ต่างประเทศ

นายกฯ เผย 'เจ้าชายซาอุฯ' ทรงรับช่วยเหลือตัวประกันคนไทย - มุสลิมทั่วโลกเรียกร้องให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการถล่มกาซา

โดย weerawit_c

21 ต.ค. 2566

240 views

วานนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสถานะคนไทยที่ได้รับผลกระทบในอิสราเอล (สถานะ ณ วันที่ 20 ต.ค.2566) ดังนี้


ผู้เสียชีวิตยังมียอดรวม 30 ราย

ผู้บาดเจ็บยังอยู่ที่จำนวน 16 ราย

และผู้ที่ถูกจับไป เพิ่มอีก 2 ราย

ทำให้มียอดรวมเป็น 19 ราย

ประสงค์ขอกลับประเทศไทย 8,345 คน


ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความหลังเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาฯ และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ที่กรุงริยาด โดยระบุ ว่า “ผมได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมานฯ ในห้วงการประชุม ASEAN - GCC Summit ที่กรุงริยาด โดยเห็นพ้องกันถึงความสันพันธ์ไทย-ซาอุดีฯ ที่ดีในขณะนี้ และโอกาสและศักยภาพในการขยายความร่วมมือ โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุนในอนาคต


ซึ่งรวมถึงการเจรจา Thai - GCC FTA ท่านจะทรงสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ของซาอุดีฯ เร่งดำเนินความร่วมมือกับฝ่ายไทย โดยเฉพาะการเข้าใปลงทุนในประเทศไทย โดยจะจัดทำแผนความร่วมมือให้เสร็จภายในต้นปีหน้า ในส่วนของสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง ท่านทรงแสดงความเห็นพระราชหฤทัยแรงงานไทยในอิสราเอลที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ได้รับผลกระทบอย่างมาก และทรงรับที่จะช่วยเหลือฝ่ายไทยในการนำพี่น้องชาวไทยที่ตกเป็นตัวประกันให้สามารถกลับประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยด้วย


นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า หลังการรับประทานอาหารได้พบกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย โดยท่านตระหนักดีถึงความสูญเสียของคนไทยทั้ง 30 คน และตัวประกันอีก 17 คน


ด้านนายซัยยิด เรซา โนบัดตี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย เผยถึงกรณี สถานภาพตัวประกันชาวไทยและความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอล ว่าประธานาธิบดีประเทศอิหร่านได้พูดคุยกับผู้นำกลุ่มฮามาส ที่ กาตาร์ เพื่อขอให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชาวไทยและชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งจากการพูดคุย ผู้นำกลุ่มฮามาสยืนยันว่าจะปล่อยตัวประกันชาวต่างชาติ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะอิสราเอลยังคงโจมตีกาซาอย่างต่อเนื่อง


ขณะที่ตัวประกันที่ฮามาสปล่อยตัวออกมาเป็นคนแรกคือ จูดิธ รานัน (Judith Raanan )วัย 59 ปี และลูกสาวนาตาเลีย (Natalie) วัย 17 ปี จากชิคาโก ทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มีเพียงรอยแผลถลอกตามตัวนิดหน่อย


ภาพนิ่งที่รัฐบาลอิสราเอลเผยแพร่ออกมานี้เป็นภาพจูดิธและนาตาเลีย จูงมือกับกัล เฮิรช์ (Gal Hirsch) ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของอิสราเอลเพื่อเชลยศึกและผู้สูญหาย


ขณะที่ทางฝั่งกองพลน้อยอัล-กัสซาม ( al-Qassam ) กลุ่มติดอาวุธของฮามาสก็เผยภาพ ตัวประกันอเมริกัน 2 คนถูกปล่อยตัวให้กับสภากาชาด และถูกส่งตัวต่อให้กับกองทัพอิสราเอลที่ชายแดนฉนวนกาซ่าต่อไป


2 แม่ลูก เดินทางจากเมืองชิคาโกไปยังอิสราเอล ที่คิบบุตซ์ ทางตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนฉนวนกาซ่า 1.6 กิโลเมตร เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองวันหยุดของชาวยิว และฉลองวันเกิดแม่ของจูดิธที่อายุครบ 85 ปี


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวขอบคุณกาตาร์และอิสราเอล ที่ร่วมมือกันจนนำไปสู่การปล่อยตัวประกันทั้งสองคน ซึ่งทั้งสองคนเป็นหนึ่งในตัวประกันประมาณ 200 คนที่กลุ่มฮามาสจับตัวไป ระหว่างที่เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลแบบสาบฟ้าแลบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา


ด้านนายกรัฐมนตรีเนธันยาฮู ได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า อิสราเอลยังคงเดินหน้าและทุ่มเทความพยายามต่อไป เพื่อให้ตัวประกันและผู้สูญหายทั้งหมดกลับบ้าน ในขณะเดียวกันก็ประกาศกร้าวเช่นกันว่า อิสราเอลจะต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ


โดยที่บริเวณพรมแดนกาซ่า อิสราเอลยังคงระดมทั้งกองกำลังและรถถังเข้าใกล้พรมแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญานว่า การปฏิบัติการภาคพื้นดินในกาซา จะมีขึ้นในเร็ววันนี้


ขณะที่โยอาฟ กัลลันต์ (Yoav Gallant) รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการสภาว่า เราจะถอนรากถอนโคนฮามาส แต่ก็ย้ำว่า การทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารและการปกครองของฮามาสไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และไม่สามารถบรรลุเป้าหมายภายในวันเดียว สัปดาห์เดียว หรือภายในเดือนเดียว


อิสราเอลยังย้ำด้วยว่า ไม่มีแผนที่จะเข้าควบคุมชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในกาซ่า หลังจากถอนรากถอนโคนฮามาสได้แล้ว


เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์เผยว่า ปฏิบัติการโจมตีกาซ่าของกองกำลังอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไป 4,137 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 1,661 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 13,260 คน ขณะเดียวกัน มีผู้สูญหายประมาณ 1,400 คน ซึ่งเป็นเด็ก 720 คน และอีกกว่า 1 ล้านคนกลายเป็นผู้พลัดถิ่น ไร้ที่อยู่อาศัย


การโจมตีของอิสราเอลยังทำให้โรงพยาบาลหลักในกาซ่า 7 แห่งและศูนย์สุขภาพอีก 21 แห่งไม่สามารถใช้การได้


ขณะที่ทางฝั่งอิสราเอล เสียชีวิตไปกว่า 1,400 คน ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเป็นพลเรือน และบาดเจ็บ 3,800 คน


วานนี้ชาวมุสลิมทั้งในกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย และกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ออกมาร่วมชุมนุมต่อต้านปฏิบัติการโจมตีกาซา ของอิสราเอล


ผู้ประท้วงจำนวนมากเผาธงชาติอิสราเอล รวมไปถึงรูปภาพของประธานาธิบดีไบเดน ผู้นำสหรัฐฯและนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนธันยาฮู ผู้นำอิสราเอล


โดยที่กรุงกัวลา ลัมเปอร์ ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งถูกตำรวจมาเลเซียสกัดกั้นไม่ให้เดินขบวนเข้าไปใกล้สถานทูตสหรัฐฯ


ส่วนที่อิหร่าน ประชาชนหลายพันคนเดินขบวนไปตามท้องถนนในกรุงเตหะราน ร่วมแสดงพลังสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในกาซา พร้อมตะโกนต่อต้านอิสราเอลและสหรัฐฯ เช่นเดียวกับชาวมุสลิมในอีกหลายๆประเทศที่ออกมาเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิงและหยุดโจมตีเมืองต่างๆในกาซา


https://youtu.be/MrUssKpWROY

คุณอาจสนใจ

Related News