เมียหลวงสุดช้ำ ผัวทหารพาเมียน้อยมานอนบ้านพักหลวง

ผู้ใช้งานติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า "ถึงไม่มีลูกแต่เป็นคนถือทะเบียนสมรสนะ" พร้อมติดแท็ก #อยากดังเดี๋ยวจัดให้ โดยในคลิป จะเห็นว่ามีผู้หญิง 2 คน และผู้ชาย 1 คน ซึ่งผู้หญิงเสื้อดำ พยายามสั่งให้หยุดถ่ายคลิป โดยคนที่ถ่ายคลิปตอบกลับไปว่า นี่บ้านฉัน ฉันมีสิทธิ์ และพยายามถามผู้หญิงเสื้อดำว่า ตรงไหนคือ พื้นที่เธอ จากนั้นมีการยื้อยุดฉุดกระชาก ผู้หญิงเสื้อดำกระชากคอเสื้อของคนถ่ายคลิปจนขาด ส่วนผู้ชายในคลิปก็พยายามเข้ามาห้ามตรงกลาง และขอให้ทั้งคู่หยุดทะเลาะกัน

ทีมข่าวช่อง 3 เดินทางไปพบคุณเอ๋ อายุ 49 ปี เจ้าของคลิป โดย คุณเอ๋ กล่าวว่า คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนเดือนสิงหาคม 2565 เหตุการณ์เกิดขึ้นในบ้านพักข้าราชการทหารของนายนักรบ (นามสมมติ) สามีตนเอง ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตนเองจับได้ว่า สามีแอบพาสาวชู้ เข้ามาอยู่ที่บ้านพักหลวง แต่ทางฝั่งสาวชู้ก็พยายามโต้แย้งกลับว่า ตัวเองก็มีสิทธิ์ที่จะมาอยู่ในบ้านพักหลวง เนื่องจากตัวเองเป็นข้าราชการทหารเหมือนกัน

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณเอ๋ จับได้ว่าสามีนอกใจมีคนอื่น ตอนเดือนมิถุนายน 2565 ตนเองก็เคยจับได้ และทุกครั้งที่จับได้ ทางฝั่งสาวชู้ จะปรี่เข้ามาทำร้ายเธอทุกครั้ง ส่วนฝ่ายชายก็พยายามขอให้เธอหยุด เพื่อให้เห็นแก่ตัวเองที่เป็นคนกลาง

โดย คุณเอ๋ เล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า ตนเองเริ่มรู้จักกับสามีตอนปี 2551 ซึ่งตอนนั้นสามี มีภรรยาอยู่แล้ว แต่อยู่กันเหมือนเพื่อน ไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกันแล้ว และภรรยาของสามีก็รับรู้เรื่องของเธอ และคอยปรึกษาหารือกันมาโดยตลอดเกี่ยวกับเรื่องสามี เพราะสามีเป็นคนเจ้าชู้ , อดีตภรรยาของสามีมาคุยกับเธอถึงขั้นจูงมือพาเธอไปเป็นพยานในการจดทะเบียนหย่า

จากนั้นปี 2559 ตนเองเจ็บป่วยบ่อยและมีโรคประจำตัวเป็นโรคไต สามีจึงขอให้เธอไปจดทะเบียนสมรสเพื่อใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลของข้าราชการ เธอก็ยอมจดทะเบียนสมรสด้วย และหวังว่าสามีอาจจะเลิกนิสัยเจ้าชู้ แต่กลายเป็นว่าหนักกว่าเดิม เพราะสามีทำอะไรไม่เกรงใจตนเอง จีบสาวเป็นว่าเล่น ทั้งพนักงานแบงก์ , เด็กเอ็นฯ , ไซต์ไลน์ , เด็กดริ้ง ไปจนถึงสาวชู้คนล่าสุดในคลิป ชื่อ น.ส.แนน เป็นเสมียนทหาร เพื่อนร่วมงานกับสามี

ซึ่งตนเองมาจับได้มาตั้งนานแล้ว แต่เริ่มหนักข้อตอนช่วงโควิดไปมาหาสู่กันลำบาก เพราะตนเองมาอาศัยอยู่บ้านพ่อที่กรุงเทพฯ เพื่อสะดวกเวลาไปหาหมอฟอกไต ส่วนสามีต้องไปประจำที่

จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอยู่บ้านพักข้าราชการทำให้ต้องห่างกัน จึงเป็นช่วงที่สามีพา น.ส.แนน เข้ามาอยู่ในบ้านพักราชการด้วยกันเลย กลายเป็นว่าตนเองที่เป็นเมียหลวงแต่ไม่มีสิทธิ์เข้าไปนอนหรืออยู่กับสามีในบ้านพักหลวง และมาทราบอีกว่า ทั้งคู่มีลูกด้วยกันตอนไหนไม่ทราบ มาทราบอีกทีสามีมาบอกว่า ลูกโตอายุ 8 ขวบแล้ว

นอกจากนี้ บางครั้งที่จับได้และมีปัญหาทะเลาะกัน สามีลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายจนตนเองได้รับบาดเจ็บ แจ้งความไปแล้วคดีก็ไม่คืบหน้า ทางตำรวจบอกว่า เรื่องเกิดขึ้นในรั้วทหาร ตำรวจทำอะไรไม่ได้ ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงผู้บังคับบัญชา ทางผู้บังคับบัญชาก็เกลี้ยกล่อมให้ตนยอมความ อย่าเอาผิดฝ่ายชาย เพราะหากฝ่ายชายต้องออกจากราชการ เธอก็จะไม่ได้รับสิทธิ์การรักษาพยาบาล

ซึ่งคุณเอ๋ ยอมรับว่าทุกวันนี้ยังใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลของสามีในการฟอกไต แต่ความเป็นอยู่ ต้องอยู่แบบทุกข์ทรมานใจ เพราะในทางปฏิบัติสามีไม่เคยกลับมาสนใจดูแล บอกเพียงว่าให้สิทธิ์การรักษาพยาบาลไปแล้ว ซึ่งคุณเอ๋ นำเรื่องดังกล่าวออกมาเปิดเผยต่อสื่อฯ เพราะอยากให้เป็นบทเรียนกับอีกหลายคนว่า ทะเบียนสมรสบางทีก็กลายเป็นแค่กระดาษแผ่นเดียว ไม่มีค่าอะไร ตอนนี้เธอจะเดินหน้าฟ้องชู้เพื่อเรียกค่าเสียหาย ส่วนสามีถ้าต้องการหย่า ตนก็พร้อมหย่า เรื่องค่ารักษาพยาบาลตนเองมีปัญญาจ่ายเอง