เศรษฐกิจ

“อนุทิน” ลงพื้นที่ “เชียงใหม่” ตรวจความเรียบร้อย รับนโยบายปิดสถานบริการตี 4

โดย gamonthip_s

21 ธ.ค. 2566

73 views

20 ธันวาคม 2566 เวลา 22.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อย ที่สถานบริการจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากรัฐบาลเดินหน้านโยบายให้สถานประกอบการที่มีใบอนุญาต และอยู่ในพื้นที่โซนนิ่ง สามารถให้บริการได้ถึงตี 4 โดยตลอดทางในการตรวจเยี่ยมพบมีประชาชนเข้ามาทักทายในอนุทิน และคณะเป็นจำนวนมาก



นายอนุทิน กล่าวว่า ที่มาเชียงใหม่เพื่อต้องการให้เกิดความมั่นใจว่าผู้รักษากฎหมาย ฝ่ายปกครอง ตำรวจพื้นที่ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด  เข้มงวดกวดขัน ซึ่งถ้าเราได้รับความร่วมมือแบบนี้ เป็นความร่วมมือที่ดี เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น จากที่เห็น เราค่อนข้างมั่นใจว่า องค์ประกอบทั้ง 3 ได้แก่ ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว ฝ่ายรักษากฎหมาย มีความเข้าใจกันดี ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร กฎหมายที่ออกมา มันควบคุมไว้หมดแล้ว คิดว่าสถานบริการเองต้องระวังไม่ให้มีการละเมิดกฎหมาย  ยาเสพติด เด็ก อาวุธร้ายแรง จะปล่อยเข้ามาไม่ได้ เพราะถ้าละเมิดขึ้นมา สถานบริการถูกปิด 5 ปี มันไม่คุ้ม แต่เราก็ต้องประเมินกัน ตอนนี้ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เราเข้าใจว่ามันเปิดได้ถึงตี 4 เฉพาะสถานบริการที่มีใบอนุญาต ส่วนร้านทั่วไปหลังเที่ยงคืน ก็ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันแล้ว ซึ่งเราอยากจะขยายโอกาสนี้ให้กับร้านอื่น ๆ แต่มันต้องประเมินจากช่วงเวลานี้ก่อน เพื่อหาโอกาสผ่อนปรนในอนาคต



เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ ว่าจะมีการละเมิดกฎหมาย หลังจากนโยบายเดินหน้าไปนานกว่านี้ นายอนุทิน ตอบว่า สถานบริการไม่น่ามาเสี่ยงยิ่งที่มีใบอนุญาต มันก็ยิ่งไม่คุ้มถูกปิด 5 ปี แบบที่โซนิกผับโดน มันก็เหมือนปิดไปเลย อย่าลืมว่าเจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขัน ส่วนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศก็ตั้งใจทำให้ถูกต้อง โดยบอกว่าอยู่ไม่ถึงตี 4 แต่ละคนมีความรับผิดชอบ ใช้รถขนส่งสาธารณะ หรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มมารับ ส่วนใครก็ตามที่คิดจะเอาสถานประกอบการของตัวเองมาเสี่ยงทำไปก็ไม่คุ้ม



“มันก็มีกรอบถ้าเมามากทางร้านเขาก็ไม่ขายให้ถ้าผู้ประกอบการเข้มงวด นักเที่ยวมีความรับผิดชอบ ผมว่ามันไม่มีปัญหานะสิ่งที่จะได้แน่ ๆ  คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้คนมีงานทำเพิ่มขึ้น มีโอกาสส่งเสริมรายได้ มีการจ้างงานมากขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องจะได้ประโยชน์ไปด้วย แต่ที่ผมมาเพื่อมาบอกว่าทุกฝ่ายมีความเข้มงวด และเราต้องทำความเข้าใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราต้องทำให้ทุกคนมีความสุข และมีรายได้เพิ่มขึ้น”

คุณอาจสนใจ

Related News