คนจีนกลัวตำรวจมาก! เล็งดึง ‘ตำรวจจีน’ ปราบจีนเทา ยันทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ลาดตระเวน

รัฐบาลแจงแนวคิดทำงานร่วมกับ ‘ตำรวจจีน’ เพื่อให้ได้ข้อมูลเบาะแสคนจีนสีเทา จากตำรวจจีน เพราะคนจีนกลัวตำรวจมาก ยันไม่ใช่ให้ตำรวจจีนมาลาดตระเวนในไทย และไม่เกี่ยวความเป็นเอกราช

หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ก่อนออกเดินทางไปร่วมประชุมเอเปค น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผย ว่า เรื่องความปลอดภัย ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จะทำงานร่วมกับ กับ ททท. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีน จะพูดคุยกับสถานทูตจีน ในวันที่ 15 พ.ย. นี้ เกี่ยวกับโครงการลาดตระเวน ที่จะเอาตำรวจจากประเทศจีน มาลาดตระเวนในประเทศไทย ตามเมืองท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง เหมือนกับที่เคยประสบความสำเร็จที่ประเทศอิตาลี แต่ยังไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและเมือง

เมื่อโครงการนี้ออกมา จะทำให้เห็นความพร้อมในการ ‘ยกระดับ’ รับนักท่องเที่ยวในเรื่องความปลอดภัย และมั่นใจว่าโครงการนี้จะช่วยทำให้ตัวเลขการท่องเที่ยวจีนช่วง 2 เดือนสุดท้าย เป็นไปตามเป้าเดิม ที่กำหนดไว้ที่ 4-4.4 ล้านคน

เมื่อถามว่า มีเหตุผลความจำเป็นอะไรที่ต้องให้ตำรวจจีนเข้ามาประเทศไทย น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า เราต้องการให้ตำรวจจีน เห็นการทำงานของประเทศไทย ว่าเรายกระดับเรื่องความปลอดภัยอย่างไรบ้าง ให้เขาเป็นกระบอกเสียงส่งต่อให้กับนักท่องเที่ยวจีน เพราะคนจีนกลัวตำรวจมาก ถ้าตำรวจของเขามาแสดงความมั่นใจในเมืองไทย ก็จะช่วยยกระดับความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวจีนอีกขั้นหนึ่ง

------------------------------------------

รัฐบาลแจงข่าว ตร.จีน ลาดตระเวนในไทย คาดเคลื่อน แค่ร่วมมือทำงาน ให้เบาะแส

เมื่อวานนี้  (12 พ.ย.66) หลังจากมีข่าวว่า จะมีโครงการลาดตระเวน ที่จะเอาตำรวจจากประเทศจีน มาลาดตระเวนในประเทศไทย ตามเมืองท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทย

ต่อมา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง  ความจริง คือ เพียงแค่มาร่วมมือทำงาน และให้ข้อมูลเบาะแส เพื่อให้ตำรวจไทยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเทศไทยเป็นเอกราชทำไมต้องใช้ตำรวจจีนมาลาดตระเวน

นายชัย กล่าวว่า เรื่องที่มีลักษณะสร้างสรรค์เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเช่นนี้ ทำไมต้องบิดเบือนและลากให้ไปโยงกับเรื่องของศักดิ์ศรีของประเทศเช่นนั้น  ขออย่าได้เล่นเกมวาทกรรมทางการเมืองกันจนเกินกว่าเหตุเช่นนี้เลย  เรามามุ่งสมาธิให้กับการทำงานรับใช้ประเทศชาติและประชาชนกันดีกว่าไหม

ทั้งนี้ จากการประชุมหารือเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (12 พ.ย.66) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่สหรัฐฯ  ในการหารือ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้หารือเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะปัญหาความปลอดภัยจากคนจีนกลุ่มสีเทา ที่เข้ามาสร้างปัญหาในประเทศไทย

ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานว่า พฤติกรรมของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในมุมของคนจีนที่มาท่องเที่ยวเมืองไทย พบว่า พวกกลุ่มคนจีนสีเทา มีความเกรงกลัวตำรวจจีนด้วยกันเอง และนักท่องเที่ยวจีนจะรู้สึกปลอดภัยเป็นพิเศษจากพวกเกเรทั้งหลายที่เป็นคนจีนด้วยกันแต่มารังแกคนจีนที่มาท่องเที่ยวไทย หากมีตำรวจจีนมาช่วยดูแล เขาจะรู้สึกเชื่อมั่นเป็นพิเศษ

ดังนั้น ตำรวจของไทยจึงคิดว่า กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการกำราบกลุ่มจีนสีเทา คือ ขอให้ตำรวจจีนเป็นผู้ช่วยในการปฎิบัติงาน ซึ่งปกติการทำงานร่วมกันของตำรวจสากลมีการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้แสดงออกให้เห็นชัดเจนขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไทยได้รับข้อมูลและเบาะแสที่แม่นยำรวดเร็วขึ้น

โดยตำรวจจีนมีข้อมูลและมีเบาะแสพร้อมจะให้ความร่วมมือกับตำรวจไทยเต็ม 100% และพร้อมจะให้ข้อมูลชี้เบาะแสล่วงหน้า ป้องกันไม่ให้พวกคนจีนที่คิดไม่ดีมาก่อเหตุและทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทยของคนจีน รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนมีความเชื่อมั่นถ้ามีตำรวจจีนมาร่วมทำงานกับตำรวจไทย

-------------------------------------

อิตาลีหยุดโครงการตำรวจลาดตระเวนร่วมจีน-อิตาลี หลังพบจีนแอบเปิดสถานีตำรวจเถื่อน

รอยเตอร์สรายงาน เมื่อเดือนธันวาคม 2565 อิตาลีได้ประกาศว่า จะหยุดปล่อยให้ตำรวจจีนมีส่วนร่วมในการลาดตระเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ในแผ่นดินอิตาลี   หลังมีรายงานว่ามีการลักลอบเปิดสถานีตำรวจจีนในหลายประเทศรวมถึงอิตาลีด้วย  

โดยกลุ่มเคลื่อนไหวที่ชื่อว่า “เซฟการ์ด ดีเฟนเดอร์ “ (Safeguard Defender)  ซึ่งมีสำนักงานในสเปน ได้เปิดเผยว่า พบหลักฐานว่า จีนได้ลักลอบเปิด "ศูนย์บริการ” ที่มีลักษณะการทำงานเหมือนกับสถานีตำรวจ" ของตัวเองถึง 102 สถานี ใน 53 ประเทศ ซึ่งในนั้น  มีอยู่ 11 สถานีในอิตาลี ขณะที่ซีเอ็นเอ็นได้รายงานไว้อ้างทางกลุ่มระบุว่า ศูนย์บริการของจีนเหล่านี้ ดำเนินการภายใต้ความช่วยเหลืออย่างลับๆของประเทศเจ้าบ้านเองด้วย

โดยทางกลุ่มระบุว่า "สถานีตำรวจ" ของจีนในอิตาลี มีความเชื่อมโยงกับ “ข้อตกลงทวิภาคี” ระหว่างจีน และอิตาลี ในปี  2558 ซึ่งเป็นความร่วมที่ให้ตำรวจจีนและอิตาลี เดินลาดตระเวนร่วมกันกับตำรวจอิตาลีในหลายเมืองทั้ง กรุงโรม / มิลาน / เนเปิลส์ และอีกหลายที่

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นายมัตเตโอ ปิอันเตโดซี รัฐมนตรีมหาดไทยอิตาลีปฏิเสธว่าสนธิสัญญาร่วมลาดตระเวนกับจีนนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดตั้ง "สถานีตำรวจ" เถื่อนของจีน ในอิตาลี และยืนว่าจะไม่มีความร่วมมือลาดตระเวนร่วมกันนี้อีกต่อไป

ทั้งนี้ จีน และอิตาลี ได้เริ่มโครงการลาดตระเวนร่วมกัน ในระหว่างปี 2559-2562  

ต่อข่าวดังกล่าว ทางการจีนได้ปฏิเสธ ข้อกล่าวหาดังกล่าว และอ้างว่าสถานีเหล่านั้นเป็นเพียง ศูนย์อาสาสมัครซึ่งช่วยเหลือพลเมืองของตนในการต่ออายุเอกสาร และให้บริการอื่นๆ ที่หยุดชะงักระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เท่านั้น

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Z4q48DgaPpo