ต่างประเทศ

ทั่วโลกจับตา 'อิสราเอล' เอาคืน 'อิหร่าน' ด้านรบ.ออสเตรเลีย เตือนพลเรือนเร่งอพยพ หวั่นบานปลาย

โดย nut_p

19 เม.ย. 2567

63 views

สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดมากขึ้น หลังอิสราเอลเริ่มปฏิบัติการเอาคืน โดยเปิดฉากโจมตีอิหร่านทางอากาศเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทั่วโลกจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า ขอบเขตโจมตีครั้งนี้จะมีมากน้อยแค่ไหน และอิหร่านจะตอบโต้อย่างไร



สื่ออิหร่านรายงานว่า เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งใกล้สนามบินอิสฟาฮาน (Isfahan) ทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างกรุงเตหะรานไปทางใต้ 340 กิโลเมตร ขณะที่อิหร่านได้เปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศในหลายเมือง และ สามารถสอยโดรนของอิสราเอลได้อย่างน้อย 3 ลำ



เมืองอิสฟาฮาน ที่ถูกโจมตีนี้เป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของอิหร่าน เป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศ มีฐานผลิตขีปนาวุธและที่ตั้งโรงงานด้านนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งมาที่โรงงานนิวเคลียร์ แต่เป็นเรดาร์ทางทหารของอิหร่าน ซึ่งอิหร่านเผยว่า โรงงานนิวเคลียร์ในอิสฟาฮาน ไม่ได้รับความเสียหาย



ด้านนายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA ก็ออกมายืนยันว่า ไม่มีรายงานว่าโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่าน ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของอิสราเอล พร้อมทั้งแสดงความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด



ในวันนี้ อิหร่านยังได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินในหลายเมืองทั่วประเทศ ทั้ง อิสฟาฮาน, ชิราซ, และกรุงเตหะราน ขณะที่ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานนานาชาติอิหม่าม โคไมนี ปิดให้บริการไปจนถึงเวลา 14 .00 น. วันนี้ (ตามเวลาในไทย) ก่อนหน้านี้ สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) และ ฟลายดูไบ (Flydubai) ที่บินผ่านน่านฟ้าของอิหร่านก็ประกาศเปลี่ยนเส้นทางอย่างกะทันหัน ในขณะที่กำลังบินอยู่ด้วย



อย่างไรก็ดี ล่าสุด สนามบินหลัก 2 แห่งในกรุงเตหะราน ได้แก่ สนามบินอิหม่าม โคไมนี และสนามบินเมห์ราบัด ก็ได้กลับมาให้บริการตามปกติอีกครั้ง



รัฐบาลออสเตรเลียออกคำเตือนพลเรือนของตน ให้เดินทางออกจากอิสราเอลและดินแดนของปาเลสไตน์ เพราะมีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีการตอบโต้ทางทหารรวมไปถึงการโจมตี ของผู้ก่อการร้ายที่มุ่งต่ออิสราเอล และผลประโยชน์อิสราเอลในภูมิภาค และหากสถานการณ์บานปลายก็อาจจะมีผลให้ต้องปิดน่านฟ้า และสนามบินเพิ่มอีก ซึ่งจะทำให้การเดินทางหยุดชะงัก ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเยรูซาเล็มห้ามเจ้าหน้าที่ เดินทางออกนอกกรุงเยรูซาเล็ม, เทลอาวีฟ และเบียร์ชาบา และให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ



ส่วนนายแอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังไม่ยืนยัน หลังจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่า อิสราเอลได้แจ้งไปยังสหรัฐฯ แล้วว่าจะทำการโจมตีอิหร่าน แต่ปฏิเสธเพียงว่า สหรัฐฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โจมตีใด ๆ ตอนนี้ สหรัฐฯ กับกลุ่มประเทศ G7 กำลังพยายามทำงานเพื่อลดความตึงเครียดและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น



หลายฝ่ายจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่จนถึงขณะนี้อิหร่านยังไม่เปิดเผยว่า จะมีมาตรการตอบโต้อิสราเอลอย่างไร ซึ่งเมื่อวานนี้รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านประกาศกร้าวว่า กองทัพอิหร่านพร้อมตอบโต้อิสราเอล หากถูกโจมตีและจะตอบโต้กลับในระดับที่ใหญ่กว่า



นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปฏิบัติการเอาคืนของอิหร่านมีแนวโน้ม ที่จะทำให้สถานการณ์ตะวันออก ตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีทั้งความขัดแย้งในฉนวนกาซ่า และสถานการณ์ในพื้นที่ทางใต้ ของเลบานอน เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว ทั้งนี้ ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลเคยประกาศกร้าวว่า จะตอบโต้อิหร่าน ที่ส่งขีปนาวุธและโดรนราว 300 ลูก เข้ามาโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 13 เมษายน

คุณอาจสนใจ

Related News