สังคม

แจ้งความเอาผิดเชื่อหลานขโมยเงินค่าขาเทียม ป้าช้ำใจโดนเย้ยถึงสู้ก็แพ้คดีตัดพ้อหมดหวัง

โดย taweelap_b

7 ธ.ค. 2566

130 views

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากจังหวัดพัทลุง นางหนูราย เหมือนสังข์ หรือ ป้าป๋อง อายุ 63 ปี ชาว ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ร้องเรียนผู้สื่อข่าวหลังได้รับความเดือนร้อน เนื่องจากป่วยด้วยโรคเบาหวาน แพทย์ได้ตัดขาทั้ง 2 ข้าง ข้างแรกตัดเมื่อปี 64 และอีกข้างตัดเมื่อปี 66 เมื่อแผลหาย และได้รับติดต่อรับขาเทียม แต่เงินและรายได้มีไม่เพียงพอ จึงจัดเลี้ยงน้ำเพื่อหาเงินเตรียมไปโรงพยาบาลตามหมอนัด วันที่ 26 ธ.ค. แต่หลังจากเพื่อนบ้านที่มางานเลี้ยงระดมเงินคนละ 100 200 บาท ได้เงินจำนวน 13,000 บาท ทว่าเงินทั้งหมดที่ได้มาด้วยความหวังจะได้ใส่ขาเทียม กลับหายเกลี้ยง


ต่อมา ป้าป๋อง ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ แต่กลับมาช้ำใจอีกรอบ เมื่อพนักงานสอบสวนแจ้งว่า การเอาผิดคนที่ขโมยนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากเป็นเยาวชน อายุไม่เกิน 15 ปี ยิ่งทำให้ท้อใจมากขึ้น เพราะไม่มีเงินเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อจะไปใส่ขาเทียมตามที่แพทย์นัดเอาไว้ จึงร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวให้ความช่วยนำเสนอข่าวดังกล่าว


นางหนูราย กล่าวด้วยอารมณ์เศร้าและท้อใจว่า เงินที่เพื่อนบ้านช่วยมาในวันนั้น เป็นความหวังเดียวที่จะทำให้ตนเดินได้ แต่เงินกลับถูกขโมยเกลี้ยง คนที่ขโมยก็รู้ว่าเป็นหลานห่าง ๆ ในหมู่บ้าน เพราะช่วงเกิดเหตุตอนค่ำไม่กลับบ้าน และหลังจากเงินหายไป เขาก็ได้ไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ นอนรีสร์อต โพสต์ภาพเงินบนเตียง ตนเชื่อว่าคือเงินที่ตนได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน


ต่อมาหลานคนนี้ก็ได้ลบโพสต์ออกไป หลังจากทราบว่าเขากลับมา และขับรถวนเวียนในหมู่บ้าน จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่ตำรวจบอกทำอะไรไม่ได้ ทั้งนี้ ยังรู้สึกช้ำใจสุด ๆ เมื่อญาติของหลานกลับมาพูดเย้ยหยัน ว่าจะมีเงินไปสู้คดีเหรอ ถึงสู้ก็แพ้ และไม่ได้เงินคืนหรอก ทำให้ท้อใจร้องจนเกลียด เพราะทุกอย่างหมดหนทางและมืดมนไปหมด หากไม่มีเงินไปรับขาเทียมในครั้งนี้ ตนคงหมดหวังและไม่อยากอยู่ต่อแล้ว


ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง เพื่อติดต่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี จากร้อยเวรเจ้าของคดี แต่ไม่พบพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ พ.ต.ท.มานิตย์ เอี่ยวสกุล รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าคดีดังกล่าวต้องมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน แต่ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนทำให้ช้า เนื่องจากการสอบหรือการออกหมายจับ ต้องมีสหวิชาชีพ เข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยพยานหลักฐานทั้งหมด ได้ดำเนินการคืบหน้าไปมากแล้ว เพียงแค่รออีกนิด เพราะการดำเนินคดีกับเยาวชน จะต่างไปจากการดำเนินคดีผู้ใหญ่


คุณอาจสนใจ