สุดรันทด แม่เลี้ยงเดี่ยว เครียดถูกทวงหนี้นอกระบบ กินยาดับสลดพร้อมลูก

เกิดเหตุสลดใจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ขลุง ได้รับแจ้งเหตุสลด แม่ลูกฆ่าตัวตาย ภายในบ้านพัก พื้นที่ ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี  ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบภาพสุดสลด แม่นอนกอดร่างของลูกสาวตัวน้อย ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางสาวรุ่งทิวา  อายุ 38 ปี  และเด็กหญิงชลดา หรือ น้องซาลาเปา อายุ 7 ขวบ  โดยน้องซาลาเปามีน้ำลายฟูมปาก ในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้  ข้างศพมีแก้วน้ำขนาดใหญ่ ในแก้วมีน้ำและคราบสีขาว คาดว่าเป็นยาที่ดื่มเข้าไปเพื่อฆ่าตัวตาย

นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตาย เขียนด้วยดินสอ ใจความว่า “สุดท้ายก็ไม่มีใครเข้าใจ อดข้าวมา 3 วันไม่มีตังกินข้าว ก็ไม่มีใครเข้าใจ มีแต่คนใจดำ ปล่อยให้ลูกกะหลาน อดข้าวไม่เคยถามว่ามีตังค์ไหม ยายอยู่ ยายคงไม่ปล่อยให้อดข้าว เราจึงตัดสินใจ ที่จะไม่อยู่ และจะไม่ทำอะไร เพื่อเป็นการรบกวนคนอื่น  หนี้สินที่หนูมี ก็ขอให้จบไปกับชีวิตหนู ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี ไม่น่ารักขออโหสิกรรมให้ทุกคน ขอโทษที่ไม่ได้ดูแล เพราะหนูไม่มีเงิน ซาลาเปากินข้าวกับน้ำปลาทุกวัน ไม่เคยมีใครรู้ เตาแก๊ส กับถังแก๊สข้างนอก อยู่ที่ร้าน ไปเอามาเองนะ ไม่มีสมบัติอะไรมีแค่นี้แหละ”

จากการสอบถามนายบัญญัติ อายุ 72 ปี พ่อของนางสาวรุ่งทิวา เล่าว่า ลูกสาว มีอาชีพขายเครื่องดื่ม ภายในตลาดนัด  เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ก่อนเสียชีวิต ลูกสาวอยู่บ้านกับหลาน ส่วนตนออกไปทำงานตอนช่วงเช้า พอตกเย็นก็กลับบ้าน โดยแวะซื้อกับข้าวมาให้ลูก พอมาถึงบ้านก็เข้าครัวหุงข้าว พอข้าวสุกก็ตะโกนเรียกลูกสาวกับหลานสาว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินเข้าไปปลุกในห้อง ก็พบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุ น่าจะเกิดจากเมื่อ 3 วันก่อน ลูกสาวไปกู้เงินนอกระบบมา 5 หมื่นบาท แล้วมีเจ้าหนี้มาตามทวงถึงบ้าน จนทำให้เครียดและตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมลูกน้อย

ขณะที่ช่วงเช้าวานนี้ (27 พ.ย.66) ญาติเดินทางไปรับศพสองแม่ลูก ที่โรงพยาบาลขลุง โดยร้านวิชัยราชันย์จำหน่ายหีบศพ ได้บริจาคโลงศพให้สองแม่ลูกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยญาติจะนำสองแม่ลูกไปบำเพ็ญกุสลที่วัดอิแงว ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี โดยจะสวดศพ 2 วันก่อนฌาปนกิจ  ซึ่งก่อนจะเคลื่อนศพไปวัด ได้มีการไปเชิญดวงวิญญาณสองแม่ลูกที่บ้านพัก เพื่อบอกกล่าวให้ดวงวิญญาณมาที่วัดอิแงว

นายบัญญัติ พ่อของนางสาวรุ่งทิวา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่ลูกสาวต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะเลิกกับสามีตั้งแต่น้องซาลาเปายังเล็กๆ แต่พอน้องซาลาเปาอายุ 5 ขวบ อดีตสามีก็เสียชีวิตไป จากนั้นลูกสาวก็ยึดอาชีพขายเครื่องดื่ม ประเภทน้ำหวาน ชากาแฟ โดยเปิดร้านเป็นเพิงริมถนนสายหนองระหาน –วังสรรพรส จนเมื่อ 4 เดือนก่อน ภรรยาของตน หรือแม่ของนางสาวรุ่งทิวา เกิดเสียชีวิตไปอีกคน เพราะโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันและโรคหัวใจ ซึ่งนางสาวรุ่งทิวาสนิทกับแม่มาก ตอนที่แม่ยังมีชีวิต ก็เป็นทั้งที่ปรึกษา เป็นคนที่คอยดูแลหาข้าวปลาอาหารให้ และยังเลี้ยงน้องซาลาเปาให้ด้วย พอแม่เสียชีวิตไป คงรู้สึกเคว้างคว้าง ขาดคนที่จะพูดคุย เพราะกับพ่อเองก็ไม่ค่อยได้สนิทสนมพูดคุยกันมากเท่าไหร่  ยิ่งมาเจอปัญหาหนี้นอกระบบ ก็คงหาทางออกไม่ได้   จึงคิดสั้นแบบนี้

ผู้สื่อข่าวไปที่ตลาดสี่แยกหนองระหาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้าน รุ่งคาเฟ่  ร้านค้าของนางสาวรุ่งทิวา ด้านในยังมีลังขวดน้ำอัดลม อุปกรณ์ขายน้ำ เตาแก๊สและถังแก๊ส  ถือเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของนางสาวรุ่งทิวา ขณะที่เพื่อนๆ พ่อค้าแม่ค้าที่คุ้นเคยกัน บอกว่า นางสาวรุ่งทิวาเป็นคนดีมีน้ำใจ น้องซาลาเปาก็เป็นเด็กน่ารัก เคยเห็นว่ามีเจ้าหนี้มาทวงหนี้หลายครั้ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะคิดสั้นแบบนี้ แม่ค้าบางคนถึงกับร้องไห้ บอกว่า อยากให้น้องซาลาเปากลับมา และยังโชว์คลิปน้องซาลาเปา ที่พวกตนเคยถ่ายเก็บไว้ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ดูความน่ารักของน้องซาลาเปา ที่จากไปก่อนวัยอันควร

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/H5CVGu0aKZg