สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 21 ธ.ค.66 ศาลนัดชี้ชะตาพิธาคดีหุ้นไอทีวี-ลุงพลได้ประกันตัว-เผยหลักฐาน 8 ข้อไขคดีน้องชมพู่

โดย thichaphat_d

21 ธ.ค. 2566

70 views

1. ศาลพิพากษาคดีน้องชมพู่ จำคุกลุงพล 20 ปี ส่วนป้าแต๋น รอด

ศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษาคดีน้องชมพู่ จำคุกลุงพล 20 ปี ไม่รอลงอาญาใน 2 ข้อหาหนัก กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คุก 10 ปี และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาฯ คุก 10 ปี จนมุมด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้ง โทรศัพท์มือถือ และ เส้นผมที่พบในรถยนต์ ส่วนป้าแต๋น จำเลยที่ 2 ยกฟ้อง

สุดท้ายลุงพลได้ประกันตัววงเงิน 5 แสนบาท แฟนคลับแม่น้องชมพู่ เฮ ส่วนเอฟซีลุงพลน้ำตาร่วง ลั่นขอยืนเคียงข้างลุงพลตลอดไป

2. ลุงพล – ป้าแต๋น แถลงเปิดใจน้อมรับคำตัดสินศาล


ลุงพล-ป้าแต๋น แถลงเปิดใจน้อมรับคำตัดสินศาล มีแฟนคลับมอบช่อดอกไม้เงินสดให้ ลุงพล เสียงสั่นขอยอมรับและเตรียมต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ ป้าแต๋น ขอบคุณทุกกำลังใจ น้อมรับคำตัดสิน พร้อมสู้คดี

ทนายความลุงพล เผยวันนี้เหมือนมวยแพ้คะแนนยกแรก ไม่ได้แพ้น็อก ไม่งั้นโดนโทษประหารไปแล้ว เหลือ 2 ยกก็สู้ต่อ

3. ตื้นตัน! แม่น้องชมพู่ ร่ำไห้ลูกได้รับความเป็นธรรม

แม่น้องชมพู่ ขอบคุณศาล ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม ที่ทำให้วันนี้ลูกได้รับความเป็นธรรม ปัดตอบความสัมพันธ์ป้าแต๋นหลังจากนี้ เพราะในศาลก็ไม่ได้พูดคุย หรือยกมือขอโทษอะไร อยากบอกลูกสาวว่าตอนนี้ไปเป็นนางฟ้าแล้ว

4. ตร.เผยพยานหลักฐาน 8 ข้อไขคดีน้องชมพู่

เปิดใจตำรวจชุดคลี่คลายคดีน้องชมพู่ เผย พยานหลักฐาน 8 ข้อ สำคัญนำไปสู่การหาตัวคนทำผิดที่แท้จริง ยันทำตามกระบวนการของการสืบสวน ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ใคร เน้นยึดโยงจากพยานหลักฐานทั้งหมดที่เจอ จนได้นิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะเส้นผมที่พบ ซึ่งสาวไปถึงคนร้าย

ขณะที่ อัยการปรเมศวร์ คาดคดีนี้ใช้เวลาต่อสู้อีก 2 ปี แต่อย่างน้อยคำพิพากษาศาลชั้นต้นทำให้สังคมตาสว่างขึ้น

5. บิ๊กต่อ เผยวิน รับสารภาพ สั่งเข้มทลายจอมปลวกทั้งองค์กร

บิ๊กต่อแถลงผลสอบวิน สารภาพยิงครูเจี๊ยบ – น้องหยอด ลั่นสำนึกผิดและขอทำบุญให้ รับก่อเหตุเพราะศักดิ์ศรีสถาบัน พบเป็นเด็กหัวอ่อน มีปัญหาครอบครัว เลยถูกชักจูงง่าย เตรียมขยายผล ไม่ใช่เฉพาะสถาบันนี้ แต่สั่งให้ดูคดีเก่าของคู่กรณีด้วย เพื่อทลายรังปลวกทั้งเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม

6. วินยังปัดไม่ถูกสั่ง หรือปลูกฝังจากรุ่นพี่ ยิงเพราะแค้นต่างสถาบัน

วิน ขอโทษครอบครัวคนตาย รับแค้นที่เพื่อนถูกยิงเมื่อเดือนเมษาปัด ไม่ได้ถูกปลูกฝังความรุนแรงจากรุ่นพี่ ก่อเหตุครั้งนี้ไร้เตรียมการ หรือถูกสั่ง และไม่ได้เลี้ยงเป้าหมาย กระสุนพลาดถูกครูเจี๊ยบคือลูกหลง

7. กสทช. สั่งบี้ทรู-ดีแทค - โต้ศิริกัญญา ยันบอร์ดทำตามกฎหมาย

ประธานกสทช. เดินหน้าขับเคลื่อนแผนคุ้มครองลูกค้าทรู-ดีแทค ทั้งด้านโปรโมชั่นและบริการ รับยังไม่พอใจผลการหารือกับผู้ประกอบการ ชี้ข้อมูลที่ผู้ประกอบการส่งมาไม่สามารถตรวจสอบได้ พร้อมสั่งเร่ง หาพื้นที่มีปัญหาให้ชัดจะแก้ตรงจุด ตอบโต้ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำวาระบอร์ดทำตามกระบวนการกฎหมาย กรรมการ 4 คน เสนอมาก็ต้องไม่ลัดขั้นตอนหรือใช้ต่อรองเพื่อเข้าร่วมประชุม


เรื่องเล่าการเมือง

-ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ชะตาพิธา คดีหุ้นไอทีวี 24 ม.ค.67

ประเด็นใหญ่ทางการเมืองเมื่อวาน คือ ศาลนัดไต่สวนคดีคุณพิธา ถือหุ้นไอทีวี และหลังไต่สวนเสร็จ ศาลนัดวินิจฉัยคดี ในวันที่ 24 มกราคม 2567

ช่วงเช้าเมื่อวาน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้ากระบวนการไต่สวน ในคดีที่ กกต. ฟ้องว่า นายพิธา ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) ซึ่งยังประกอบกิจการสื่อมวลชนอยู่

นายพิธาเดินทางมาพร้อมกับกระเป๋าเอกสาร 2 ใบ ที่ภายในบรรจุเอกสารที่จะใช้สำหรับการขึ้นไต่สวนท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ

ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ในการไต่สวนรวม 3 ปาก คือ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะผู้ร้อง / นายพิธา และ นายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานการประชุมผู้ถือหุ้น ITV ที่เคยเป็นข่าวออกมาก่อนหน้านี้

นายพิธา ให้สัมภาษณ์หลังการไต่สวน ระบุว่า รู้สึกพอใจในกระบวนการพิจารณาของศาล ทั้งนี้ได้ยืนยันกับศาลว่าการถือหุ้นไอทีวี เป็นการถือแทนในฐานะผู้จัดการมรดก และได้มีการสละเจตนามรดกไปแล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งหลักฐานในส่วนการเป็นผู้จัดการมรดกมาจากคำพิพากษาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้

ส่วนประเด็นว่าไอทีวียังประกอบกิจการสื่อหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ถามประธานคิมน่าจะเหมาะสมมากกว่า แต่ตามเอกสารไอทีวีได้ยุตติการประกอบกิจการ ไปตั้งแต่ปี 2550 คลื่นก็ไปอยู่กับไทยพีบีเอสแล้ว และไม่ได้มีใบอนุญาตในการประกอบกิจการสื่อ / ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นหรือไม่หลังการไต่สวน นายพิธา กล่าวว่า มั่นใจเหมือนเดิม

ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าว แจ้งนัดฟังคำวินิจฉัยคดีนายพิธา ในวันพุธที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 14.00 น.


-ชัยธวัช รับพระบรมราชโองการฯ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน

สภาผู้แทนราษฎรได้จัดพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้าน โดยมีเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้อ่านพระบรมราชโองการ ก่อนนายชัยธวัช จะถวายบังคมต่อพระบรมมาฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายชัยธวัช แถลงหลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการเป็นผู้นำฝ่ายค้านว่า หวังว่ารัฐบาล และฝ่ายค้าน ร่วมกันผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องค้านฝ่ายรัฐบาลทุกเรื่อง รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องแย้งฝ่านค้านเสมอ

นายชัยธวัช ยังให้สัมภาษณ์ถึงคดีที่พรรคก้าวไกลถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญ คดีล้มล้างการปกครอง จากกรณีการเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และศาลนัดไต่สวนวันที่ 25 ธันวาคม นี้ โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า คดีนี้จะไม่ถึงขั้นทำให้พรรคก้าวไกลถูกยุบ เพราะในคำร้องเป็นการร้องให้หยุดการกระทำเท่านั้น


-สมศักดิ์ รับทักษิณ เข้าเกณฑ์ราชทัณฑ์ขังนอกเรือนจำ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม พูดชัดๆเป็นครั้งแรก ถึงระเบียบใหม่ของกรมราชทัณฑ์ว่า นายทักษิณ ชินวัตร เข้าเกณฑ์คุมขังนอกเรือนจำ เพราะมีโทษไม่เกิน 4 ปี ไม่ได้เป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายน่ากลัวของสังคม เช่น โทษฆ่า ข่มขืน รวมถึงเหลือโทษน้อย ทั้งนี้ย้ำว่าระเบียบดังกล่าว ไม่มีการเอื้อประโยชน์กับผู้ต้องขังรายใด และไม่เฉพาะกรณีนี้ แต่มีกลุ่มคนที่จะได้รับการพิจารณากว่าหมื่นคน

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ นอนรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ เรื่องนี้นายสมศักดิ์ ย้ำว่าไม่ได้มีคนเดียว ก็ยกตัวเลขสถิติของเดือนนี้ ว่ามีผู้ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเกิน 30 วันเกือบ 150 คน และที่อยู่ในโรงพยาบาล 120 วัน ที่ผ่านมาก็มีหลายคน แต่ไม่ได้มีการเปิดเผย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำ มองว่าแปลกหรือไม่ ที่ขณะอยู่ต่างประเทศ นายทักษิณดูแข็งแรง แต่พอกลับมาถึงไทย กลับป่วยจนต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

นายสมศักดิ์ ย้อนถามกลับว่า "ใครไม่เคยติดคุก ไม่รู้หรอกว่า มันจะมีความเครียด ก็บอกว่า คนอายุมาก มีความดัน เป็นความเสี่ยงที่ผู้บัญชาการเรือนจำหรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์จะคุมขังไว้ ทุกคนต้องการความปลอดภัยไม่ต้องรับผิดชอบมาก เมื่อเกิดขึ้น จึงมีเหตุผลที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ต้องขังมีความปลอดภัยมากที่สุด"


-คปท.บุกสภา ยื่น 2 กมธ.สว. จี้สอบทักษิณ รักษาตัวนอกเรือนจำ

ขณะที่อีกด้านนึง กลุ่มคปท. ที่เคลื่อนไหวกดดันกรณีนายทักษิณ มาต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ไปที่สภา ยื่นหนังสือถึง 2 กรรมาธิการของวุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบ การรักษาตัวนอกเรือนจำที่ใกล้ครบ 120 วัน และ ขอหลักฐานการชี้แจงต่างๆ เพื่อนำไปยื่นฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวานนี้ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล เดินทางมาที่รัฐสภา ยื่นหนังสือถึงกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา และกรรมาธิการ การสาธารณสุข วุฒิสภา

เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี การรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ว่าอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ และมีอาการหนักขนาดไหน รวมถึงการรักษาตัวดังกล่าวเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เนื่องจากเกือบ 120 วันยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวออกมาชี้แจง

พร้อมทั้งขอสำเนา เอกสารการชี้แจงในชั้นกรรมาธิการวุฒิสภา นำไปเป็นหลักฐานในการยื่นฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดย สว.สมชาย แสวงการ ในฐานะประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ระบุว่า วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม เวลา13.30 น. ทางกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา จะมีการเรียก กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจมาชี้แจงเพิ่มเติม ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรหลังจากการรักษาตัวครบ 120 วันแล้ว

พร้อมเตือนไปถึง ข้าราชการประจำ ว่าต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะในอดีตก็มีบทเรียนมาแล้ว ที่มีคนติดคุกและตอนนี้ก็ยังอยู่ในเรือนจำ เพราะการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/rOlxAiRhw2c

คุณอาจสนใจ

Related News