'คดีหมูเถื่อน' ยิ่งสาวยิ่งเจอ! DSI ตรวจห้องเย็นสมุทรสาคร พบหลักฐานเอกสารเท็จ

การแถลงตั้งชุดเฉพาะกิจพญานาคราช ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีขึ้นเมื่อช่วงบ่าย แต่ว่าเมื่อเช้านี้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายค้นไปค้นห้องเย็นแห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรสาคร เพราะเอกสารนำเข้าอาหารทะเลจากบริษัทของผู้ต้องหา ระบุว่านำอาหารทะเล 282 ตู้คอนเทนเนอร์มาฝากไว้ในห้องเย็นที่นี่ แต่ปรากฎว่าการตรวจค้นวันนี้ ไม่พบแม้แต่ตู้เดียว แต่พบหลักฐานอื่นที่บ่งชี้ว่า เอกสารของตู้คอนเทนเนอร์กว่า 282 แผ่นนั้น เป็นเอกสารเท็จทั้งหมด



เอกสารที่อธิบดีดีเอสไอถืออยู่ในมือ คือใบอนุญาตให้นำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่ด่านตรวจประมงชลบุรี ออกให้บริษัทมายเฮาส์เทรดดิ้ง ที่แจ้งครอบครองชิ้นส่วนปลาแช่แข็งนำเข้าจากต่างประเทศ ในเอกสารแจ้งว่าสินค้านั้นเก็บรักษาในห้องเย็นรักษ์ชัย จ.สมุทรสาคร และตามหลักสินค้าควรจะอยู่ที่นี่ หรือหากเคยอยู่ที่นี่แล้วถูกเบิกออกไปก็ต้องมีหลักฐานการฝากและเบิก



แต่ข้อเท็จจริงที่ดีเอสพบคือ ไม่มีสินค้าแม้แต่ตู้เดียวมาเก็บอยู่ ผู้ประกอบการห้องเย็น บอกว่าบริษัทนี้เคยนำสินค้าจะมาฝาก แต่มีเอกสารไม่ครบ ที่สำคัญเอกสารระบุว่าเป็นปลา แต่เปิดตู้แล้วพบว่าเป็นหมู ห้องเย็นที่นี่จึงไม่รับฝากเด็ดขาด เพราะถือว่ามีพิรุธ



อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าหลักฐานยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวที่ระบุว่าเป็นสินค้าประมง เป็นเท็จและต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็น และไม่ใช่เฉพาะตู้เดียวเท่านั้นยังมากถึง 282 ตู้ ที่ทำเท็จขึ้นมาทั้งหมด



สินค้าที่บริษัทมายเฮาส์ แอบอ้างชื่อห้องเย็นรักษ์ชัยว่าฝากไว้ที่นี่ มีมากถึง 282 ตู้



ข่าว 3 มิติพบว่าสำแดงเป็นสินค้าประมง เช่นอ้างว่าเป็นหัวปลาแซลมอน/ปลาทูลัง/ปลาซาดีน หรือปลาเฮก /ประเทศที่ถูกระบุว่าเป็นต้นทางมากที่สุดในกรณีนี้คือบราซิล 119 ตู้ /เยอรมัน 117 ตู้ รองมาคือสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์/ อิตาลี/อาเจนตินา/เวียดนาม-เกาหลี และเนเธอแลนด์ รวมทั้งหมด 282 ตู้ คิดบนความจุขั้นต่ำตู้ละ 25,000 กิโลกรัม จะเป็นสินค้ามากถึง 7 พันตัน หรือ 7 ล้าน 5 หมื่นกิโลกรัม



ตอนนี้ข้อเท็จจริงปรากว่าเอกสารที่ระบุว่าเป็นปลาหรือสินค้าประมงนั้นเป็นเท็จทั้งหมด และผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าเป็นหมูแช่แข็ง คำถามต่อเมื่อไม่ได้ฝากไว้ที่นี่แล้วกว่า 7 ล้านกิโลนั้นเก็บไว้ที่นี่ หรือต่อให้ถูกขายไปแล้ว จะมีหลักฐานหลงเหลืออยู่หรือไม่ กำลังเป็นโจทย์ของดีเอสไอเช่นกัน