แกะรอยแก๊งเช่ารถไปจำนำ ตัดสัญญาณจีพีเอส-สร้างตำแหน่งปลอม คาดลอบส่งข้ามแดน

เจ้าของบริษัทรถเช่ารายหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาร้องเรียนกับข่าว 3 มิติ ให้ช่วยติดตามรถยนต์ ที่ลูกค้ารายหนึ่งเช่าไป เมื่อปลายเดือนตุลาคม แต่บริษัทตรวจพบว่าลูกค้ารายนี้นำรถไปจำนำไว้กับบุคคลกลุ่มหนึ่ง จึงพยายามเจรจาขอไถ่ถอนรถคืน แต่คนกลุ่มนี้ปฏิเสธและตัดการติดต่อ ผู้เสียหายพยายามหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจนพบว่า กลุ่มคนที่รับจำนำรถ อาจทำเป็นขบวนการวางแผนเช่ารถยนต์มาจำนำ เพราะมีความชำนาญในตัดสัญญาณจีพีเอส และสร้างตำแหน่งปลอม เพื่อป้องกันการติดตามรถคืน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการรับจำนำรถยนต์ เพื่อลักลอบส่งออกนอกประเทศ 


ภาพสุดท้ายของรถยนต์ฮอนด้า บีอาร์วี หมายเลยทะเบียน กล9489 สระบุรี ถูกถ่ายไว้ช่วงเที่ยงของวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้หญิงในภาพถ่ายเป็นผู้เช่ามาจากบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่ง วันรุ่งขึ้นบริษัทรถเช่าเริ่มพบความผิดปกติ เพราะรถยนต์ไม่ถูกสตาร์ทเครื่องและใช้งาน แต่ยังอยู่ในสัญญาเช่า 4 วัน จึงทำได้เพียงสังเกตการณ์จากระบบจีพีเอสติดตามรถยนต์


ต่อมารถยนต์ถูกย้ายตำแหน่งไปประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่ริมถนนในแหล่งชุมชน ระบบจีพีเอสแจ้งสถานะใช้งาน แต่ตำแหน่งรถยนต์ไม่เคลื่อนที่ ทันทีที่รู้ว่ารถยนต์ถูกเช่าไปจำนำ ผู้เสียหายจึงแจ้งความและพยายามตามหารถ โดยเริ่มต้นจากจุดที่นำรถไปส่ง

ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อให้ดูภาพกล้องวงจรปิด แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ ในกล้องพบผู้ชาย 3 คน ขับรถกระบะมาจอดหน้าร้าน จากนั้นชาย 2 คน ก็ขับรถคันนี้ออกไป ผู้หญิงที่เช่ารถยนต์ยอมรับว่าพี่สาวของเธอเป็นคนติดต่อทั้งบริษัทรถเช่าและคนรับจำนำ เธอเป็นเพียงเจ้าของเอกสารเท่านั้น และไม่ได้ตั้งใจเช่ารถมาจำนำตั้งแต่แรก


เมื่อนำข้อมูลของนางธิติรัตน์ ที่เป็นพี่สาวไปตรวจสอบ พบว่าเมื่อเดือนที่แล้วเคยเช่ารถยนต์ของบริษัทเดียวกันในสาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปจำนำที่สนามมวยแห่งหนึ่ง แต่บริษัทตามรถคืนได้จึงไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี


ขณะที่ตำรวจกำลังตามตัวชาย 3 คนที่มารับรถ ผู้เสียหายก็พยายามหาหลักฐานเพิ่มจากกล้องวงจรปิด จนพบภาพรถทั้ง 2 คัน ขับไปทางสี่แยกเข้าตลาดสีคิ้วเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางถนนมิตรภาพ แต่จุดนี้พบความผิดปกติ รถเช่าที่มีสัญญาณจีพีเอสชะลอความเร็วและหยุดรถไปช่วงเวลาหนึ่ง


คนเช่ารถและพี่สาวปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับคนรับจำนำ ติดต่อกันผ่านเพจเฟซบุ๊กเท่านั้น ตำรวจจึงแกะรอยจากทะเบียนรถกระบะทะเบียน กย5218 จนพบบ้านหลังหนึ่งในอำเภอสูงเนิน จึงอายัดรถกระบะและเจ้าของมาสอบสวน


เจ้าของรถกระบะยอมรับว่าเป็นเพียงคนกลางที่มารับรถเท่านั้น เพื่อส่งให้ผู้รับจำนำตัวจริงที่จังหวัดสระแก้ว ตำรวจชุดสืบสวนภูธรสีคิ้ว จึงตามยึดรถคันนี้กลับคืนมาได้พร้อมกับของกลาง เช่นเครื่องตัดสัญญาณจีพีเอส และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก จึงเชื่อว่าอาจเชื่อมโยงไปยังขบวนการใหญ่ได้


คดีนี้ตำรวจเตรียมขยายผลต่อหากผู้เสียหายคือบริษัทเช่ารถยนต์ร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะหลักฐานที่พบเช่นกล้องหน้ารถที่ถูกถอดหลายตัว และพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลที่รับจำนำรถซึ่งมีความชำนาญ อาจเคยทำลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง