สังคม

แม่เตือนอุทาหรณ์ ยุงตัวเดียวทำลูกเข้าไอซียู สมองหยุดทำงาน จากเด็ก 1 ขวบ กลายเป็นเด็ก 2 เดือน

โดย petchpawee_k

1 ธ.ค. 2566

674 views

แม่เตือนอุทาหรณ์ ยุงตัวเดียวทำลูกป่วยต้องเข้าไอซียู สมองหยุดทำงาน จากเด็ก 1 ขวบ 3 เดือน กลายเป็นเด็ก 2 เดือนต้องเริ่มฝึกพัฒนาการใหม่ - ก่อนย้ายมารักษา รพ.ศิริราช หมอระบุเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ขณะที่หมอเด็ก เผย พบมากในเด็กต่ำกว่า 2 ปี แนะฉีดวัคซีนป้องกัน บอกหากมีไข้สูง ชัก เกร็ง ไวต่อแสงให้รีบพบแพทย์ ชี้ อาการรุนแรงถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้


วานนี้ (30 พ.ย.66) ผู้ใช้ TikTok @wanida0258 ซึ่งเป็นคุณแม่ท่านหนึ่ง ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวเพื่อเป็นการเตือนภัย ภายหลังลูกสาววัย 1 ขวบ 3 เดือน ถูกยุงตัวเดียวกัด ซึ่งยุงตัวนี้กัดวัวมาก่อน หลังจากนั้นไม่นานลูกสาวมีอาการป่วยถึงขั้นนอนไอซียู 7 วัน และส่งผลให้สมองหยุดทำงาน ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป จากเด็ก 1 ขวบ 3 เดือน กลายเป็นเหมือนเด็ก 2 เดือน ต้อง เรื่องฝึก พัฒนาการใหม่ทั้งเรื่องการพูดและพัฒนาการด้านอื่นๆ โดยคุณแม่ท่านนี้ ได้โพสต์คลิปนี้พร้อมเขียนอธิบาย ระบุว่า


ลูกอยู่กับยาย เหตุเกิดจากยุงไปกัดวัวแล้วยุงมากัดลูก ไข้ขึ้นเรื่อยๆ พาลูกไปอนามัยใน จ.กาญจนบุรี ไม่สบาย 4 วัน หมอบอกเป็นไข้หวัดใหญ่รักษาตามอาการไม่มียารักษา ลูกไม่ดีขึ้นขอย้ายโรงพยาบาล หมอบอกจะย้ายทำไมเขารักษาได้


วันต่อมาอนามัยทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลในตัวเมืองให้เพราะอาการไม่ดีขึ้น ไปถึงลูกเรียกชื่อเราคำเดียวหลังจากนั้นเข้าห้อง ICU ไปเลย 7 วัน สมองหยุดทำงาน จากที่เดินได้พูดได้ ลูกกลับกลายมาเป็นเด็ก 2 เดือน เริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง ฝึกใหม่หมด อายุ 1 ขวบ 3 เดือน ต้องมาฝึกใหม่ทั้งหมด


ขอย้ายลูกไปโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เท่าไรก็จะจ่าย หมอบอกคุณแม่รับความเสี่ยงได้หรอถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง เห้อ ก็อยู่ต่อไปครึ่งเดือน (ไม่ได้คำตอบว่าโรคนี้เกิดจากอะไรถามหมอ หมอบอกไม่แน่ใจ) ได้ออกจากโรงพยาบาลพาขึ้นกรุงเทพฯ เข้า รพ.ศิริราช เพราะลูกร้องไม่หยุด หมอ รพ.ศิริราช ตรวจให้ใหม่หมด เป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฉีดยาฆ่าเชื้อรักษาใหม่หมด ใส่เครื่องช่วยหายใจ กินนมทางสาย ผ่านมาได้ตอนนี้ลูกกำลังจะลุกขึ้นเดินแล้ว #เหยื่อหุ้มสมองอักเสบ #ไม่ลงปอดแต่ขึ้นหัวสมอง #อย่าปล่อยให้ยุงกัดลูกเด็ดขาด


คุณแม่ท่านนี้ อธิบายเพิ่มเติมถึงอาการของลูกสาว ด้วยว่า “น้องเกร็งและชักและเข้าห้อง ICU ไปเลยค่ะ ไม่สบายเหมือนปกติเลยค่ะ เล่นได้ยิ้มได้วันแรกๆ หลังจากนั้นร้องไห้ เรียกไม่มีสติ กลัวแสง สังเกตค่ะน้องจะไวต่อแสง วันแรกเริ่มจากไม่สบายเล่นปกติร่าเริง 4 วันผ่านไปตอนอยู่อนามัย น้องไวต่อแสง น้องกลัวทุกอย่าง มองไปตรงไหนก็กลัว เรียกแล้วไม่มีสติ น้องเรียกชื่อทุกคน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น แสดงความเป็นห่วงเป็นจำนวนมาก บางคนเข้ามาสอบถามอาการ บางคนสอบถามว่า “น้องเคยฉีดวัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบไหมคะ? ซึ่งคุณแม่ท่านนี้ก็ตอบกลับไปว่า “ตอนน้องเป็น อายุยังไม่ถึงวัคซีนตัวนี้ค่ะ น้องเป็นโรคนี้มาจะ7-8เดือนแล้วค่ะ”


บางคนเข้ามาแชร์เรื่องราวบอกว่า ลูกหนูเคยเป็นเหมือนกันตอน5เดือน กว่าจะผ่านมันมาได้ ตอนนี้น้องได้5ขวบแล้ว สู้ๆนะค่ะ ขอให้น้องหายไวๆ


ต่อมา ทีมข่าวได้คุยกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (พิเศษ) นายแพทย์กุลเสฏฐ ศักดิ์พิชัยสกุล กุมารแพทย์ประสาทวิทยา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (แพทย์เชี่ยวชาญ โรคระบบประสาทวิทยา) ให้ข้อมูลถึงโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ว่า เป็นการติดเชื้อของสมอง ซึ่งจะมีอาการไข้ ชัก เกร็ง กระตุก ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการที่พบบ่อย นอกจากนี้อาการที่สามารถพบร่วมได้คือการเพ้อสับสนหรือไม่มีสติ ซึ่งอาการทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นอาการที่เตือนถึงโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือติดเชื้อในสมอง


โดยสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสอื่นๆ ต้องดูผลตรวจของแพทย์ ซึ่งโรคนี้มักพบในเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก หรืออายุน้อยกว่า 2 ปี เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด แต่ ใดๆก็ตามสามารถพบได้ทุกช่วงอายุทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ  ซึ่งอาการของโรค หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจรุนแรงถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้


เมื่อถามว่าอย่างเคสดังกล่าวแม่ของเด็กบอกว่าก่อนที่ลูกจะมีอาการป่วยถูกยุงกัดซึ่งยุงกัดวัวมาก่อนเป็นสาเหตุหรือไม่ นพ.กุลเสฎฐ  ระบุว่า ยุงเป็นพาหะของเชื้อโรคบางตัวแต่อาจไม่เกี่ยวกับวัว แต่สาเหตุสำคัญต้องดูที่เชื้อที่ตรวจพบมากกว่าว่าเชื้อโรคใดเป็นสาเหตุของโรค อย่างเคสนี้ตนไม่มีข้อมูลว่าผลตรวจมาจากเชื้อใด


สำหรับโรคนี้ สามารถทำให้สมองเสียการทำงาน ได้เพราะการอักเสบของสมองที่รุนแรง โดยทั่วไปแล้วหากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และผู้ป่วยพ้นวิกฤตก็มีโอกาสฟื้นกลับมาได้ซึ่งต้องใช้เวลา รวมทั้งตัวเชื้อโรคด้วย แต่อย่างเคสนี้เท่าที่ดูมองว่าน่าจะค่อยๆดีขึ้น


นพ.กุลเสฎฐ ย้ำว่าหากมีอาการตามที่เรียนแจ้ง คือ ไข้สูง เกร็ด ชักกระตุก หรือเพ้อ รวมทั้งอาการไวต่อแสง เป็นอาการที่ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะถ้าวินิจฉัยได้เร็วจะสามารถป้องกันอาการแทรกซ้อนได้เร็วขึ้น  ส่วนการป้องกัน ปัจจุบันนี้มีวัคซีนที่สามารถป้องกันเชื้อได้หลายชนิด โชคดีที่ประเทศไทยสามารถให้วัคซีนเกือบครบทุกชนิด แต่ยังไงก็ตามตนขอแนะนำให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนที่หมดนัดทุกครั้งเพื่อ เป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง

คุณอาจสนใจ

Related News