เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 24 ต.ค.66 ศิริกัญญาดักคองบแจกเงินดิจิทัล-ล่าตัวเสี่ยแป้งแหกคุก-สัปเหร่อ 18 วัน 500 ล้าน

1.เร่งล่าตัว เสี่ยแป้ง ออกหมายจับคนช่วยเหลือ 4 ราย เจอรถพาหนี

2.นายกฯ วอนขอแรงงานไทยในอิสราเอลกลับบ้าน ก่อนสงครามขยายวงกว้าง

3.พบตัว น้องแบงค์ หลังถูกลักพาตัวไปเป็นขอทาน พลเมืองดีแจ้งเบาะแสช่วยเหลือ

4.แชร์ว่อน ภาพพระฉันบวบในกุฏิ พบเคยถูกแฉมารอบหนึ่งจนต้องสึก แล้วกลับมาบวชใหม่

5.แรงไม่หยุด สัปเหร่อ 18 วัน 500 ล้าน ทำรายได้สูงสุดในรอบ 8 ปี นายกฯ ควงอุ๊งอิ๊ง เหมาโรงพา ครม.ชม



เรื่องเล่าการเมือง

- นายกฯ เผยรัฐบาลกำลังปรับแต่ง แจกเงินดิจิทัล ขอให้รอแถลง

นายกฯ พูดชัดเจนว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังปรับแต่งนโยบายแจกเงินดิจิทัล หากชัดเจนแล้วจะมีการแถลง ส่วนจะทัน 1 ก.พ.67 หรือไม่ นายกฯ บอก ขอให้รอฟังแถลง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 ที่ถูกมองว่ายังไม่ชัดเจน ว่า ยังคงยืนยันในนโยบายดังกล่าว ซึ่งเรามีการปรับแต่งนโยบายนี้อยู่ ทั้งเรื่องที่ไปที่มาของเงิน และวิธีการใช้ต่างๆ ดังนั้นขอให้มีการ ประชุมคณะอนุกรรมการก่อนจึงจะแถลงให้ทราบ

เมื่อถามย้ำว่ายังยืนยันว่าวันที่ 1 ก.พ.67 ประชาชนจะได้รับข่าวดีตามที่นายกฯเคยบอกหรือไม่ นายกฯ ย้ำว่า เดี๋ยวจะมีการแถลง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ตอนนี้เป้าหมายการแจกเงินยังคงอยู่ที่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 แต่ถ้าไม่ทัน ก.พ.67 จริง ๆ ก็ต้องรายงานให้นายกฯทราบ เพื่อขอปรับกรอบเวลาของโครงการ ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการฯเมื่อไหร่

โดยนายจุลพันธ์ ย้ำว่า การดำเนินโครงการต้องมั่นใจว่า เมื่อเปิดใช้บริการจะต้องมีความปลอดภัย และทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ไม่สามารถลัดวงจรได้

ต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบรอบ และเมื่อมีการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้น เรามีต้องระมัดระวังมากขึ้นเป็นเท่าตัว และยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องเงินกู้กับธนาคารออมสิน



-ศิริกัญญา ดักคองบแจกเงินดิจิทัล อาจถึงทางตัน

ต่อเนื่องเรื่องการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เมื่อวานนี้ น.ส.ศิริกัญญา ยังได้โพสต์ล่าสุดกรณีนี้ ว่าอาจถึงทางตัน ก็ชี้ว่า ธนาคารออมสิน ที่จะเป็นแหล่งที่มางบประมาณสำคัญมาใช้ในโครงการนี้ อาจปล่อยกู้ให้รัฐบาลไม่ได้ เหตุเพราะขัดกฎหมายก่อตั้งธนาคาร

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กล่าสุด ถึงโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท โดยใช้หัวข้อ "หรือว่า digital wallet จะถึงทางตัน...?"

ในเนื้อหา ระบุว่า "ธนาคารออมสินที่ยืนหนึ่ง เป็นแหล่งที่มาของงบที่จะใช้สำหรับดิจิทัลวอลเล็ท 5.6 แสนล้าน อาจจะใช้ไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ว่ามีสภาพคล่องไม่พอ แต่เป็นเรื่องข้อจำกัดของกฎหมาย

ก็ยกมาตรา 7 ของพรบ.ออมสิน กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ว่าให้ทำกิจการใดบ้าง ไม่มีข้อไหนให้รัฐบาลกู้เงินได้ หากทำกิจการอื่นต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ดังนั้นความหวังที่จะใช้ออมสินมาเป็นแหล่งเงินของโครงการดิจิทัล ก็ต้องจบลงแค่นี้ ยกเว้นจะมีการแก้กฎหมาย

น.ส.ศิริกัญญา ยังไล่เรียง ว่า กรณีถ้าไม่แก้กฎหมาย ยังมีทางเลือก แค่การใช้เงินงบประมาณ กับออก พรก.กู้เงินเหมือนช่วงโควิด ซึ่งกรณีงบประมาณ ปี 2567 ที่ปรับปรุงใหม่ มีงบที่จัดสรรใหม่ได้จริง เพิ่มมาเป็น 476,000 ล้าน แต่ต้องแชร์กับพรรคร่วมรัฐบาล 20 กระทรวง

ก็บอกว่า “ถ้าใช้หมด แต่ละกระทรวงได้เงินแค่พอจ่ายเงินเดือน กับงบลงทุน โครงการอื่นๆ ไม่สามารถทำได้ ทางเลือกนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้เหมือนเดิม"

หรือ จะให้ผู้ประกอบการเก็บเหรียญดิจิทัลไว้ ยังไม่ให้แลกคืน โดยรอ 1-2 ปี ให้มีงบประมาณพอ ก็อาจเป็นอีกทางเลือก แต่ก็เสี่ยงที่จะทำให้ไม่มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ ทางเลือกสุดท้าย คือออกเป็นพรก.เงินกู้แบบที่ทำช่วงโควิด ก็จะถือเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมือง ก็มีการโพสต์ทิ้งท้ายว่า "น่าคิด ว่าอาจจะถึงทางตันจริงๆ"



-ก้าวไกล เรียกสอบเพิ่ม สส.ฝั่งธน วันนี้ ปมคุกคามทางเพศ

กรณี สส.ก้าวไกลถูกร้องเรียนคุกคามทางเพศ เมื่อวานมีผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลในกรณี "ผู้ถูกร้องเรียนรายที่ 4" แต่กรรมการวินัยยังหาข้อสรุปไม่ได้จึงจะเรียก สส.ต้นเรื่องมาสอบเพิ่มวันนี้

ย้อนกลับไปดูอีกครั้งกรณี สส. และ สมาชิกพรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ มีทั้งหมด 4 กรณี มีที่สอบเสร็จไปแล้ว พบว่าผิด และลงโทษไปแล้ว 2 ราย และ อีก 2 รายกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบของพรรค

กรณีที่ผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูลเมื่อวาน คือ กรณีรายที่ 4 ตอนนี้ยังไม่มีชื่อออกมา แต่มีกระแสข่าวออกมาว่าเป็น สส.ฝั่งธน ซึ่งเป็นการมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการวินัยชุดพิเศษเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ ที่มี น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นประธาน ที่รัฐสภา

น.ส.เบญจา แถลงก่อนการประชุมว่า กรณีนี้มีผู้เสียหายและผู้ร้องเรียนทั้งหมด 3 คน มาให้ข้อมูลแล้ว 2 คน วันนี้จะมีมาอีก 1 คน ในส่วนสภาพจิตใจของผู้ร้องเรียนและผู้เสียหายนั้น ทุกคนมีความกังวลและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก หลังจากมีข่าวเพราะอาจจะนำไปสู่การถูกละเมิดและคุกคามซ้ำ และอาจทำให้ผู้เสียหายท่านอื่น ๆ ที่ตกอยู่ในภาวะเช่นนี้ไม่กล้าออกมาให้ให้ข้อมูล พรรคก็กังวล จึงต้องระมัดระวังในการให้ข้อมูล ยืนยันว่า ไม่ได้มีการปกปิดแต่อย่างใด

ทั้งนี้หลังจากการสอบสวนผู้ร้องเรียนคนที่ 3 แล้ว ทางคณะกรรมการวินัยชุดพิเศษและชุดเต็ม จะมีการหารือกันว่า จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป

หลังการประชุม น.ส.เบญจา เปิดเผยว่า คณะกรรมการวินัยและคณะทำงานชุดพิเศษที่ประชุมร่วมกันยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงนัดประชุมเพื่อเรียก สส.ผู้ถูกกล่าวหามาสอบเพิ่มเติมและวินิจฉัยในวันนี้ (24 ต.ค.) ก่อนจะส่งให้กรรมการบริหารต่อไป



-นายกฯ ลั่นไทยไม่เสียเปรียบ ปมเปลี่ยนเรือดำน้ำ เป็นฟริเกต

คืบหน้าเรื่องเรือดำน้ำ ที่มีแนวทางจะเปลี่ยนมาเป็นเรือฟริเกตกับประเทศจีน เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรี บอกว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าไทยไม่เสียเปรียบ และเชื่อว่าจะมีข่าวดี

เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความชัดเจนการเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต ว่า ต้องให้เกียรติ คุณสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ทำงานก่อนหลังไปเจรจามาแล้ว ยืนยันว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี และเชื่อว่าจะมีข่าวดี พร้อมเปิดเผยเมื่อมีความชัดเจน

ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าว ถามย้ำว่า ประเทศไทยจะไม่เสียเปรียบในเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบสั้นๆว่า "ไม่ครับ"

ด้าน นายสุทิน ย้ำว่า พร้อมชี้แจงและได้คิดรอบคอบในทุกมิติแล้ว ว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ก็ย้ำว่า มีการหารือกับ “เหล่าทัพ”อย่างละเอียด ไม่ได้ตัดสินใจโดยพลการ

และประโยคที่น่าสนใจ นายสุทิน ไม่ได้มองว่าจีนผิดสัญญา แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงมากกว่า เพราะเป็นเรื่องของจีทูจี ประเทศไทยมีมิติของความเป็นมิตรประเทศ ที่จะต้องมาพิจารณาประกอบกัน ไม่ใช่เรื่องการซื้อขายอย่างเดียว ส่วนรายละเอียดต่อจากนี้ก็เป็นกลไกของกระทรวง ที่จะต้องไปพูดคุย



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/010E2VPtyqc