เก๋งฝ่าไฟแดง ชนจักรยานยนต์ไรเดอร์บาดเจ็บ ก่อนหลบหนี ไร้การช่วยเหลือ

ภาพจากล้อง CCTV ของเทศบาลนครนคราชสีมา ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thalinthon Chisa ได้นำมาโพสต์ พร้อมระบุข้อความว่า ผมคือไรเดอร์ผู้อยู่ในคลิปที่เกิดอุบัติเหตุครับ เหตุเกิดวันที่ 2 ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากตามคลิปที่ผมได้ลงต่อไปนี้เลยครับ รถพังเสียหายน่าจะเอาคืนยากครับ ส่วนคู่กรณีได้ขับหลบหนีผมไปเลย ผมพยายามติดตามกล้องตามเส้นทาง ได้กล้องบริเวณนั้นแต่กล้องเป็นภาพขาวดำมองไม่ชัด

ส่วนทางเทศบาลก็ได้ให้คลิปนี้ผมมาครับ อยากขอความเมตตา ความกรุณา ความช่วยเหลือจากเพื่อนๆพี่ๆบนท้องถนน ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่จอดอยู่ด้านหลังหรือจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรถคู่กรณี ผมอยากได้ทะเบียนรถของคู่กรณีครับ อยากให้เขามารับผิดชอบในสิ่งที่เขากระทำลงไปในวันเกิดเหตุ เพราะตอนนี้ผมเดือดร้อนมาก ส่วนอาการบาดเจ็บฟกช้ำหลายแห่งตามร่างกายตอนนี้ก็ยังมีอยู่ครับ ดีที่แขนขาไม่หัก ผมโชคดีมากที่ผมไม่ตายครับ...เจ้าของรถที่เห็นโพสต์ของผม หรือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ มีจิตเมตตาอยากแจ้งข้อมูล แจ้งมาทางเฟสนี้ได้เลยครับ กราบขอบพระคุณมากๆ ครับ

ซึ่งภาพที่ปรากฏในคลิป เผยให้เห็นนาทีที่รถยนต์เก๋ง ECO car สีแดง คันหนึ่ง จอดติดไฟแดงอยู่หน้าสุดในช่องจราจรกลางของถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา ในช่วงเวลา 22.33 น. จากนั้นประมาณ 1 นาทีนิดๆ ก็ค่อยๆ ขยับเลื่อนรถมาด้านหน้า แล้วตัดสินใจฝ่าไฟแดง ขับเลี้ยวขวาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ข้ามสี่แยกแล้วเบี่ยงรถมุ่งไปยังถนนทางหลวงชนบท นม.1120 หรือที่เรียกกันว่า ถนนสุรนารี 2 ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้โพสต์ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทางในช่วงสัญญาณไฟเขียวพอดี จึงทำให้รถเก๋ง ECO car สีแดงพุ่งชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ของไรเดอร์รายนี้เข้าอย่างจัง ในเวลา 22.35 น. ก่อนจะขับหลบหนีไป โดยไม่จอดรถลงมาดูหรือช่วยเหลืออะไร มีเพียงพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้าช่วยเหลือ และโทร.แจ้งตำรวจกับกู้ภัยฯ ให้มาตรวจสอบและนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2566) นายธลินทร อายุ 30 ปี ไรเดอร์ที่ประสบเหตุ มีอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุอยู่ที่บริเวณข้อเท้าขวาที่มีอาการบวมและมีรอยฟกช้ำ ทำให้นายธลินทร ยังคงไม่สามารถใส่รองเท้าผ้าใบได้และยังคงเดินขากะเผลกอยู่แต่ยังคงต้องออกมาทำงานเนื่องจากต้องหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว

นายธลินทร ได้เล่าวินาทีในคืนวันเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในคืนวันเกิดเหตุนั้นตนกำลังจะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน พอมาถึงแยกที่เกิดเหตุนั้นสัญญาณไฟจราจรของตนนั้นเป็นสีเขียวทำให้ตนไม่ได้ชะลอรถตะระหว่างกำลังจะข้ามแยกนั้นจู่ๆรถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับฝ่าไฟแดงเลี้ยวตัดหน้าตนกระทันหันจึงทำให้เบรกไม่อยู่จนไปชนเข้ากับประตูด้านหลังของรถเก๋ง โชคดีที่ไม่บาดเจ็บแขน ขาหัก มีแค่รอยฟกช้ำที่บริเวณข้อเท้าด้านขวา แต่รถจักรยานยนต์ของตนนั้นพังยับเยินจนไม่สามารถซ่อมได้ จนทำให้ตอนนี้ตนต้องไปดาวน์รถจักรยานยนต์คันใหม่ออกมาเพื่อขับรับส่งอาหารเพื่อหาเงินเลี้ยงดูลูกวัย 6 ขวบ ส่วนภรรยานั้นก็ต้องลางานเพื่อออกตามหาหลักฐานกล้องวงจรปิดตามถนนเพื่อหาหลักฐานมาเอาผิดรถเก๋งคันดังกล่าว

นายธลินทร กล่าวต่อว่า ซึ่งตอนนี้ตนอยากให้คนขับรถเก๋งคันดังกล่าวออกมารับผิดชอบด้วยการปิดยอดไฟแนนซ์รถจักรยานยนต์คันเก่าที่พังยับเยินจนไม่สามารถซ่อมแซมกลับมาขับเหมือนเดิมได้ จนทำให้ตนต้องดาวน์รถจักรยานยนต์คันใหม่ออกมาเพื่อรับส่งอาหาร ทำให้ตอนนี้ตนต้องผ่อนรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน รวมแล้วเดือนละ 3 พันกว่าบาท ซึ่งทำให้ชีวิตตอนนี้ลำบากมาก นอกจากนี้ตนอยากฝากถึงประชาชนชาวโคราชที่พบเบาะแสของรถคันดังกล่าว ยี่ห้อ NISSAN NOTE สีแดง แต่ไม่ทราบทะเบียน หรือคนที่อยู่ในเหตุการณ์คืนดังกล่าว 2 พ.ย.66 เวลา 23.00 น. ถ้าหากมีคลิปกล้องหน้ารถอยากให้ติดต่อกลับมาหาตนเพื่อที่เร่งนำคนที่ทำผิดมารับโทษ