'ควีนส์แลนด์' เจอพายุถล่มจมบาดาล สั่งอพยพหลายพันคน พบจระเข้กลางเมืองออสซี่

ฝนที่ตกลงมามากเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างในพื้นที่ห่างไกล ทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย จนต้องมีการอพยพคนหลายพันคนออกจากพื้นที่

ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดว่า น้ำท่วมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือว่าเลวร้ายที่สุดของออสเตรเลีย  ซึ่งสภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดจากพายุไซโคลนเขตร้อน ส่งผลให้ปริมาณฝนที่ตกลงมาในบางพื้นที่ มากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งปี

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดน้ำท่วมสนามบินในเมืองแครนส์ ซึ่งเป็นเมืองหลักที่ผู้คนเดินทางไปเพื่อชมเกรตแบร์ริเออร์รีฟ แนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 2,000 กิโลเมตร มีรายงานว่า พบจระเข้กลางเมืองด้วย  

มีภาพที่จะเห็นจระเข้ตัวหนึ่งลอยตัวอยู่กลางกระแสน้ำเชี่ยวกลางเมืองแครนส์

ทั้งนี้คาดว่า ฝนจะยังตกหนักต่อเนื่องไปอีก 24 ชั่วโมง โดยเมืองแครนส์มีปริมาณน้ำฝนตกลงมามากกว่า 2 เมตร นับตั้งแต่ฝนเริ่มตก ทำให้บ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกน้ำท่วม ไฟฟ้าถูกตัดขาด นอกจากนี้ น้ำดื่มสะอาดก็ค่อย ๆ ลดน้อยลง

สตีเวน ไมล์ส นายกรัฐมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ ยอมรับว่าเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จำได้  และ ความกังวลที่เกิดขึ้นทันทีคือ การนำผู้ที่ติดอยู่ในระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นไปยังที่ปลอดภัยได้อย่างไร โดยประชาชนในเมืองที่ห่างไกลนั้นถูกตัดขาด เช่นที่ เมืองจูวัล จูวาล ที่อยู่ห่างจากเมืองแครนส์ไปทางตอนเหนือราว 175 กิโลเมตร โดย ถนนหลายสายถูกปิด และทางการก็ไม่สามารถส่งความช่วยเหลือทางอากาศเข้าไปได้

เจ้าหน้าที่ของรัฐควีนส์แลนด์ประเมินว่า มูลค่าความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้จะอยู่ที่ราว 1,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 23.3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ออสเตรเลียตะวันออกได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบ่อยครั้ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อีกทั้งขณะนี้ ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับผลกระทบจากเอลนีโญ ซึ่งทำให้เกิดสภาพอากาศรุนแรง ทั้งไฟป่า พายุ และไซโคลน

-------------