อาชญากรรม

ปอท. จับเครือข่ายแอปฯกู้เงินออนไลน์ดอกเบี้ยโหด เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้าน

โดย nutda_t

15 พ.ย. 2566

681 views

ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 23 จุด 16 หมายจับ ใน 10 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี ปทุมธานี นครราชสีมา ปราจีนบุรี อยุธยา สมุทรปราการ ชุมพร และ ตรัง หลังสืบทราบว่าเกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้ออนไลน์ดอกเบี้ยโหด

ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ 13 คน เป็นเครือข่ายระดับสั่งการที่ได้รับผลประโยชน์ 2 คน คือ นางสาวยุวธิดา อายุ 37 ปี และนายวีรยุทธ อายุ 37 ปี ส่วนอีก 11 คน เป็นบัญชีม้า ยึดของกลางทั้งสมุดบัญชี มือถือ โน๊ตบุ๊ก และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อื่นๆ อีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเจอคลิปที่แก๊งเงินกู้ถ่ายไว้ ตอนยกพวกไปรุมทำร้ายลูกหนี้บางคนที่ท้าทาย และไม่ยอมจ่ายเงินกู้ตามที่นัดไว้

โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ , ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ ในลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด , ร่วมกันทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ใช้ความรุนแรง และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ลักลอบปล่อยสินเชื่อ หรือเงินกู้นอกระบบผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์ต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นมา ผู้ที่สนใจจะกู้เงินจะต้องลงทะเบียนเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งจะยอมให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อเบอร์โทรศัพท์, รูปภาพ, กล้อง, ตำแหน่งที่ตั้ง (GPS) และไมโครโฟน โดยผู้กู้ต้องกรอกข้อมูลชื่อสกุล, ที่อยู่, ที่มารายได้, ชื่อผู้ติดต่อ, เลขที่บัญชีเงินฝาก, ภาพบัตรประชาชนคู่กับใบหน้า รวมถึงเบอร์โทรศัพท์เพื่อรอรับรหัสยืนยัน (OTP) ให้กับผู้ต้องหาก่อน จึงจะสามารถทำเรื่องยื่นขอเงินกู้ได้

เมื่อเงินอนุมัติ ผู้กู้จะได้เงินแค่ 55% ของยอดที่ยื่นไป โดยทางคนร้ายจะอ้างว่า ต้องหักเป็นค่าดำเนินการค่าดอกเบี้ยงวดแรก แต่เวลาคืนเงินต้องคืนเงินยอดเต็มที่ยื่นกู้ และต้องคืนเงินทั้งหมดให้ครบภายใน 6 วัน ถ้าคำนวณดอกเบี้ยจะเท่ากับร้อยละ 7.5 ต่อวัน หรือร้อยละ 225 ต่อเดือน หรือร้อยละ 2,737.5 ต่อปี หากลูกหนี้รายใด ไม่สามารถชำระเงินกู้ที่กู้ยืมไว้ได้ จะถูกโทรศัพท์ข่มขู่ ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย หรือมีโทรศัพท์ติดต่อไปยังพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน พร้อมส่งข้อความทาง SMS แนบรูปภาพตัดต่อใบหน้าของผู้เสียหายไปให้ เพื่อทำให้เข้าใจว่าผู้เสียหายเป็นผู้จำหน่ายเสพติด หรือค้าประเวณี

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่หลอกลวงผู้เสียหาย พบวามีบัญชีม้า และบัญชีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกว่า 100 บัญชี มีทั้งบัญชีคนไทย คนจีน คนรัสเซีย คนเมียนมา แต่สุดท้ายเงินทุกบัญชีจะโอนกลับไปที่ นางสาวยุวธิดา และนายวีรยุทธ ซึ่งยอดหมุนเวียนในบัญชีมีเงินกว่า 500 ล้านบาท

คุณอาจสนใจ

Related News