อาชญากรรม

สืบนครบาลรวบ "ใหม่คลองท่อม" "หนึ่งมวกเหล็ก" "ก้อยเชียงราย" 3 บัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 สูญกว่า 2.5 ล้าน

โดย gamonthip_s

27 ต.ค. 2566

321 views

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์  รรท. รอง ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ระดมกำลังสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับใน 11 ราย ที่ถูกออกหมายจับกรณีเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ร่วมกันหลอกคุณยายวัย 82 ปี ให้โอนเงินรวมกว่า 20 ครั้ง สูญเงินกว่า 2,580,000 ล้านบาท เหตุเกิดท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา



เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ร่วมกับ พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม

1. นางสาวจิราวรรณ หรือใหม่ คลองท่อม อายุ 35 ปี ที่อยู่ หมู่ 2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.991/2566  ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2566

2. นายมานะ หรือหนึ่งมวกเหล็ก อายุ 22 ปี ที่อยู่ หมู่ 4 ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.993/2566 ลงวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2566

3. น.ส.กัญญารัตน์ หรือก้อยเชียงราย อายุ 42 ปี ที่อยู่ หมู่ 5 ตำบลแม่ลอย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.994/66 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2566




ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตน ว่าเป็นคนอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน และปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”




เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บริเวณหน้าบ้านหมู่ 2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่บริเวณแคมป์คนงาน ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ 3ได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา



ในชั้นจับกุม "ใหม่ คลองท่อม"  ผู้ต้องหาที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ทราบถึงการหลอกลวงที่ปรากฎในพฤติการณ์ในคดี แต่ให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม 2566 ได้มีเพื่อนได้มาชักชวนให้ตนเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย ไม่ทราบหมายเลขบัญชีให้เพื่อนคนดังกล่าวใช้ โดยให้เงินเป็นค่าเช่าบัญชีเดือนละ 700 บาท โดยปัจจุบันผู้ต้องหาได้รับเงินค่าตอบแทนดังกล่าวแล้วจำนวน 2,100 บาท และไม่สามารถติดต่อเพื่อนคนดังกล่าวได้อีก




ในชั้นจับกุม "หนึ่ง มวกเหล็ก" ผู้ต้องหาที่ 2  ให้การปฏิเสธ โดยกล่าวว่าเมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน 2566 ได้เปิดบัญชีธนาคารเกียรตินาคินภัทร ทางออนไลน์ ด้วยโทรศัพท์มือถือ และผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคารอื่น ๆ อีกหลายบัญชีต่อมา ตนได้ทำโทรศัพท์มือถือหายที่บ้านของป้า ม.4 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี  ซึ่งโทรศัพท์ได้ทำการผูกบัญชีธนาคารไว้ และรหัสแอปพลิเคชั่นธนาคารได้ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์ ไม่ทราบว่าผู้ใดนำไปใช้ต่อหรือใช้ในการกระทำความผิด




ในชั้นจับกุม "ก้อย เชียงราย"  ผู้ต้องหาที่  3 ให้การรับว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีให้กับบุคคลที่ทักมาทางช่องทางเฟซบุ๊ก ตั้งแต่เมื่อประมาณปี 2565 ซึ่งตนนั้นจำได้ไม่แน่ชัด โดยบัญชีดังกล่าวที่ถูกนำมาใช้ในการกระทำความผิดนั้นตนนั้นได้ไปทำการเปิดเมื่อประมาณ เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ ไม่สามารถจำเลขบัญชีได้ พร้อมบัตรเอทีเอ็ม รวมจำนวน 2 บัญชี ได้ค่าจ้างเปิดบัญชีบัญชีละ 15,000 บาท โดยเมื่อเปิดบัญชีแล้ว ผู้ว่าจ้างได้แจ้งว่าให้ส่งสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็มไปให้ที่ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี โดยตนนั้นได้ส่งผ่านขนส่งเอกชน




ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News