DSI ยืนยันเดินหน้าลุยปราบหมูเถื่อนต่อเนื่อง ออกหมายจับเพิ่มอีก 1 นายทุน

กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ยืนยันเดินหน้าลุยปราบหมูเถื่อนต่อเนื่อง ออกหมายจับเพิ่มอีก 1 นายทุน และพบองค์กรใหม่เกี่ยวข้องขบวนการหมูเถื่อน มีนักการเมืองประดับประเทศเกี่ยวข้อง


พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคดีจับกุมขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน เปิดเผยว่า พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีเรียกประชุมติดตามคดีหมูเถื่อน ซึ่งในที่ประชุมได้มีมติให้ขยายคดีพิเศษออกไป 10 คดี ในจำนวนนี้มี 9 คดี ที่ขยายผลมาจากการจับกุมบริษัทชิปปิง 10 บริษัท ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการขยายผลต่อไปว่าบริษัทเหล่านี้ได้กระจายหมูเถื่อนไปที่ไหนบ้าง และวันนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 1 คน ซึ่งเป็นนายทุนอีกบริษัทให้มาให้ปากคำเพิ่มเติม



จากการสืบสอนพบว่าบริษัททั้ง 10 นี้ ได้นำเข้าหมูเถือนทั้งหมด 2,388 ตู้  ตั้งแต่ปี 64 จนภายหลัง กรมศุลกากรมาพบมีหมูเถื่อนตกค้าง 161 ตู้ ที่ ท่าเรือแหลมฉบังตามที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้



ส่วนกรณีที่มีมติ ครม. ให้โยกย้าย พันตำรวจตรี สุริยา สิงกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อการทำคดีหมูเถื่อน เพราะทางพนักงานสอบสวนได้มีการวางแนวทางเอาไว้อยู่แล้ว ยืนยันจะทำตามขั้นตอน ส่วนการบุกตรวจค้นหากพบผู้กระทำผิดก็จะจับกุมดำเนินคดีทุกราย



นอกจากนี้ได้รับรายงานจากกรมศุลกากรว่า พบหมูเถื่อน อีก 16 ตู้ ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง นอกเหนือจากจำนวน 161 ตู้ที่พบไปก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เป็นของ ของบริษัทใดและมีชิปปิ้งรายใดเป็นผู้สั่งนำเข้ามา



มีรายงานข่าวว่า คดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเตรียมจะรับเป็นคดีพิเศษเพิ่มนั้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเป็นจำนวนมาก และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน โดยเป็นการขยายผลจากเส้นทางการเงิน และพยานบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จนทำให้ทราบว่ามีอีกกลุ่มที่ลักลอบนำเนื้อหมูเถื่อนเข้าประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการใหญ่กว่าคดีก่อนหน้านี้ โดยพบว่าองค์กรนี้ได้นำเข้าหมูเถื่อนมาแล้วหลายพันตู้

โดยมีบริษัทเอกชนหลายราย เจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการประจำหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งรวมไปถึงมีนักการเมืองระดับประเทศอักษรย่อ ป. เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คอยทำหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกให้กับองค์กรนี้ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุมดพเนินคดี  สำหรัลองค์กรนี้พบว่ามีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมาตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดโรค AFS ในหมูที่ส่งผลให้เนื้อหมูขาดตลาดในประเทศ