7 คนร้ายดักขู่รุมยิงทหารพรานดับต่อหน้าภรรยา ก่อนปล่อยให้ภรรยารอด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 พ.ย.66 พ.ต.อ.ธัญญะ ลัภบุญ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถึงเสียชีวิตบนถนนทางขึ้นเทือกเขาบือเร็ง บ้านมือและ ม.1 ต.สาวอ จึงพร้อมด้วย น.ท.พิทักษ์ภูมิ วงศ์สุวรรณ รอง ผบ.ฉก.ทพ.นย.ทร. พ.ท.นพดล พรหมมาก รอง ผบ.ฉก.ทพ. 46 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบถนนจุดเกิดเหตุเป็นดินลูกรัง มีหญ้าขึ้นรกทึบ 2 ฟากฝั่ง บนถนนเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 ตกอยู่จำนวนกว่า 10 ปลอก รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดขึ้น ส่วนผู้เสียชีวิตพลเมืองดีได้นำศพส่งโรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลรือเสาะ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ อส.ทพ.เสรี อายุ 36 ปี อยู่บ้านหลังหนึ่งใน ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 ชุดเฉพาะกิจทหารพรานนายวิกโยธินกองทัพเรือ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน เอ็ม.16 ที่บริเวณศรีษะ หน้าอก ใบหน้าและขาทั้ง 2 ข้าง จำนวนกว่า 10 นัด ซึ่งมี น.ส.ซูซาฮานา อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตและเครือญาติจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมารับศพเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่กูโบร์ตะปอเยาะ ม.3 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส

จากการสอบสวน น.ส.ซูซาฮานา ภรรยาของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ในช่วงสามีลาพักทุกครั้ง ตนและสามีจะมาพักที่บ้านของมารดาสามี ซึ่งครั้งนี้สามีลาพักตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 12 พ.ย.66 สามีกับตนจะเดินทางมาทำสวนทุเรียนของมารดาสามี ซึ่งอยู่บนเทือกเขาบือเร็งในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อแล้วเสร็จก็จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซึ่งการเดินทางไปทำสวนในครั้งนี้

ขณะที่สามีขี่รถ จยย.และตนนั่งซ้อนท้ายไปตามถนนที่มุ่งสู่เทือกเขา ได้มีชายฉกรรจ์แต่งกายด้วยชุดสีดำ จำนวน 7 คน ในมือถืออาวุธปืนเอ็ม.16 คนละกระบอก เมื่อสามีขี่รถ จยย.ผ่านชายชุดดำทั้ง 7 คน ได้วิ่งกรูถืออาวุธปืนมายืนขวางถนน พร้อมบังคับให้สามีจอดรถ จยย.หลังจากนั้นคนร้ายใช้อาวุธปืนขู่บังคับให้สามีและตนลงจากรถ จยย. พร้อมให้นอนคว่ำหน้าลงกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 ยิงใส่สามีจำนวนหลายนัดจนสามีเสียชีวิต แล้วคนร้ายได้ไล่ตนให้วิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุ ตนจึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือชาวบ้าน และได้ร่วมเดินทางมายังที่เกิดเหตุ พบสามีนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว ชาวบ้านจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบดังกล่าว

ด้านนายมะซานุซี น้องชาย กล่าวว่า ปกติพี่ชายกลับจากค่ายเขาจะเข้าไปทำสวนยางพารา และปลูกทุเรียน ไปช่วงเช้ากลับบ่ายในทุกวัน หลังลาพักเขาจะมาอยู่ที่นี่ 10 วัน โดยที่ไม่มีศัตรูทะเลาะกับผู้ใด และไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเขาเอาแต่ทำงานอย่างเดียว เพื่อสร้างอนาคตหลังจากที่ปลดออกจากการเป็นอาสาสมัครทหารพรานเขาจะได้อยู่สบายมีเงินเลี้ยงครอบครัว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น คาดว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เนื่องจากทราบว่าทุกครั้งที่ผู้เสียชีวิตลาพัก จะเดินทางมานอนที่บ้านของมารดา เพื่อที่จะเดินทางไปทำสวนยางพาราและสวนทุเรียนบนเทือกเขา เมื่อทราบว่าผู้เสียชีวิตกลับมาทำสวนเหมือนเช่นเคย จึงได้วางแผนดักสังหารคนของทางการ