ข่าวโซเชียล

‘ชัยธวัช’ ยกเหตุการณ์ ‘ก้าวไกล’ ชนะเลือกตั้ง ท้าทายสุดในปี 66 เตือนรบ.อย่าปล่อยให้ 'ทักษิณ' เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว

โดย petchpawee_k

30 ธ.ค. 2566

118 views

“ชัยธวัช” ยกเหตุการณ์ “ก้าวไกล” ชนะเลือกตั้ง ท้าทายที่สุดในปี 66 รับหาก “พิธา” รอดปมหุ้น พร้อมมอบตำแหน่งคืนตามเดิม  กำชับลูกพรรคทำงานให้หนัก งดทะเลาะกับพรรคอื่น เตือนรัฐบาล อย่าปล่อยให้ “ทักษิณ” เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว นำไปสู่วิกฤตศรัทธา 


วันที่ 30 ธันวาคม 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความนิยมของพรรคก้าวไกลได้ชนะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ก็พลิกผันจนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ มองการรักษาความนิยมในปีหน้าและต่อไปอย่างไรนั้น


นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุดของพรรคก้าวไกล ภายในพรรคมีการพูดคุยกันหลายครั้ง โดยสรุปพวกเราเห็นว่าในอนาคตข้างหน้า คู่แข่งหรือความท้าทายที่สำคัญสำหรับพรรคก้าวไกล ไม่ใช่พรรคการเมืองคู่แข่ง แต่เป็นตัวเราเอง หมายความว่า อนาคตความสำเร็จในทางการเมืองของพรรคก้าวไกล ขึ้นอยู่กับเราจะชนะตัวเองได้หรือไม่ เราจะทำงานให้เป็นพรรคการเมืองในแบบที่เราพูดได้หรือไม่ เราสามารถทำงานให้เป็นอย่างที่ประชาชนคาดหวังได้หรือไม่ เป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุด คือแข่งกับตัวเอง หากสามารถบรรลุได้ เชื่อว่าความสำเร็จทางการเมือง และการยอมรับจากประชาชนจะมีมากขึ้น


“ผมบอกลูกพรรคว่าอย่าเสียเวลาไปทะเลาะกับพรรคการเมืองคู่แข่ง ให้ทำงานให้หนัก แล้วสร้างผลงานตัวเอง พิสูจน์ตัวเองว่า พรรคก้าวไกล สส.ของพรรคก้าวไกล ทีมงานของพรรคก้าวไกล มีความพร้อม มีความเหมาะสมบริหารประเทศจริงๆ นี่เป็นเป้าหมาย” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากเกิดแผ่นดินไหวทางการเมือง จะเกิดการดึงตัว สส.ที่ส่วนมากเป็นหน้าใหม่ ย้ายไปซบพรรคอื่น นายชัยธวัช ยืนยันว่าไม่กังวล สำหรับงูเห่าได้พิสูจน์ไปแล้วว่างูเห่าทุกตัวจากพรรคก้าวไกล สอบตกหมด แต่สิ่งที่ให้ความสำคัญสำหรับ สส.ใหม่และ สส.สมัยที่สองคือการพัฒนาศักยภาพตัวเองให้มากกว่านี้ เพื่อให้พร้อมกับการทำงาน เพราะต้องยอมรับว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงตั้งไข่ของหลายคน หลายคนอาจเพิ่งเรียนรู้ว่าการทำงาน สส. เขตที่ดีควรเป็นอย่างไร ได้เจอโจทย์ของจริงการทำงานในกลไกต่างๆของสภาเป็นอย่างไร การทำงานในกรรมาธิการอย่างมีประสิทธิภาพให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมายังอยู่ในช่วงตั้งไข่ของสส. ใหม่หลายคน แต่สำหรับ ปีหน้าคงหมดเวลาฮันนีมูนแล้ว ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายรัฐบาล แต่ฝ่ายค้านก็หมดเวลาฮันนีมูนแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องพิสูจน์ผลงาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 24 มกราคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีคุณสมบัติ สส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แล้วหากนายพิธา สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้ต่อจะวางบทบาทไว้ตรงไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอนตามที่ตนได้เคยแถลงครั้งประชุมสมัยวิสามัญ พรรคก้าวไกล ที่มีการเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ตนได้แถลงอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นการปรับคณะกรรมการบริหารพรรคชั่วคราวเท่านั้น เพื่อรอการประชุมใหญ่สามัญของพรรคจริงๆ ในเดือนเมษายน 2567 ดังนั้นหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้กลับมาทำหน้าที่ สส.อีกครั้ง ตนเชื่อว่าสมาชิกพรรคจะสนับสนุนให้นายพิธา มาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่อีกครั้ง


เมื่อถามว่ามีความสุขดีหรือไม่ที่ต้องมาเป็นหัวหน้าพรรคเฉพาะกิจแทนนายพิธา นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนมีความสุขกับการทำงานทุกวัน ทุกบทบาท เพราะสิ่งที่อยากเห็นสำหรับประเทศนี้ยังไปไม่ถึง ตนยังมีความหวัง ยังมีความฝัน มีเป้าหมายที่อยากจะทำ และคิดว่าสังคมแบบที่เราอยากเห็นไม่ได้ใช้เวลาเพียงช่วงข้ามคืน แต่ต้องสะสมการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ แต่การผลักดันด้วยการทำงานของเรา เชื่อว่าจะเร่งการเปลี่ยนแปลงได้ และบทบาทของพรรคอนาคตใหม่มาถึงพรรคก้าวไกล คือเป็นตัวเร่งในการเปลี่ยนแปลง เช่น การที่สภาฯรับหลักการ พรบ.สมรสเท่าเทียม


เรามีความภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานผลักดันทางความคิดแก่คนในสังคมมาไม่ต่ำกว่า 4 ปี จนกระทั่งทุกภาคส่วน หลายพรรคการเมือง พร้อมสนับสนุนสิ่งนี้ ซึ่งหากนึกภาพการเมืองในสภาก่อนมีพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล คงนึกไม่ถึงว่าเราจะมีการพิจารณาเรื่องแบบนี้ในรัฐสภาไทย วันนี้ถือเป็นความสำเร็จของสังคมไทยร่วมกัน


นอกจากนี้นายชัยะวัช ยังระบุอีกว่า ประเด็นที่มีนัยสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้คือกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นการใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลที่ รพ.ตำรวจ นำไปสู่คำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ตามหลักเกณฑ์ ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ ถือว่าเป็นการได้รับการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานที่เหนือกว่ากรณีทั่วไปหรือไม่ รวมถึงความไม่ชัดเจนว่าระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ที่อนุญาตให้มีการควบคุมตัวผู้ต้องขังนอกเรือนจำได้


ซึ่งหลักการใหญ่เป็นเรื่องที่ดี ควรจะสนับสนุน แต่เรื่องนี้ เท่าที่เราเห็นระเบียบที่ออกมา มีการให้อำนาจของเจ้าหน้าที่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ในการพินิจว่าใครจะได้รับสิทธิบ้าง พอไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจนก็เลยกลายเป็นใช้อำนาจโดยดุลยพินิจ ทำให้คนตั้งข้อสังเกตว่าเอื้อประโยชน์ให้คนที่มีเส้นสาย คนที่มีอิทธิพลทางการเมือง หรือคนที่มีฐานะหรือไม่ รวมถึงตัวนายทักษิณก็จะเป็นปัจจัยสำคัญในต้นปีด้วยว่าถ้าเกิดกรณีที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเกิดกระบวนการยุติธรรมแบบอภิสิทธิ์ชนขึ้นมา ก็น่าจะส่งผลต่อรัฐบาลเช่นกัน


“อย่าปล่อยให้เกิดเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่นำไปสู่วิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาลได้ จะเห็นว่าตอนนี้รัฐบาลถูกถามทุกวันในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น ดีที่สุด รัฐบาลควรจะให้คำตอบ ควรชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนให้สิ้นสงสัยให้หมด ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ทำถูกทุกอย่างและบอกได้ว่าไม่เป็นการใช้อภิสิทธิ์ทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และกรณีที่จะมีการพิจารณาผู้ต้องขังที่จะไปคุมตัวนอกเรือนจำ จะไม่เอื้อประโยชน์ต่อคนใดคนหนึ่ง ถ้ารัฐบาลยังตอบเรื่องนี้ไม่ชัดเจน มันก็จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้” นายชัยธวัช กล่าว


รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/VjQxr42zS4Y

คุณอาจสนใจ

Related News