เร่งล่าตัวหญิงไทย นกต่อร่วมฆ่าหนุ่มไต้หวัน หลังตร.ออกหมายจับ

ตำรวจสืบสวนนครบาล ไล่ล่าตัวหญิงราชบุรี นางนกต่อคดีฆาตกรรมชาวไต้หวัน หลังศาลออกหมายจับ ขณะที่ 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมาและแคมเมอรูน ถูกนำตัวฝากขังแล้ว โดยภรรยาผู้ต้องหาชาวแคมเมอรูน ยันสามีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง



เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ศาลอาญาพระโขนง ได้อนุมัติหมายจับหญิงไทย ชาวจังหวัดราชบุรี ซึ่งทำหน้าที่เป็นนางนกต่อและตัวประสานงาน ในข้อหาร่วมกันฆ่า หนุ่มไต้หวันในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางนา เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา



หลังผู้ต้องหาชาวเมียนมาให้การซัดทอดว่า เป็นผู้จ้างวานผ่านโซเชียลมีเดีย รับสมัคร คนสอดแนม สะกดรอยตาม ก่อนนัดพบเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แนะนำให้รู้จักกับตัวการใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาชาววานูอาตูที่หลบหนี



จากการสืบสวน พบว่าหญิงดังกล่าวเป็นแฟนกับผู้ต้องหาชาววานูอาตู ซึ่งหลังจากทราบว่า ตำรวจจับ 2 ผู้ต้องหาได้ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวได้หลบหนีไป ทั้งนี้ ยังไม่พบว่าเดินทางออกนอกประเทศ



ด้าน พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล กล่าวว่า ผู้ต้องหาชาวตะวันตกที่ยังหลบหนีอยู่ถือ 2 สัญชาติ คือวานูอาตูกับอิหร่าน ขณะนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ตำรวจได้ประสานกับตำรวจสากลให้ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี



ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางนา ได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมาและแคมเมอรูน ส่งฝากขังผัดแรก ที่ศาลอาญาพระโขนง โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ โดยทั้งสองมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบคำถามใด ๆ กับสื่อมวลชน



ด้านภรรยาของผู้ต้องหาชาวแคมเมอรูน ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ว่าสามีรู้จักกับผู้ตายมานานแล้ว ปกติถ้าผู้ตายเดินทางมาประเทศไทย ก็จะนัดสามีมากินข้าวกัน ส่วนผู้ต้องหาชาววานูวาตูนั้น ผู้ตายเป็นคนแนะนำสามีให้รู้จัก โดยมูลเหตุเกิดจากผู้ตายโกงเงินผู้ต้องหาชาววานูวาตู จึงขอให้สามีช่วยไกล่เกลี่ยให้



พอถึงวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาชาววานูวาตูโทรเรียกสามีไปหาที่ชั้น 5 ของโรงแรม เพื่อให้สามีช่วยเปิดห้องไว้ให้แล้วเดินทางกลับ ก่อนโทรไปสอบถามว่าไกล่เกลี่ยสำเร็จหรือไม่ แต่ได้ยินเสียงดังจากปลายสาย จึงย้อนกลับมาที่โรงแรมอีกครั้ง ก็เห็นผู้ต้องหาชาววาตูวานูและชาวเมียนมา ร่วมกันทำร้ายใช้สเปรย์พริกไทยฉีดหน้าผู้ตาย แต่ไม่เห็นว่ามีการพันธนาการแต่อย่างใด สามีจึงเอามือไปบังใบหน้าผู้ตายเพื่อช่วยเหลือ แต่ผู้ ต้องหาชาวเมียนมากลับให้การว่า สามีร่วมทำร้ายร่างกายผู้ตาย ขอยืนยันว่า สามีไม่ได้มีเจตนาฆ่าอย่างแน่นอน เพราะไม่มีความขัดแย้งกัน เชื่อหากชาวไต้หวันยังมีชีวิตอยู่ ก็จะทำให้สามีรอดพ้นจากการดำเนินคดี

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/4L_YwwwM3ls