สังคม

หญิงติดต่อขอมาเป็นเจ้าภาพงานกฐินจะมอบเงิน 1 ล้านให้ แต่สุดท้ายเบี้ยว บอกไม่มีให้

โดย kanyapak_w

9 ธ.ค. 2566

3.2K views

วันที่ 9 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากกรรมการวัดเกตุประภา ม.9 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ว่ามีประชาชนมาขอเป็นประธานถวายกฐินโดยบอกจะนำเงินมาถวายให้จำนวน1ล้านบาท เมื่อถึงวันงานกลับไม่มีเงินมาถวายจนเป็นเรื่องเป็นราวถึงขั้นแจ้งความกันหาว่าทางวัดใส่ร้าย หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปที่วัดเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



พระครูโสภณ เจ้าอาวาสวัดเกตุประภา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2564 หญิงดังกล่าวที่จะมาขอเป็นประธานกล่าวคำถวายกฐินได้มาร่วมงานและปีนี้มาติดต่อขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน พอวันเข้าพรรษาหญิงคนดังกล่าวก็มาติดต่อขอเป็นเจ้าภาพงานกฐินโดยบอกว่าถ้ามีจะมอบเงินให้ 1 ล้านบาท โดยวันที่ 25 พ.ย. 2566 หญิงดังกล่าวได้เข้ามาที่วัดอีกครั้งบอกว่าเงินยังไม่มีเลย จึงมีการคุยกันโดยมีการเรียกพระและกรรมการมาพูดคุยกันว่ามีไหม หากไม่มีต้องหามาให้ได้เพราะวันที่ 26 พ.ย.เป็นวันงานกฐินแล้ว โดยหญิงดังกล่าวบอกจะหามาให้ได้ กระทั่งวันงานกฐินหญิงดังกล่าวได้เดินทางมาร่วมงานกับทางวัดและบอกว่ายังไม่มีเงินเลย



โดยตนเองบอกว่าให้คุยกับพระและกรรมการก่อนโดยเวลาทอดกฐินก็ไม่มีเงินมาเลย มีกันมา 3 คน โดยพระจึงบอกกันว่านั้นให้เป็นกฐินสามัคคีไป พอถึงเวลาทอดกฐินอาตมาก็ไม่ได้อุปโลกน์ว่าใครเป็นเจ้าภาพ อุปโลกน์ว่าผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ โดยเจ้าตัวไม่มีเงินมาตนเองจะให้กล่าวได้อย่างไร ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้มีการโทรศัพท์ไปหาก็ไม่รับสายเลย โดยเย็นวันทอดกฐินยังรับสายอยู่โดยกรรมการได้โทรไปหาเพื่อให้มาตกลงกัน โดยตกลงไปตกลงมา เจ้าตัวบอกว่าวันที่1 ธันวาคม 2566 จะนำเงินมาให้แต่ก็ไม่มา แต่ในวันงานกฐินเครื่องกฐินและค่าอาหารหญิงดังกล่าวได้จัดหามาก่อนแล้ว




นายวิรัช ชื่นจรูญ กรรมการวัดเปิดเผยว่า ตนเองมาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็วันทอดผ้าพระกฐินเวลา 10.00 น.วันที่ 26 พ.ย.2566 โดยหญิงดังกล่าวบอกว่าไม่มีเงินมา ตนเองยังบอกอ้าวแล้วมาคุยกับเจ้าอาวาสได้อย่างไร ตนเองยังพูดคุยกับหญิงดังกล่าวว่าพร้อมจะถวายเท่าไหร่ เจ้าตัวบอกว่าสามแสนบาทโดยจะมาให้ก่อนวันที่ 1 ธ.ค. 2566 จำนวนสามแสนบาทและอีกเจ็ดแสนจะมาให้เดือนกุมภาพันธ์ ตนเองบอกไปว่าทางวัดไม่เอาเอาแค่สามแสนพอ ตนเองบอกไปว่าถ้าไม่มามันจะเป็นเรื่องราวกันนะจะต้องแจ้งนักข่าวมา



โดยหญิงดังกล่าวบอกว่ามาแน่ กระทั่งบ่ายวันที่ 1ธ.ค.ทราบว่าหญิงดังกล่าวไปแจ้งความหาว่าทางวัดใส่ร้ายว่าทางหญิงดังกล่าวอมเงินกฐิน ประกอบกับลูกศิษย์วัดเปิดเจอในเฟซบุ๊กว่าหญิงดังกล่าว มีการเปิดเฟซบุ๊กชักชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญโดยมีคนโอนเงินจำนวนมาก ก่อนที่เฟซบุ๊กนั้นจะปิดไป หลังจากนั้นเจ้าอาวาส และกรรมการได้เดินทางไปแจ้งตำรวจสภ.ลำลูกกาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ว่าทางวัดได้มีการจัดเตรียมงานและลงทุนไปหลายอย่างค่าใช้จ่ายเกือบสองแสนบาท เพื่อรับกฐินแต่พอถึงเวลาน.ส.ณัฏฐกรณ์  ที่อ้างว่าจะนำเงินมาถวาย 1 ล้านบาท เพื่อขอเป็นเจ้าภาพกฐินแต่พอถึงวันงานกลับไม่มีเงินมาถวาย แถมยังมีการเปิดเฟซบุ๊กเพื่อรับบริจาคซึ่งแสดงถึงเจตนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อผิดสัญญา




ทางด้านนายนที กรรมการวัดเปิดเผยว่า ตนเองไม่เคยเห็นบุคคลพวกนี้มาก่อนส่วนใหญ่จะรู้จักกันกับอาจารย์ อาจารย์เลยรับให้เขาเป็นเจ้าภาพกฐิน ซึ่งหลังจากแจ้งความเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้นทางตำรวจบอกว่าเดี๋ยวจะเรียกให้มาไกล่เกลี้ยเพราะเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา เรื่องที่หญิงดังกล่าวไปเรี่ยไรเพื่อนำเงินมาถวายกฐินส่วนนั้นเราแจ้งไม่ได้ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดส่วนใหญ่ไม่มีใครเขาทำสายบุญจริงๆ ไม่มีใครเขาทำวัดไม่ได้เจาะจงว่าต้องเท่านั้นเท่านี้มีเท่าไหร่ก็ทำ เหมือนเจตนาเอาชื่อวัดไปให้เพื่อนๆ สายมูมาทำบุญกับตัวเขาโดยจะได้เงินเท่าไหร่ตนเองไม่ทราบ ตนเองอยากจะบอกว่าอย่าทำอีกเลยมันบาปครั้งนี้ทำได้เดี๋ยวครั้งต่อไปก็ทำอีก



แท็กที่เกี่ยวข้อง  งานกฐิน ,ทอดกฐิน ,เจ้าภาพกฐิน

คุณอาจสนใจ

Related News