ปี

ส่วนประเด็นอภิปรายที่ถูกพูดถึงมากที่สุดวันนี้เป็นการอภิปรายงบกระทรวงกลาโหม โดย นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่เปรียบการจัดทำงบประมาณที่นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งเป้าจะให้กองทัพให้ทันสมัย แต่กลับปล่อยให้มีโครงการซื้ออาวุธใหม่ 26 โครงการ มูลค่า 57,800 ล้านบาท และพบนวัตกรรมการผ่อน ซ่อนอยู่ในแบบดาวน์น้อยผ่อนนาน จึงให้ฉายา สุทิน ดาวน์น้อย ทวีสินเชื่อ พร้อมตั้งคำถามว่าจัดงบประมาณแบบนี้เพื่อเอาใจกองทัพหรือไม่

ขณะที่ นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม.พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึงนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่พรรคเพื่อไทยประกาศไว้ จะทำกี่โมง และการใช้งบลับ ที่พรรคเพื่อไทย โดยนายสุทิน เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้านเคยอภิปรายไว้ จึงถามว่าพอมาเป็นรัฐมนตรีแล้วเปลี่ยนไปหรือไม่

นายสุทิน ชี้แจงว่าไม่เคยลืมจุดยืน ที่เคยอภิปรายกระทรวงกลาโหมไว้ ทุกเรื่องต้องใช้เวลา ที่ขอพิสูจน์ฝีมือว่าไม่ได้ซูเอี๋ยกับกองทัพ และงบประมาณจัดซื้ออาวุธอำพราง ไม่ได้ดาวน์น้อย ผ่อนนานอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นการจัดสรรมาจากสำนักงบประมาณ ที่มีเงินจ่ายล่วงหน้า 15 เปอร์เซ็นต์ จ่ายจริง 5 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจงงบประมาณแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และในวันที่ 10-12 มกราคมนี้ ก็เตรียมเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่เพื่อกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการปัญหานี้

สำหรับการอภิปรายในภาพรวมสองวันที่ผ่านมา ภาษาข่าวอาจเรียกได้ว่า กร่อย เพราะการอภิปรายของฝ่ายค้าน ยังไม่มีหมัดเด็ด ซึ่งอาจเป็นเพราะการอภิปรายงบประมาณ ไม่ใช่อภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงไม่เห็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล อภิปรายอย่างดุเดือด และยังให้บทบาทกับสส.ใหม่ได้อภิปรายมากขึ้น และในส่วนของรัฐบาล ก็เชื่อมั่นในเสียง สส.ในสภา ที่จะยกมือสนับสนุนให้ร่างงบประมาณ ปี 2567 ผ่านในวาระที่ 1 ซึ่งต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร

คุณอาจสนใจ