สังคม

เก๋งเมาหนักซิ่งพุ่งชนรถพลิกคว่ำ ไม่สลดเดินเซถือกระป๋องเบียร์ขึ้นรถตำรวจ

โดย gamonthip_s

28 พ.ย. 2566

379 views

เวลา 10.00 น. วันที่ 28 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ ถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนนรัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที



เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งจุดเกิดเหตุดังกล่าวพบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แจ๊ส สีขาว อยู่ในลักษณะพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า ซึ่งพบเจ้าของรถยนต์ดังกล่าว ทราบชื่อต่อมา ชื่อนาย อายุประมาณ 50 -55 ปี ซึ่งเป็นพนักงานคุมประพฤติชำนาญการ อยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก นั่งอยู่ใกล้กับรถยนต์ของตน และใกล้กันยังพบกับรถยนต์ ยี่ห้อ มาสด้า รุ่น Cx3 สี แดง ทะเบียน ซึ่งมีนาย กร เป็นเจ้าของรถจอดอยู่ และต่อมาจึงทราบว่าเป็นรถคู่กรณีกัน



จากการสอบถามคุณ กร อายุ 49 ปี คนขับรถมาสด้าคู่กรณี กล่าวว่า ตนเองจอดรถซื้อของอยู่ข้างทางแล้วทางคู่กรณีมาจอดแล้วมาชนท้ายรถของตน พอตนเองจะเดินไปพูดคุยเคาะประตู 3-4 รอบ ก็ไม่ยอมออกมาคุยตนเองก็นึกในใจว่าเขาเมาหรือเป็นอะไรหรือเปล่า พอเขาออกมา แล้วเขาบอกว่าเขามีปืน ตนเองก็เลยถอยออกมา เพื่อมาขยับรถเดินหน้า และลงมาดูว่ารถของตนเองเป็นอะไรไหม แต่พอดูแล้ว ว่าไม่เป็นอะไร ก็เลยรีบออกมา เพื่อจะไปทำงาน และจะรีบไปส่งแฟน แต่คู่กรณีก็ยังขับรถตามมาเปิดไฟเลี้ยวตามมา พอตนหลบเข้าซ้าย เขาก็หักรถมาชนเลย เหมือนกับเขาตั้งใจที่จะชนเลย ตนเองก็งงยืนยันว่าก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเขา แล้วตนเองก็มาจอดอยู่ตั้งนานแล้ว จอดซื้อของ และก็รู้อยู่ว่า รถของคู่กรณีมาจอดชนท้ายรถของตน และตนเองก็ยืนยันว่าตนเองไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งนั้น คาดว่าคู่กรณีเมา และหลังจากคู่กรณีชนท้ายรถของตนแล้ว ก็ไม่เคยลงมาคุยอะไรกันเลย นอกจากจะขับรถตามมาจี้ท้ายรถของตนอย่างเดียว



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนาย สุเวศน์ ไปสอบถามเหตุการณ์เพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.ท่าพระ และได้นำรถยกมาเก็บกู้รถยนต์ของนาย สุเวศน์ เพื่อเปิดการจราจรแล้วนำรถยนต์คันดังกล่าวไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่สน. ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป แต่ระหว่างที่นาย สุเวศน์ เดินเซด้วยอาการมึนเมา เพื่อจะไปขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ในมือยังถือกระป๋องเบียร์ขึ้นไปบนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งใครเห็นแล้วก็จะรู้สึกว่านาย สุเวศน์ ไม่สำนึกในความผิดที่ตนก่อขึ้นในครั้งนี้และเป็นการไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองในเรื่องของการผิดต่อข้อกฎหมายจราจร



สำหรับกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 ได้เพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำกรณี “เมาแล้วขับ” โดยกำหนดบทลงโทษผู้เมาแล้วขับ ดังนี้ 1.ทำผิดครั้งแรก อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท



2. ทำผิดซ้ำข้อหา "เมาแล้วขับ" ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท โดยศาลจะลงโทษจำคุก และปรับด้วย พร้อมถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่



3. เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ เสียชีวิต โทษสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที

คุณอาจสนใจ

Related News