สังคม

"บิ๊กโจ๊ก" ยื่นเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์คดีเว็บพนัน ปปง. ยืนยันไม่ได้ทำงานช้าจากเงินหลักสิบล้าน ยึดได้ 4 แสนบาท

โดย kanyapak_w

3 ชั่วโมงที่แล้ว

376 views

"บิ๊กโจ๊ก" ยื่นเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์คดีเว็บพนัน ปปง. ยืนยันไม่ได้ทำงานช้าจากเงินหลักสิบล้าน ยึดได้ 4 แสนบาท



วันนี้ (20 กันยายน) ภายหลังการแถลงข่าวผลการยึดทรัพย์ครั้งใหญ่ คดีทุจริต พนันออนไลน์ ฉ้อโกงประชาชน ปั่นหุ้น รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท นำโดย 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(สำนักงาน ปปง.) ,สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ,สำนักงานอัยการสูงสุด และ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง



นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงกรณี ที่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมาสำนักงาน ปปง. มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้เป็นการชั่วคราว  รวม 3 รายการ มูลค่าประมาณ 4.8 แสนบาท ในคดีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดฐานฟอกเงิน เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ www.betflixroyal.com และ www.betflikroyal.net



หลังปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการนำเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานไปชำระเบี้ยประกันบางส่วน ตามสัญญาประกันชีวิตของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล และภริยา และต่อมาผู้เอาประกันได้เวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ดังนั้นจึงถือว่าเงินที่ได้จากการเวนคืนกรมธรรม์ดังกล่าวบางส่วนนั้นเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด



นายเทพสุ กล่าวว่า ไม่นานนี้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ได้ทำหนังสือเพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์ของ ปปง. ซึ่งเป็นไปตามสิทธิที่เจ้าตัวสามารถทำได้ จากนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาว่าทรัพย์สินดังกล่าวเกี่ยวพันถึงคดีเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในกระบวนการ



ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่ากรมธรรม์ดังกล่าวยอดเงินในครั้งแรกมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทแต่ ปปง. ตามยึดอายัดได้หลักแสนบาทเท่านั้น มีความผิดปกติหรือดำเนินการล่าช้าจนทรัพย์สินถูกโยกย้ายหรือไม่



นายเทพสุ ระบุว่า เงินที่ถูกนำมาชำระในกรมธรรม์ ของพล.ต.อ. สุรเชชษฐ์และภริยาทั้งหมดแม้จะมีการโยกย้ายออกไประหว่างการตรวจสอบ แต่ทางปปง.สามารถทำการตรวจสอบได้และหากพบว่าาเงินดังกล่าวข้องเกี่ยวกับความผิดก็สามารถตรวจยึดย้อนหลังได้



ยืนยันว่าที่ผ่านมาการดำเนินการของ ปปง. เป็นไปตามขั้นตอนอย่างละเอียดรอบคอบไม่ได้มีความล่าช้า โดยคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ต้องดำเนินการตามกฎหมายแพ่ง และคำสั่งทางปกครองควบคู่กัน  ซึ่งการที่จะมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์จะต้องเป็นมติของที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม อีกทั้งที่ผ่านมาในขั้นการตรวจสอบ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ได้ร้องขอความเป็นธรรมมาโดยตลอด ทำให้ตณะกรรมการธุรกรรมต้องพิจารณาคำร้องส่วนนั้นด้วย



นายเทพสุ กล่าวต่อว่า ในคดีดังกล่าวขอย้ำว่า ปปง.ไม่มีการแบ่งมาตรฐานปฏิบัติ ผู้ที่ถูกกล่าวหาถูกปฏิบัติในหลักเดียวกัน ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าใน ปปง. มีการแบ่งฝ่ายดำเนินการในเรื่องนี้ ตนยอมรับว่าในองค์กรที่มีคนจำนวนมากย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่มีหลายมุมมอง แต่ในคณะกรรมการฯเราจะพยายามใช้มาตรฐานเดียวกันในการดำเนินการ



ส่วนกรณีการตรวจสอบการครอบครองบ้านพักที่ต่างประเทศของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายเทพสุ ระบุว่า ต้องมีการพิจารณาตามพยานหลักฐานถึงจะมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ได้ แต่จะเร็วหรือช้าทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่ที่หลักฐาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย



คุณอาจสนใจ

Related News