สังคม

สหพันธ์การขนส่งฯ เรียกร้อง รบ. หาทางลดต้นทุนขนส่งน้ำมัน ชี้ช่วยลดภาระปชช.ได้ทั้งทางตรงและอ้อม

โดย nut_p

17 ธ.ค. 2566

69 views

ในช่วงเทศการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือเทศกาลสำคัญ สิ่งหนึ่งที่ตามมาคือ อุบัติเหตุสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แม้ว่า ภาครัฐจะพยายามขอความร่วมมือรถประเภทขนส่งขนาดใหญ่ให้หยุดการเดินรถ เพื่อลดปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุ แต่ก็ยังมีรถบรรทุกบางประเภทที่อนุญาตให้วิ่งได้ เช่น รถบรรทุกเชื้อเพลิง และประเภทอาหาร จะมีความกังวลว่า รถบรรทุกเชื้อเพลิงน่าจะมีความอันตราย และก่อให้เกิดความสูญเสียมากกว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จึงมีการร้องให้ภาพรัฐแสวงหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหา



เพลิงที่ลุกโชน หลังรถบรรทุกน้ำมันประสบอุบัติเหตุที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่าน ถือเป็นเหตุการณ์รถบรรทุกน้ำเกิดอุบัติเหตุอีกครั้งที่เกิดขึ้นในย่านชุมชนเมือง



ทีมข่าว 3 มิติ สำรวจเส้นทางสายเหนือขาล่องลงภาพกลางและกทม. พบว่า รถบรรทุกน้ำมันวิ่งมุ่งหน้าเข้าเป็นระยะ เทลเลอร์พ่วงคันนี้ หากบรรทุกน้ำมันเต็มคันก็น่าจะสามารถบรรทุกได้ประมาณ 40,000 ลิตร ส่วนบรรทุก 10 ล้อที่เห็นนี้ สามารถบรรทุกได้ ประมาณ 20,000 ลิตร



รถบรรทุกน้ำมันเหล่านี้น่าจะวิ่งลงไปรับน้ำมันที่คลังกลางใน อ.บางปะอิน ก่อนส่งกระจายส่งไปตามสถานีบริการ หรือ ปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางตอนล่าง เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่นี้



ข้อมูลของกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่า การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ตั้งแต่มกราคม-กันยายน 2566 ประมาณ 153.54 ล้านลิตร/วัน น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.70 ล้านลิตร/วัน ,น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 69.16 ล้านลิตร/วัน ส่วนที่เหลือ เป็นกลุ่มน้ำมันอากาศยานเพื่อการพาณิชย์ น้ำมันเตา และก๊าซ LPG



ปัจจุบันนี้ ระบบการขนส่งน้ำมันของไทย มีอยู่ 2 รูปแบบคือ การขนส่งทางท่อส่งตรงจากโรงกลั่นมายังพื้นที่คลัง จากนั้นจะเป็นการขนส่งทางบกด้วยรถบรรทุกน้ำมัน กระจายไปตามสถานีบริการหรือปั๊มน้ำมันต่าง ๆ ทั่วประเทศ ค่าภาคการขนส่งจึงถูกบวกเข้าไปเพิ่มกับค่าราคาน้ำมัน ประชาชนที่อยู่ในเมืองกับชนบท หรือ จังหวัดที่อยู่ห่างไกล จึงจ่ายค่าน้ำมันและสินค้าอุปโภค บริโภคที่แตกต่างกัน



มีการประเมินไว้ว่า ปัจจุบันบรรทุกวิ่งขนส่งน้ำมันทั่วประเทศกว่า 1,000,000 เที่ยวต่อปี โดยภาคกลางมากที่สุด 593,326 เที่ยว, ภาคเหนือ 200,106 เที่ยวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 284,406 เที่ยว



สหพันธุ์ฯ จึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนและหาแนวทางลดต้นทุนการขนส่งน้ำมัน ซึ่งจะเป็นการลดภาระต้นทุนด้านต่าง ๆ ให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศทั้งทางตรง และทางอ้อม

คุณอาจสนใจ

Related News