เพจสภาสุดขยี้! รวมยอด 4 ปี รฟท.ขาดทุนยับ 6 หมื่นล้าน หลังดรามาจองตั๋วล่วงหน้า

เรื่องหลักเกณฑ์การจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า เมื่อวานนี้ ถ้าใครได้ติดตามจาก ข้อมูล อินโฟกราฟฟิก ของเพจประชาสัมพันธ์ของการรถไฟฯ หลายคนถึงกับบอกว่า หัวจะปวด บางคนบอกว่าอาจจะต้องกลับไปเรียนวิชาคณิตศาสตร์กันใหม่ ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะ มีการกำหนดหลักเกณฑ์รายะละเอียดการจองตั๋วล่วงหน้า ไว้ แตกต่างจากการเดินทางแบบอื่นๆ อย่างสายการบิน เราจองล่วงหน้ากันได้เป็นปี แต่สำหรับรถไฟ การจะจองล่วงหน้า จะยื่นอยู่กัยระยะทาง เช่น



1. กรณีผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทาง น้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ จองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน

2. กรณีผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทาง ตั้งแต่ร้อยละ 25 แต่ไม่ถึง 60 ของระยะทางขบวนรถ จองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน

3. ผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทาง ตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป จองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ซึ่งกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย



ทำเอาคนในโซเชียลคอมเมนต์กันจำนวนมาก เพราะต้องมาคำนวณ หาคำตอบก่อนว่าสถานีที่เราจะไป มีระยะทางคิดเป็นร้อยละเท่าไหร่ ของระยะทางขบวนรถ ซึ่งก็มีการยกตัวอย่าง เช่น สายใต้ หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงสถานีหัวหิน เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ จะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน แต่ถ้าไป ไปจนถึงสถานีชุมพร สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน และถ้า เดินทางตั้งแต่สถานีสุราษฎร์ธานีเป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน



ตอนนี้ภาพอินโฟกราฟฟิก ดังกล่าวถูกลบไปแล้ว แต่ถ้าไปดูในคอมเมนต์ที่แคปไว้ได้ บางคนบอกว่า ฉันต้องกลับไปเรียนคณิต บางคนบอกว่า งง อันนี้ให้ทำการบ้านคณิตศาสตร์หรอครับ บางคอมเมนต์ว่าขาดทุนต่อไป แม้แต่ อ.ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ก็ยังแซวว่า อ่านแล้วสนุกใจเหลือเกิน หรืออย่าง อ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ก็โพสต์บอกว่า



ออกเป็นข้อสอบ ONET ปีนี้น่าจะได้ ตั้งโจทย์ว่า ทะเบียนบ้านอยู่ลำปาง แต่ทำงานอยู่ปราณบุรี หากต้องการกลับบ้านช่วงสงกรานต์ปี 2567 เพื่อไปใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท ต้องขึ้นรถไฟสายใต้จากต้นทางหาดใหญ่ แล้วไปต่อรถไฟสายเหนือ กรุงเทพ-เชียงใหม่ จะสามารถจองตั๋วได้เร็วที่สุด เดือนใด



ก. ตุลาคม 2566

ข. มีนาคม 2567

ค. เมษายน 2567

ง. ไม่ต้องไป เพราะเงินดิจิทัลยังไม่ออก



ล่าสุด เช้านี้ เพจคลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (เพจตัวตึงของรัฐสภา) ทำอินโฟกราฟฟิก ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรถไฟฯ บอกว่า ก่อนจะจองตั๋วรถไฟ แอดมินขอนำเสนองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ​ โดยงบปี 2566 ยอดรวม 12,006,430,600 บาท ( 12,006 ล้านบาท) พร้อมกับแจกแจงเป็สัดส่วนว่าเป็นงบเอาไปใช้สำหรับอะไรบ้าง



แต่ที่เป็นประเด็น คือโพสต์ ต่อมา เพจคลังสารสนเทศสภา นำเอางบกำไรขาดทุนของการรถไฟมา แจกแจงเป็นรายรับรายจ่าย เป็นข้อมูลสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กับยายน 2564 พบว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย มีรายรับ 12,775 ล้านบาท แต่ มีรายจ่าย มากถึง 27,980 ล้านบาท ขาดทุน มากถึง 15,204 ล้านบาท



ไม่พอ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เพจคลังสารสนเทศสภา ขยี้ซ้ำอีก บอกมีสมาชิกเพจบางท่านขอให้รวมกำไร/ขาดทุน ในรอบ 10 ปีให้หน่อย แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องความขยันของแอดมิน เลยสรุปมาให้ 4 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2561 - 2564



พบว่า ปี 2564 ขาดทุน 18,251 ล้านบาท ปี 2563 ขาดทุน 19,083 ล้านบาท ปี 2562 ขาดทุน 16,341 ล้านบาท ปี ​2561 ขาดทุน 12,481 ล้านบาท ​ ​ ​รวม 4 ปี ขาดทุน ​ 6,158,313,593.30 ​ บาท ( 66,158 ล้านบาท)

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/mrz1DBsW8Pc