เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' เล็งออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ดึงแรงงานไทยกลับบ้าน - 'พิพัฒน์' จ่อเสนอพักหนี้ยาว 3 ปี

โดย nattachat_c

30 ต.ค. 2566

241 views

กระทรวงการต่างประเทศไทย ออกแถลงการณ์รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นรายงานคลิปภาพของเหยื่อ และไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่ภาพที่ไม่คำนึงถึง และไม่เคารพต่อผู้เสียชีวิต และครอบครัว


หลังจากที่ทูตอิสราเอล ได้เปิดคลิปวิดีโอการสังหารเหยื่อโดยกลุ่มฮามาส บนเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาติ โดยภาพเหยื่อที่ถูกสังหารนั้น เป็นภาพของแรงงานไทย


กระทรวงการต่างประเทศประณามการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะกระทำต่อคนชาติใด โดยฝ่ายใด และด้วยเหตุผลใดก็ตาม


โดยกระทรวงการต่างประเทศเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีพี่น้องคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบนี้แล้วถึง 32 คน บาดเจ็บ 19 คน และถูกจับไป 19 คน และขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทุกสัญชาติ ทุกคน ในทันที

-------------

ทั้งนี้ เมื่อเมื่อวันพฤหัสบดี 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ ได้เปิดคลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่อ้างว่า เป็นเหตุการณ์ที่นักรบฮามาส พยายามจะตัดศีรษะของตัวประกันรายหนึ่ง ที่ถูกจับตัวไว้ ซึ่งถูกระบุว่า เป็นแรงงานไทยด้วยอุปกรณ์ทำสวน


ในระหว่างกองกำลังฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม มาเปิดแสดงให้ดูกลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ซึ่งประกอบด้วยชาติสมาชิก 193 ประเทศ


กิลาดได้บอกกับนักการทูตชาติต่าง ๆ ว่า เหยื่อที่เห็นในวิดีโอไม่กี่วินาทีที่เขาเปิดให้ดูบนแท็บเล็ตนั้น ไม่ใช่ชาวอิสราเอลหรือชาวยิว แต่เป็นแรงงานเกษตรจากประเทศไทย


โดยเขาบอกว่า “เราได้เห็นพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส-เลือดอาบแต่ยังมีชีวิตอยู่ นอนอยู่บนพื้น ฮามาสตะโกนร้องอย่างป่าเถื่อน ขณะใช้จอบทำสวนทุบลงไปที่คอของชายคนดังกล่าวซ้ำ ๆ เพื่อตัดศีรษะเขา”


นักการทูตอิสราเอลผู้นี้ ยังได้นำแผ่นกระดาษพิมพ์ คิวอาร์โค้ด พร้อมข้อความว่า “ปลดปล่อยกาซาจากฮามาส สแกนเพื่อดูความโหดเหี้ยมของกลุ่มฮามาส” ซึ่งเชื่อมไปสู่รูปภาพและคลิปวิดีโอเหตุการณ์โจมตี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม วางไว้บนเก้าอี้แต่ละตัวในที่ประชุมยูเอ็น เพื่อให้นักการทูตที่ร่วมประชุมได้นำไปเพื่อชมคลิปวิดีโอนั้น

-------------

ขณะเดียวกัน สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ได้มีมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงชั่วคราวทางมนุษยธรรมในทันที เพื่อที่ความช่วยเหลือต่าง ๆ จะถูกลำเลียงเข้าไปในฉนวนกาซาได้


โดยชาติสมาชิกยูเอ็นได้โหวตรับรองข้อมติดังกล่าว 120 เสียง คัดค้าน 14 เสียง และงดออกเสียง 45 เสียง ประเทศไทยออกเสียงรับรองข้อมติดังกล่าว


อย่างไรก็ดี ข้อมติดังกล่าวซึ่งไม่มีผลผูกพัน ได้ถูกปฏิเสธจากอิสราเอล โดย กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรของอิสราเอลประจำยูเอ็น เรียกข้อมตินี้ของยูเอ็นว่า น่าอาย และยืนกรานว่า อิสราเอลจะยังคงปกป้องตนเองต่อไป “นี่เป็นวันที่มืดมนสำหรับยูเอ็น และมนุษยชาติ” และยืนยันว่า อิสราเอลจะใช้ทุกวิถีทางในการต่อสู้กับกลุ่มฮามาส
-------------

กองทัพอิสราเอลส่งทหารและยานยนต์หุ้มเกราะ บุกตะลุยกาซา ควบคู่กับการโจมตีทางอากาศอย่างดุเดือด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดระเบิดดังระงมไปทั่วตามแนวชายแดนกาซา ทำสถานการณ์เริ่มวิกฤติหนัก


มีภาพการยิงถล่มอย่างดุเดือดมากที่สุด ตามแนวชายแดนกาซา โดยกองทัพอิสราเอลได้ส่งรถถัง และยานหุ้มเกราะ บุกเข้าไป และเกิดการดวลยิงกับกลุ่มฮามาสอย่างดุเดือด ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น อิสราเอลก็เปิดฉากระดมถล่มทางอากาศในเมืองกาซา ซิตี้ เมืองเอกของฉนวนกาซาไม่หยุดด้วยเช่นกัน


ขณะที่ ฝ่ายฮามาสนั้นก็พยายามตอบโต้ ด้วยการยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลเป็นระยะ ๆ และยังปรากฏภาพที่ฝ่ายฮามาสได้ยิงจรวดเข้าทำลายยานลำเลียงหุ้มเกราะของฝ่ายอิสาราเอลได้


กองกำลังฮามาส ได้เผยว่า นักรบของกลุ่มได้ต่อสู้กับทหารอิสราเอลทางเหนือ และตอนกลางของกาซา และสำทับว่า กองพล อัล-คัสซัม และกองกำลังต่อต้านทั้งหมดของปาเลสไตน์เตรียมพร้อมเต็มอัตราศึกในการเผชิญหน้า และขับไล่ผู้รุกราน

-------------

เมื่อวานนี้ (29 ต.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล ว่า


เมื่อวันเสาร์ที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา  มีความเป็นห่วงแรงงานไทยเป็นอย่างมาก  จึงได้ทวีตข้อความแจ้งเตือนอยู่หลายครั้ง และนอนไม่หลับด้วย ซึ่งรายงานข่าวจากสำนักข่าวกรองฝ่ายความมั่นคงเข้ามาตลอดเวลา  


ซึ่งคืนก่อนนี้ก็มีเครื่องบินยิงถล่มเป็น 100 ลำ และมีการขยายพื้นที่ไปยังเลบานอนด้วย สงครามควรที่จะจำกัดอยู่แค่ในพื้นที่ แต่ความอันตรายขณะนี้เริ่มขยายออกไปเป็นและเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นแล้ว  เราไม่อยากให้มันเกิดเพราะเรามีแรงงานอยู่เยอะ  


ตนก็ได้ฝากฝ่ายความมั่นคง นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เพราะเป็นห่วงเรื่องนี้  ขณะที่แรงงานในจังหวัดอุดรธานี ที่ไปทำงานในอิสราเอลก็มีมากถึง 4,000 คน ซึ่งอยากให้ทุกคน รวมถึง สส.ช่วยกันแจ้งข่าว และขณะนี้สามารถนำคนไทยเดินทางกลับได้วันละ 1,000 คน


ซึ่งหากสงครามขยายปฎิบัติการทางภาคพื้นดิน  ถนนจะถูกตัดขาด  การจะเดินทางจะยิ่งลำบากมากขึ้น ขณะนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย และในเร็ว ๆ นี้ จะมีรัฐมนตรีเดินทางไปยังตะวันออกกลางหาหรือช่วยเหลือตัวประกัน ซึ่งสถานการณ์ตลอด 2 วันที่ผ่านมาตนเองมีความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก อยากให้คนไทยกลับมาโดยเร็ว กลับมาบ้านเราดีกว่า


นายกรัฐมนตรีบอกได้ว่าในช่วงตอนเย็น (29 ต.ค.) จะมีการอัพเดทสถานการณ์อีกครั้งหลัง เพราะต้องรอพูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ เนื่องจากตามเวลาท้องถิ่นยังเป็นช่วงเช้าของอิสราเอลอยู่ โดยจะสอบถามว่ามีคนไทยตัดสินใจกลับเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน  หลังรัฐบาลและทุกภาคส่วนพยามแจ้งเตือนให้คนไทยตัดสินใจกลับโดยเร็วที่สุด ซึ่งส่วนมากการโจมตีจะมีการปฎิบัติการช่วงกลางคืน


ส่วนแรงงานไทยที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับก่อนหน้านี้  ก็มี 5-6% ที่เปลี่ยนใจ แต่ก็หวังว่าคนไทยจะเปลี่ยนใจกลับมาเพิ่มมากขึ้น แสดงเจตจำนงเพิ่มมากขึ้น เราจะได้หาเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและกลาโหม ให้ความสำคัญและช่วยดูแลเรื่องการลำเลียงคน  เพราะมีปัญหาเรื่องการลำเลียงคนพอสมควร


ซึ่งวันอังคารนี้รัฐบาลก็จะมีการออกมาตรการเสริมให้กับแรงงานไทย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการเรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาวเพื่อนำไปใช้หนี้ รวมถึงกระทรวงแรงงานก็ได้มีการรวบรวมข้อเสนอและจะเสนอต่อ ครม.ในวันอังคารนี้


นายกรัฐมนตรี ยังบอกด้วยว่า ยังไม่อยากประเมินถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่หากไม่สามารถอพยพคนไทยกลับโดยเครื่องบินได้  ก็ต้องหาทางอื่น เช่น ทางบก แต่ทางบกเองก็มีปฏิบัติการภาคพื้น  เดินทางลำบากความเสี่ยงก็มีอีก ความโหดร้าย ความดุร้ายของสงคราม เพราะหลาย ๆ ฝ่ายไม่ยอมยึดกติกาในการทำสงคราม ทำให้ผู้เสียหายผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ


ซึ่งตนยืนยันมาตลอดว่าประเทศไทยเรามีความเป็นกลาง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ไม่อยากให้มีผู้เดือดร้อน ผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเกิดขึ้น เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องทำงานอย่างหนักนำคนกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
------------

เที่ยวบินอพยพที่จะเดินทางถึงไทยในวันที่ 30 ต.ค. 66 มีดังนี้


1. เครื่องบินกองทัพอากาศ ถึง บน.6 เวลา 02.50 น. ผู้ลงทะเบียนจำนวน 140 คน


2. สายการบิน Lion Air (SL7001) ถึงดอนเมือง เวลา 08.40 น. จำนวนผู้ลงทะเบียน 180 คน


3. สายการบิน Arkia (IZ591) จำนวนผู้ลงทะเบียน 214 คน (รอยืนยันเวลาถึงสุวรรณภูมิ)


4. สายการบิน El Al (LY083) จำนวนผู้ลงทะเบียน 310 คน (รอยืนยันเวลาถึงสุวรรณภูมิ)

------------

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เตรียมเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้พักหนี้แรงงานชาวไทยที่เป็นหนี้จากการเดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล ด้วยการพักต้น พักดอกเบี้ย วงเงินคนละไม่เกิน 150,000 บาท คาดใช้งบประมาณ ไม่เกิน 3-400 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี


นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า เราจะทำเรื่องไปให้ท่านนายกฯ เหมือนที่ท่านดำเนินการกับเกษตรกร โดยเวฟ พักต้น พักดอก วงเงิน 3 แสนบาท เป็นเวลา 3 ปี เราก็จะเอาโมเดลนี้มาใช้ จากการหารือกับกรมการจัดหางาน แรงงานส่วนใหญ่ที่ไปอิสราเอล จะกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยส่วนใหญ่ไม่เกิน 150,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน


“ดังนั้น เราจะขอในวงเงินนี้ พักต้น พักดอก และหากมีการกู้นอกระบบ ก็จะขอทรานสเฟอร์ไปสถาบันการเงินของรัฐ ไปปิดตรงนั้น โดยจะขอหารือภายในวันอังคารนี้ หรือไม่เกินสัปดาห์หน้า” นายพิพัฒน์กล่าว

--------------

ทางด้าน นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล กล่าวว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ)   กำลังดำเนินการอยู่ในฉนวนกาซาขณะนี้ถือเป็นระยะที่ 2 ของสงครามกับฮามาส พร้อมยืนยันว่ามีการส่งผู้บัญชาการของอิสราเอลกระจายกำลังไปทั่วทั้งฉนวนกาซาแล้ว เพื่อบุกเข้าไปยังฐานที่มั่นของ "ปีศาจ"  พื่อรื้อถอนกลุ่มฮามาสและนำตัวประกันกลับบ้าน


เนทันยาฮูกล่าวว่า นี่จะเป็นสงครามที่ยาวนานและยากลำบาก แต่เราจะชนะ และเราจะเป็นผู้คว้าชัย พร้อมกับเปรียบเทียบสงครามครั้งนี้ว่าเป็นสงครามประกาศเอกราชครั้งที่ 2 ของอิสราเอล เราจะสู้ เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะไม่ถอนตัว ไม่ว่าจะบนดินหรือใต้ติน


ผู้นำอิสราเอลยังบอกด้วยว่า อย่ากล่าวหาว่าเราก่ออาชญากรรมสงคราม มันเป็นเพียงวาทกรรมหลอกลวง เราคือกองทัพที่มีคุณธรรมมากที่สุดบนโลกนี้ และว่า กองกำลังไอดีเอฟ กำลังใช้ความระมัดระวังในการปกป้องพลเรือน ฮามาสต่างหากที่เป็นฝ่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ใช้คนของตนเองเป็นโล่มนุษย์


ระหว่างการแถลงข่าวที่เทลอาวีฟเมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา นาย เนทันยาฮูยังแจ้งให้ ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการทางทหารที่ยาวนานและยากลำบาก โดยหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “รุกราน” สำหรับการบุกเข้าสู่ฉนวนกาซาในขณะนี้ และขอให้ พลเรือนปาเลสไตน์อพยพออกจากด้านเหนือของกาซาที่เป็นเป้าหมายการโจมตีของกองทัพยิวเนื่องจากเป็นแหล่งกบดานของฮามาส

--------------

ขณะเดียวกัน ทางด้าน นาย อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า หายนะด้านมนุษยชนกำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาชาวโลก


ส่วนทางด้าน ประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี ผู้นำอิหร่านออกโรงเตือนว่า การโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้น ล้ำเส้นแดง แล้ว และอาจทำให้ทุกฝ่ายเคลื่อนไหว พร้อมตำหนิสหรัฐฯ ที่สนับสนุนอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง โดยเขาได้กล่าวว่า “อาชญากรรมของรัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล) นั้น ข้ามเส้นแดงแล้ว ซึ่งอาจบีบให้ทุกฝ่ายเคลื่อนไหว สหรัฐฯ ขอให้เราอย่าทำอะไร แต่พวกเขากลับกระจายการสนับสนุนแก่อิสราเอลอย่างต่อเนื่อง”

--------------
รัฐบาลกาตาร์ ซึ่งรับหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจากับกลุ่มฮามาสให้ปล่อยตัวประกันมากกว่า 200 คนที่ถูกจับกุมตัวไปจากอิสราเอล เมื่อครั้งที่ฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคม ออกมาระบุว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลทำให้ความพยายามที่จะปล่อยตัวประกันซับซ้อนและยากลำบากมากขึ้น


โดย มาเจด อัล-อันซารี โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์กล่าว ว่า การยกระดับปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวทำให้ทุกสิ่งยากขึ้นมาก


ท่าทีของกาตาร์สวนทางกับอิสราเอล ซึ่ง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า การจัดการทางทหารเพื่อโค่นล้มฮามาส กับการพาตัวประกันกลับบ้านไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่าง


ทั้งนี้ อิสราเอลยืนยันว่า ฮามาสจับตัวประกันไป 229 คน ซึ่งจนถึงขณะนี้มีตัวประกันที่ถูกปล่อยตัวออกมาเพียง 4 คนเท่านั้น


ทั้งนี้ที่ผ่านมา การ์ตาได้ทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยจนทำให้ฝ่ายฮามาสยอมปล่อยตัวประกันออกมา 4 คน ดังกล่าว ซึ่งเป็นตัวประกันชาวสหรัฐ 2 คน และตัวประกันชาวอิสราเอล 2 คน

--------------
หน่วยข่าวกรองกองทัพอิสราเอลได้ออกมาอ้างพร้อมแผนผังภาพประกอบว่า ด้านใต้ของโรงพยาบาลชีฟา( Shifa Hospital) ที่ใหญ่ที่สุดของกาซาเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่กลุ่มติดอาวุธ เป็นเครือข่ายอุโมงค์ที่ซับซ้อน


มีการตรวจการด้วยการ์ดติดอาวุธเดินไปตามทางที่มีไฟส่องสว่าง ด้านในยังมีคลังแสงอยู่ด้านใน ห้องเก็บของ ห้องประชุมที่มีคอมพิวเตอร์ง


กองกำลัง IDF ของอิสราเอลทวีตว่า "โรงพยาบาลชีฟาเป็นทั้งโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของกาซา และเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่สำหรับกลุ่มฮามาส การก่อการร้ายไม่สมควรอยู่ในโรงพยาบาล และ IDF จะออกปฎิบัติการเพื่อค้นหาสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ และโจมตีด้วยมิสไซล์เพื่อทำลาย”

--------------
ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาบุกเข้าไปในโกดังและศูนย์กระจายสินค้าทางตอนใต้และตอนกลางของฉนวนกาซา และหยิบคว้านำแป้งรวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่นๆ ออกไป ขณะที่สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อย ๆ เมื่ออิสราเอลเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินแล้ว


โดยในภาพเป็นเหตุที่เกิดขึ้นที่เมืองข่านยูนีส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อประชาชนจำนวนมากบุกเข้าไปในโกดังสิ่งของบรรเทาทุกข์ขององค์กร องค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA)      


ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ ระบุว่า  ว่า “นี่เป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลว่า ความสงบเรียบร้อยของพลเรือนเริ่มพังทลายลง หลังสงครามนาน 3 สัปดาห์ และการปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างแน่นหนา ผู้คนหวาดกลัว หงุดหงิด และหมดหวัง ความเครียดและความกลัวยิ่งเลวร้ายลงหลังการตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์


ขณะที่ทางด้าน มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านการประสานงานกิจการมนุษยธรรม กล่าวว่า ความช่วยเหลือแทบจะไม่ได้เข้าไปสู่ฉนวนกาซาเลยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การโจมตีของอิสราเอลทวีความรุนแรงขึ้น


ด้านนายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ เตือนว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินขนาดใหญ่ของอิสราเอลในฉนวนกาซาอาจส่งผลให้เกิดหายนะตามมา และมีพลเรือนเสียชีวิตอีกหลายพันคน พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายและผู้มีอิทธิพลในภูมิภาค ทำอย่างเพื่อลดความรุนแรงของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น


ขณะที่ คณะกรรมการกาชาดสากล (ไอซีอาร์ซี) ได้เรียกร้องให้มีการลดความรุนแรงของความขัดแย้งในฉนวนกาซาทันที โดยย้ำว่าขณะนี้พลเรือน 2 ล้านคนถูกขังอยู่ในฉนวนกาซาโดยไม่มีที่ให้หลบหนี ท่ามกลางการโจมตีครั้งใหญ่และการปิดล้อมของกองทัพ มันคือหายนะและความล้มเหลวที่โลกไม่อาจยินยอมให้เกิดขึ้นได้


ICRC ยังประณามการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ และย้ำคำเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกัน แต่ลำดับความสำคัญสูงสุดคือการช่วยชีวิต นั่นหมายถึงการอนุญาตให้มีการส่งมอบความช่วยเหลืออย่างยั่งยืน และการเปิดให้หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้

---------------

ฟาร์มเกษตรในอิสราเอลที่ขณะนี้กำลังขาดแคลนแรงงานอย่างหนักหลังจากที่เกิดสงครามยืดเยื้อขึ้น


โดยขณะนี้ ต้องพึ่งพาแรงงานที่เป็นอาสาสมัครเท่านั้นขณะที่กำลังเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต  โดยเจ้าของฟาร์มหลายแห่งก็บอกว่าคนงานเดิมของพวกเขาส่วนใหญ่ก็คือแรงงานไทย ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่เดินทางกลับประเทศไปแล้ว  
---------------











คุณอาจสนใจ

Related News