พี่หมื่นชวนดู ‘พรหมลิขิต’ หลัง ‘พุดตาน’ ข้ามภพโผล่อยุธยา เจอลูกถีบ ‘หมื่นริด’ ต้อนรับพุ่งตกแอ่งน้ำ

พรหมลิขิต EP3 ‘พุดตาน’ ข้ามภพมาอยุธยา เจอลูกถีบ ‘หมื่นริด’ ต้อนรับ พร้อมเปิดศึกกับ ‘แม่กลิ่น’ หลังถูกมองเป็นคนวิปลาส

ละคร “พรหมลิขิต” ซึ่งเมื่อคืนนี้ออกอากาศเป็น EP3 โดยเรื่องราวของ EP นี้ จะเป็นการการเดินทางข้ามภพของ ‘พุดตาน’ นักจัดสวนในยุคปัจจุบัน ที่กำลังทำงานจัดสวนอยู่ที่จังหวัดอยุธยา ก่อนที่จู่ๆ ลูกน้องก็ขุดพบกับสมุดมนต์กฤษณะกาลี และเมื่อ ‘พุดตาน’ เปิดกล่องและจับสมุดมนต์กฤษณะกาลี  ก็ถูกพาข้ามภพมายังสมัยอยุธยา ในจุลศักราช 1070 (พ.ศ. 2251) ที่คุ้งน้ำสวนบ้าน “ยายกุย” (รับบทโดย ต๊งเหน่ง รัดเกล้า) ผู้ที่มีเทวดามาเข้าฝันฝากฝังให้ช่วยดูแลคนหนึ่งคน และบอกว่าจะช่วยหนุนนำให้มีสมบัติเหลือกินเหลือใช่ทั้งชาตินี้และชาติหน้า

ขณะที่ฝั่งสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็เปิดเรื่องมาด้วย การเปิดตัว “หมื่นมหาฤทธิ์” หรือ “ริด” (แฝดคนน้อง รับบทโดย ‘โป๊ป ธนวรรธน์) ที่กำลังวิ่งวุ่นตามหาไก่ตัวใหม่มาทดแทนไก่ตัวที่ตายไป ให้น้องสาวคนเล็ก “แม่ปราง” (รับบทโดย พีพี ปุญญ์ปรีดี) ซึ่งในระหว่างทางกลับเรือ ‘ริด’ ก็ได้เห็นแสงสว่างสีทอง จากคุ้งน้ำสวน “ยายกุย” ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก็เลยวิ่งไปดู และได้ขุดเจอกับสมุดมนต์กฤษณะกาลีที่ถูกฝังไว้ ซึ่งในทันใดนั้น ‘พุดตาน’ ก็ปรากฏตัวขึ้น ขณะที่ ‘ยายกุย’ ที่วิ่งมาตามแสงสีทอง พอได้เห็นการปรากฏตัวของ ‘พุดตาน’ ก็เชื่อทันทีว่าเป็นคนเทวดาส่งมาให้ดูแล

ซึ่งการเจอกันครั้งแรกของ ‘พุดตาน’ และ ‘ริด’ ก็ทำให้ทั้งสองคนตกใจเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่ ‘ริด’ ต้อนรับ ‘พุดตาน’ ด้วยลูกถีบจน ‘พุดตาน’ กระเด็นลอยไปตกในแอ่งน้ำ เพราะนึกว่าเป็นผี ก่อนจะเกิดการแย่งชิงมนต์กฤษณะกาลีกัน จากนั้น ‘พุดตาน’ ก็ได้ยินเสียงท่องบทสวดมนต์กฤษณะกาลี ก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสลบไป จนทำให้ ‘ริด’ ได้เห็นใบหน้าเต็มๆ ของ ‘พุดตาน’ และเกิดอาการตกใจ เพราะ ‘พุดตาน’ มีใบหน้าเหมือนกับ ‘แม่การะเกด” มากๆ (ต่างกันที่พุดตานมีขี้แมงวันที่ใต้ตา)

หลังจากนั้น ‘ริด’ ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ก็เลยฝากให้ ‘ยายกุย’ ดูแล ‘พุดตาน’ ไปก่อน แต่กลับไม่ถูกใจ ‘แม่กลิ่น’ (รับบทโดย ‘น้ำตาล พิจักขณา’) หลานสาวของ ‘ยายกุย’ ที่เปิดศึกปะทะฝีปากกับ ‘พุดตาน’ ตั้งแต่แรกพบ เพราะคิดว่า ‘พุดตาน’ เป็นผีบ้าน เป็นคนวิปลาส พุดจาไม่ปกติ ผิดกับ ‘ยายกุย’ ที่มั่นใจว่า ‘พุดตาล’ คือนางฟ้านางสวรรค์ที่เทวดาส่งมาตามในฝัน

ซึ่งหลังฟื้นจากอาการสลบ ‘พุดตาน’ ก็พยายามหาคำตอบว่าตนเองมาอยู่ในที่ที่มีผู้คนแต่งกายโบราณและพูดจาภาษาโบราณได้ยังไง ก็เลยถาม ‘ยายกุย’ ว่าปีนี้ พ.ศ.อะไร แต่ ‘ยายกุย’ บอกว่าไม่ร้จัก  พ.ศ. รู้จักแต่ จ.ส. ซึ่งตอนนี้เป็น จ.ส. 1070 สมัยที่ “เจ้าฟ้าเพชร” (เกรท วรินทร) เพิ่งขึ้นครองราชย์เป็นขุนหลวงคนใหม่ ต่อจาก “พระเจ้าเสือ” ที่สวรรคตไป ก็เลยยิ่งทำให้ ‘พุดตาน’ ยิ่งตกใจ และถามย้ำว่า ใช่ “พระเจ้าเสือ” ที่ตัดคอ “พันท้ายนรสิงห์” เพราะทำหัวเรือหัก ใช่หรือไม่ ? แต่ ‘ยายกุย’ บอกว่าไม่รู้จัก “พันท้ายนรสิงห์” และไม่เคยได้เห็นเหตุการณ์นี้มาก่อน (เรื่องของพันท้ายนรสิงห์ ไม่มีการจดบันทึกในพระราชพงศาวดารในสมัยอยุธยา แต่มีปรากฎในในพระราชพงศาวดารสมัยต้นรัตนโกสินทร์ในภายหลัง)

ซึ่งพอ ‘แม่กลิ่น’ ได้ยินเรื่องที่ ‘พุดตาน’ พูดถึง ก็ยิ่งไม่ชอบ ‘พุดตาน’ และมองว่า ‘พุดตาน’ เป็นคนวิปลาส จน ‘ยายกุย’ โมโหไล่ให้ออกจากบ้าน ก็ทำให้ ‘แม่กลิ่น’ ร้องไห้เสียใจ ที่ยายเชื่อ ‘พุดตาน’ แต่ไม่เชื่อตนเอง และยิ่งทำให้ ‘แม่กลิ่น’ ไม่ชอบ ‘พุดตาน’ จนชาวเน็ตบอกเลยว่าคู่นี้เตรียมซัดกันนัวแน่นอน ซึ่งสิ่งแรกที่ ‘พุดตาน’ ต้องปรับตัวหลังถูกวาร์ปมาอยู่ในสมัยอยุธยาก็ตือต้องกินข้าวด้วยมือ และต้องเรียกแทนตัวเองว่า “ข้า” แทนคำว่า “หนู”

นอกจากนี้อีกหนึ่งไฮท์ไลท์ของ EP3 คือการเปิดตัวลูกๆ ทั้ง 4 คนของ ‘พี่หมื่น’ และ ‘การะเกด’ ไม่ว่าจะเป็น ‘เรือง’ ฝาแฝดคนพี่ลุคส์โอปป้าสุดอบอุ่น , ‘ริด’ แฝดคนน้อง หนุ่มหล่อแก่นเฟี้ยว เจ้าเสน่ห์และกวนโอ๊ย , แม่แก้ว’ (ซีน ภัสธรากรณ์) สาวเรียบร้อย หลานรักคุณย่า และ ‘แม่ปราง’ (พีพี ปุญญ์ปรีดี) น้องสาวคนเล็กจอมแก่น ถอดแบบมาจาก แม่การะเกดแบบเป๊ะๆ

และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในละคร “พรหมลิขิต” คือเรื่องอาหาร ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็ได้เห็นภาพ ‘โป๊ป’ นั่งทานข้าวพร้อมกันทั้ง 3 คาแรคเตอร์ ทั้งบทพ่อ และลูกชายฝาแฝด ซึ่งต้องบอกว่า ‘โป๊ป’ สามารถถ่ายทอดตัวละครทั้ง 3 คนออกมาได้แตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่วนเมนูอาหารที่นั่งกินกันก็จะมี กุ้งแม่น้ำเผา พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด , ปลาสามรส , ต้มยำปลา และไข่เจียว

สำหรับยอดดูสดเมื่อคืนนี้ก็ทะยานไปถึง  4.5 แสนคน และยังคงติดเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) เป็นอันดับ 1 เหมือนเดิม ก็ต้องรอลุ้นกันว่าเรตติ้งตอนที่ 3 จะเป็นยังไง เพราะตอนแรกได้ 6.4 EP2 ได้ 6.8

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ZknGQB7wz9c