สังคม

นายกฯ ชวน​เอกชนบริจาคทุนการศึกษา​ แสนสิริ​บริจาคให้ราชบุรี​ 100 ล้าน​ 3 ปีซ้อน​ไม่มีเด็กหลุดออกจากระบบ

โดย taweelap_b

7 ธ.ค. 2566

108 views

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 66 นายเศรษฐา​ ทวี​สิน​ นายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​ เปิดโอกาสให้นักศึกษาในงานสัมมนาวิชาการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง หรือ​ ​วบส. ได้สอบถามหลังการกล่าวปาฐกถา​พิเศษ​ใน​งาน​


คำถามว่าก่อนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะนักธุรกิจแนวหน้าของประเทศไทย มีเรื่องอัดอั้นตันใจอะไรที่ซีเรียสมากที่สุด และคิดว่าถ้ามีโอกาสขับเคลื่อนจะทำอะไรในฐานะนายกรัฐมนตรี และท่านได้นำประสบการณ์ หรือแนวทางการบริหารงานในเชิงธุรกิจมาใช้ขับเคลื่อนประเทศอย่างไร มีการปรับเปลี่ยนแนวทางอย่างไร เพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในขณะนี้


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่ทำให้อัดอั้นตันใจ คือเรื่องของความเหลื่อมล้ำ เพราะปฏิเสธไม่ได้ ตนก็มีเยอะและบางครั้งก็ใช้จ่ายเยอะ กระทั่งละอายใจ เช่น การมีนาฬิกาหลายเรือน จนไม่รู้ว่าจะมีไปทำไม แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าอยากมีอีก แต่คิดแล้วก็ทุเรศตัวเพราะบางคนเขาไม่มี และพูดแบบนี้ไม่ใช่ตัวเองดูดี มันมีความขัดแย้งในตัวเอง


“นิสัยส่วนตัวของผม เวลาไปทานข้าวที่ไหน ไม่ชอบคำว่าโต๊ะวีไอพี ไม่ชอบแบ่งอาหารสำรับ ไม่ชอบแบ่งไวน์สองเกรด ผมไม่ชอบ จึงมีความไม่สบายใจเวลาลงพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยหรือทำเนียบฯ เวลาไปไหนก็ยังมีอยู่ และจะบอกทีมงานเสมอว่า ผมกินข้าวสำรับเดียวกับนักข่าวและเจ้าหน้าที่ทุกคน ถ้าให้ผมกินพิเศษผมไม่เอา เรื่องของความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องที่พยายามผลักดันมาโดยตลอด แต่ยังไม่สำเร็จ เป็นสารตั้งต้นที่ทำให้อยากเข้ามาการเมืองตรงนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เรื่องการศึกษาก็เป็นอีกเรื่องซึ่งในวงต่าง ๆ ที่ไปพูดคุยบางคนก็ด้อยค่า ในการศึกษาแต่เชื่อว่าทุกคนเริ่มได้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นโรงเรียนสาธิต อัสสัมชัญหรืออินเตอร์เนชันแนล หลายคนบอกตลอดว่าการศึกษาไทยห่วย หลักสูตรไม่ดี ครูไทยสอนไม่ได้เรื่อง ตนก็พูดเรื่องนี้ตลอดเวลาในวงเหล้าก็มีการพูดคุยกันตลอดเวลา แต่ไม่มีใครลุกขึ้นมาทำ ลูกตนก็ไปเรียนเมืองนอก จบการศึกษาที่ดี ค่าเล่าเรียนปีละหลายล้านบาท หลายคนก็คงรู้สึกเช่นนั้น เพราะพวกท่านมีตัวเลือกและมี option ตลอดเวลา แต่มีคนอีกกว่าล้านคนที่หลุดออกจากวงการการศึกษา หลังจากโควิด เพราะพ่อแม่ถูกไล่ออก และไม่สามารถที่จะให้ลูกไปเรียนได้


“ผมคิดตลอดเวลาว่า ทำอย่างไรจะให้คนเหล่านี้กลับเข้าสู่วงการการศึกษาได้ ผมอยู่ในภาคเอกชนก็บริจาคเงิน 100 ล้านบาท ให้กับจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ขนาดเล็ก และบริษัทแสนสิริ ไม่มีโครงการและไม่ได้เป็นจังหวัดพรรคเพื่อไทย มี สส.เพราะ เดี๋ยวจะหาว่าทำเพื่อซื้อเสียง เพื่อให้ไปทำงานว่าจังหวัดราชบุรี จะไม่มีเด็กแม้แต่หนึ่งคนเดียว หลุดออกนอกระบบการศึกษา ขอให้จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และต้องการให้บริษัทใหญ่ ๆ ได้มีส่วนสนับสนุนในระบบการศึกษา” นายกรัฐมนตรี กล่าว


อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์หลักของไทยที่จะใช้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ นายเศรษฐา ระบุว่า กลยุทธ์หลักของประเทศไทย คือความเป็นกลาง​ รัฐบาลนี้ไม่สามารถเคลมเครดิตได้คนเดียว ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีวิธีทูตเป็นกลางมาโดยตลอด และยังต้องยกระดับการรักษาพยาบาล​ รวมไปถึงการพัฒนาพลังงานสีเขียว ขณะเดียวกันเรื่องความสงบภายในประเทศ ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับหลายประเทศ ไทยยังคงมีความเป็นต่อ และการเป็นเซลส์แมนสำหรับตน ถือเป็นเรื่องที่ง่าย เพราะของที่ตนขายและเป็นของดี เพียงแต่ไม่ไปขายเท่านั้นเอง และคาดการณ์ว่าภายใน 5-7 ปี จะเห็นผลอย่างแน่นอน


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การกล่าวปาฐกถาในครั้งนี้ ถือเป็นการพูดบนเวทีที่นานที่สุด ตั้งแต่นายเศรษฐา ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา

คุณอาจสนใจ

Related News