พ่อขับกระบะตามกลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายลูก แต่อีกฝ่ายบิด จยย.หนี สุดท้ายพุ่งชนขาขาด ตร.แจ้งข้อหาพยายามฆ่า

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ 'เพิก ชุมแพ' โพสต์ภาพนิ่งอุบัติเหตุกระบะชนจักรยานยนต์ โดยโพสต์ในกลุ่ม 'คนอำเภอชุมแพ' พร้อมระบุข้อความว่า

“11 พ.ย. 66 เหตุกระบะชนมอไซค์ มีผู้บาดเจ็บเบื้องต้น 3 ราย อาการสาหัส ขาขาดหลุดกระเด็น 1 ราย กู้ภัยต้องช่วยกันส่องไฟหาชิ้นส่วน บ้านหนองไผ่เหนือ ก่อนถึงบ้านโสกก้อง ต.วังหินลาด  

คนขับกระบะ ชี้แจงว่า ลูกชายโดนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ทำร้าย และขับรถหนี เลยขับรถตาม บอกให้จอดรถ แต่ไม่ยอมจอด เลยขับพุ่งชนกระเด็นคนละทาง รายละเอียด ข้อเท็จจริง คงต้องรอคำให้การทั้งสองฝ่าย”

-------------

วานนี้  (12 พ.ย. 66) ร.ต.อ.สุพล ดุมกลาง รองสว. (สอบสวน) สภ.ชุมแพ เปิดเผยรายละเอียดคดีดังกล่าว ระบุว่า

เป็นเหตุกระบะชนกับจักรยานยนต์ที่ซ้อน 3 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายวรัญญู มณีโม้ง อายุ 19 ปี ขาขวาขาด

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. บนถนน สายชุมแพ-สีชมพู ในพื้นที่บ้านหนองไผ่เหนือ ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

ในที่เกิดเหตุ พบจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น ในสภาพพังยับเยิน ล้มอยู่ท้ายกระบะสีเทา พบนายศราวุธ ลุนบุดดา อายุ 37 ปี คนขับกระบะ ยืนรอให้การในที่เกิดเหตุ  

ส่วนผู้บาดเจ็บ  3 คน คือ

• นายวรัญญู มณีโม้งอายุ 19 ปี  ที่นั่งซ้อนคนท้ายสุด ขาขวาขาดที่บริเวณหน้าแข้ง
• นายศราวุฒิ ทองล้น อายุ 20 ปี นั่งซ้อนตรงกลาง บาดเจ็บที่เท้าซ้าย
• นายจีระศักดิ์ อายุ 18 ปี  คนขี่จักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย  

เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันส่องไฟ หาขาของนายวรัญญู ที่ขาดกระเด็นไป  จนไปพบว่า อยู่ใต้ท้องกระบะ จึงนำตัวคนเจ็บ และขาที่ขาด ส่งโรงพยาบาลชุมแพ และสอบปากคำคนขับรถกระบะ

-------------

นายศราวุธ คนขับรถกระบะ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเย็น (11 พ.ย. 66) ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองไผ่เหนือ มาบอกว่า  ลูกชายของตน อายุ 13 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านหนองไผ่ ทำร้ายร่างกาย ขอให้มาพูดคุยกัน ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองไผ่เหนือ  

พ่อจึงไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ขณะกำลังรอคู่กรณีของลูกชาย พบว่า มีวัยรุ่นในหมู่บ้านหนองไผ่ 5 คน ขี่จักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดหน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน แต่ไม่ได้ลงมาเจรจา กลับเร่งเครื่องเสียงดัง  

ซึ่งมีชาวบ้าน บอกว่า ทั้ง 5 คน คือ วัยรุ่นที่รุมทำร้ายลูกชายตน เมื่อได้ยิน จึงรีบเดินออกไป เพื่อจะเรียกทั้ง 5 คน มาคุย แต่ทั้งหมดกลับขี่ จยย.ออกไปอย่างเร็ว

จากนั้น จึงขับรถตาม จนไปเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งช่วงที่ขับรถกระบะตามกลุ่มวัยรุ่นนั้น มีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ จะเห็นว่ามีจักรยานยนต์ของวัยรุ่น 2 คัน ขี่ผ่านไป จากนั้น ก็มีกระบะของนายศราวุธขับไล่ตามไป    

นายศราวุธ ยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า ลูกชายถูกวัยรุ่นต่างหมู่บ้านทำร้าย ขณะที่พาแฟนสาวกับแม่ของแฟนไปรักษาแพทย์แผนไทย

ซึ่งช่วงที่ลูกชายถูกทำร้ายนั้น มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์หลายคน  แฟนของลูกชายก็ถูกตีตามร่างกาย  

เมื่อผู้ใหญ่บ้านเรียกไปไกล่เกลี่ย แต่กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุไม่ยอมมาพูดคุย แถมยังขี่ จยย.หนี คันหนึ่งซ้อน 2 อีกคันซ้อน 3 ตนจึงขับกระบะตาม เพื่อจะเรียกให้มาพูดคุยกัน แต่พอมาถึงทางคู่ขนาน ตนขับรถขึ้นตีคู่จักรยานยนต์ของวัยรุ่น แล้วเปิดกระจกลงมา บอกให้มาคุยกันก่อน

แต่วัยรุ่นที่นั่งตรงกลาง กลับบอกให้คนขับเร่งเครื่องหนี ตนเองก็พยายามขับรถไล่ตาม จนกระทั่งได้ยินเสียงชนแล้วรถไถล ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาขับชน ตามที่มีการโพสต์ในโซเชียล เพราะหากตั้งใจชน คงชนไปนานแล้ว แถมช่วงหลังเกิดเหตุ ตนเองก็หาน้ำให้กลุ่มวัยรุ่นดื่ม ในช่วงที่รอตำรวจมา

-------------

ส่วน เด็กชายอายุ 13 ปี ลูกชายของคนขับกระบะ บอกว่า  

ตนเองพาแฟน กับแม่แฟน ไปทำธุระที่ต่างหมู่บ้าน ระหว่างนั่งรอที่จักรยานยนต์ มีกลุ่มวัยรุ่นเดินมาทางตน แล้วหนึ่งในนั้นชี้หน้า บอกว่า ตนไปมองหน้าหาเรื่อง จากนั้น ก็หันไปบอกพรรคพวกว่า “พี่ ๆ คนนี้แหละ ที่มันมีเรื่องกับผม” ทำให้ตนงงมาก เพราะไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน จึงถามไปว่า “คนไหนครับ” จากนั้น ก็โดนต่อยทันที

พอแฟนเข้ามาช่วย กลุ่มวัยรุ่นก็ทำร้ายทั้งตน และแฟน จนมีชาวบ้านตะโกนห้าม จึงพากันแยกย้ายหนีไป ตนจึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านกับแจ้งตำรวจ

-------------

ขณะที่ ฝั่งวัยรุ่นที่บาดเจ็บ เมื่อวานนี้ (12 พ.ย. 66) เข้าให้ปากคำกับตำรวจ

โดย นายจีระศักดิ์ อายุ 18 ปี คนขี่จักรยานยนต์ มาแจ้งความดำเนินคดีกับคนขับกระบะ

ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เพราะจักรยานยนต์เสียหายทั้งคัน

และให้การว่า ไม่รู้เรื่องที่ลูกชายของคนขับกระบะถูกทำร้าย เพราะตนเองไม่เกี่ยวข้อง คนที่ลงมือทำร้ายลูกคนขับกระบะ คือ วัยรุ่นอีกคน ที่ชื่อนายลิขิต คงพรม อายุ 20 ปี

ส่วน นายศราวุฒิ ทองล้น อายุ 20 ปี คนนั่งกลาง ก็มาแจ้งความคนขับกระบะ

ในข้อหาพยายามฆ่า โดยให้การว่า ไม่รู้เรื่องที่ลูกชายคนขับกระบะถูกทำร้าย รวมทั้ง คนขับกระบะกระทำการเกินกว่าเหตุ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์จนบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถไปทำงานได้ ขาดรายได้

-------------

ด้าน พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ  เปิดเผยว่า

ฝั่งผู้บาดเจ็บเข้าให้ปากคำแล้ว 2 ราย เหลือเพียงคนที่ขาขาด ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์  เมื่อสอบปากคำฝั่งผู้บาดเจ็บครบทั้ง 3 คน ก็จะเรียกคนขับกระบะมารับทราบข้อหา คือ พยายามฆ่า และทำให้เสียทรัพย์

นอกจากนี้ ตำรวจยังเรียกตัว นายลิขิต คงพรม วัยรุ่นที่ถูกซัดทอดว่า เป็นคนทำร้ายลูกชายคนขับกระบะ มาสอบปากคำ

โดย นายลิขิต อ้างว่า ไม่ได้มีเรื่องกับลูกคนขับกระบะโดยตรง แต่ลูกพี่ลูกน้องของตน ที่มีอายุ 13 ปี มาเล่าว่า ไปโรงเรียน แล้วถูกลูกของคนขับกระบะข่มขู่บ่อยครั้ง จนไม่อยากไปโรงเรียน  

วันเกิดเหตุ ทราบว่า ลูกคนขับกระบะมาที่หมู่บ้าน จึงไปหา และถามเรื่องที่ข่มขู่ลูกพี่ลูกน้องของตน แต่อีกฝ่ายแสดงอาการไม่พอใจ จึงตบหน้าสั่งสอน 1 ที ต่อหน้าชาวบ้านในซอย

ต่อมา ทราบว่า แม่ของแฟนคู่กรณี พาไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ตนก็ไม่ได้ใส่ใจ และชวนเพื่อน 5 คน ขี่รถออกไปร้านค้า เพื่อซื้อของกิน แต่ต้องผ่านหน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน  

พอขี่รถผ่าน ก็เจอกลุ่มเพื่อนของคู่กรณี และชาวบ้านตะโกนว่า พวกตนเป็นคนทำร้าย พ่อของคู่กรณีจึงขับรถไล่ตาม  

ตนขี่จักรยานยนต์เลี้ยวซ้ายหนีเข้าหมู่บ้าน พ่อของคู่กรณีก็ขี่รถตามเพื่อนของตน จนกระทั่งไปเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งยืนยันว่า กลุ่มเพื่อนที่บาดเจ็บ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ตนไปตบหน้าลูกคนขับกระบะเลย  

-------------

ทางด้าน นายสมจิตร คูนาวงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองไผ่เหนือ  ที่เป็นคนกลาง ในการที่จะไกล่เกลี่ยเรื่องของเด็กชาย 13 ปี ที่ถูกวัยรุ่นตบหน้า กล่าวว่า

หลังรับแจ้งเรื่อง ก็สอบถามจนรู้ตัวคนก่อเหตุ และตามให้มาเจรจากันที่บ้าน แต่คนที่ลงมือก่อเหตุไม่ยอมมา กลับพาเพื่อนมาบิด จยย.เร่งเครื่องอยู่หน้าบ้าน จนพ่อของเด็กต้องขับรถกระบะ เพื่อจะให้กลับมาเจรจากัน จะได้จบเรื่อง

แต่...กลับเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ คงต้องปล่อยให้คู่กรณีพูดคุยกันเอง และให้ตำรวจดำเนินการไป เพราะเกินอำนาจควบคุมของผู้นำชุมชนแล้ว

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/By76ZPci9-E