สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 19 ต.ค.66 เศรษฐาคุยนายกฯจีน-ค้านรักษาทักษิณนอกเรือนจำ-จับบัญชีม้าหลอกผ่อนไอโฟน

โดย thichaphat_d

19 ต.ค. 2566

70 views

1. นายกฯ ขอแรงงานยังลังเล ตัดสินใจ กลับไทยหรือไม่?

นายกเศรษฐา ห่วงใยแรงงานไทยในอิสราเอล หลังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รวมเป็น 30 ศพ พบคนตกค้างในพื้นที่สีแดง ขอคนที่ยังลังเลตัดสินใจเดินทางกลับไทยหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย

แรงงานที่รอดชีวิตกลับไทย เล่านาทีเป็นนาทีตาย กลุ่มฮามาสพูดคำว่า “ไทยแลนด์ ไทยแลนด์” ล่อให้เปิดประตู แล้วบุกจับ ก่อนใช้มีดกรีดแขนขวาเป็นแผลยาว ฉวยจังหวะรื้อค้นทรัพย์สินหนีซ่อนตัวหลังโรงงานนับ 10 ชั่วโมงก่อนทหารอิสราเอลมาช่วย สุดเศร้าไม่รู้ชะตากรรมเพื่อนที่ถูกจับตัวไปพร้อมกันว่าเป็นเช่นไร

2. จ่อออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหา เอี่ยวหลอกน้องพลอย ผ่อนไอโฟนทิพย์

ตำรวจไซเบอร์จ่อออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกน้องพลอย โอนเงินผ่อนไอโฟนทิพย์ จนผูกคอดับ พบเหยื่ออีก 4 ราย กระจาย 4 ท้องที่ โอนเงินเข้าบัญชีม้าเดียวกับน้องพลอย

คุมตัว น.ส.ดอกแก้ว บัญชีม้า จากชัยภูมิ สอบปากคำที่ บช.สอท. เมืองทองธานี เจ้าตัวร่ำไห้ รับมีคนทักให้เปิดบัญชีได้เงิน 300 บาท หลงเชื่อส่งหลักฐานให้ก่อนถูกเบี้ยว แล้วบล็อกหนี

3. ชลน่าน จี้ อย. สอบข้อเท็จจริงเตือนนมผง ไม่ได้มาตรฐานล่าช้า

หมอชลน่าน สั่งสอบ อย. ชี้ข้อเท็จจริงปมนมผงเด็กยี่ห้อเด็ก ไม่ได้มาตรฐานแต่แจ้งประชาชนล่าช้าจนสินค้าหมดอายุ ผิดพลาดขั้นตอนไหน ทำไมไม่เอื้อต่อการคุ้มครองผู้บริโภค

รักษาการเลขาธิการ อย. รับขอตรวจความผิดพลาด คาดล่าช้าช่วงส่งผลิตภัณฑ์ไปตรวจสอบ ยันสินค้าล็อตนี้ไม่ได้จำหน่ายในท้องตลาด และไม่ได้เอื้อให้บริษัทเอกชน

4. ร้อง! ร้อยเวรคีย์เลขปชช. สลับคนร้าย จนถูกไล่ออก

ชายวัย 48 ร้อง กลายเป็นผู้ต้องหา เพราะเคยแจ้งความลักทรัพย์ แต่ร้อยเวรคีย์เลขบัตรประชาชนคนร้อง สลับกับคนร้าย ทำให้มีประวัติอาชญากรติดตัว จนถูกบริษัทไล่ออกจากงาน ทวงถามไปได้แค่คำขอโทษ

สายไหมต้องรอด ตรวจพบโรงพักลบประวัติที่ผิดออกไปแล้ว แต่ข้อมูลยังคาอยู่ในกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ เร่งประสานหน่วยงานช่วย

5. แม่อ๊อฟ ธนกฤต ร้องสาวเมาซิ่งชนลูก ไม่ชดใช้เงินสักบาท

คุณแม่อ๊อฟ ธนกฤต อดีตดาราหนุ่มถูกสาวเมาขับรถชนจนกะโหลกยุบ – ป่วยติดเตียง ร้องทนายช่วยเหลือ หลังศาลตัดสินคู่กรณีชดใช้เงิน 4 ล้านบาท ผ่านมา 5 เดือน เบี้ยวจ่าย ไม่เหลียวแล แถมใช้ชีวิตกินหรู อยู่สบาย โพสต์คลิปจิบไวน์ แต่ไม่ไยดีเหยื่อ


เรื่องเล่าการเมือง

- นายกฯ คุย นายกฯจีน สานต่อความร่วมมือ และหาทางออก เรือดำน้ำไทย


ติดตามภารกิจของนายกรัฐมนตรี ใน การประชุมที่ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีของไทย ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีของจีน ถึงความร่วมมือด้านต่างๆด้วย และเป็นที่จับตาถึงการหารือ ทางออกของเรือดำน้ำไทยด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม High-Level Forum ภายใต้หัวข้อ เส้นทางสายไหมสีเขียวเพื่อการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ ระหว่างการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 3 ณ กรุงปักกิ่ง

โดยนายกฯชื่นชมความสำเร็จในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง พร้อมเน้นย้ำแนวคิดที่ เป็นกลไกสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

นายกรัฐมนตรียัง ได้หารือทวิภาคีกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันเดินหน้าสานต่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเป็นมิตรแท้ร่วมกันมายาวนาน พัฒนาความสัมพันธ์เป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน

นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า การเข้าประชุมครั้งนี้ ได้พบกับบริษัทของจีนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทผลิตรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ฝ่ายไทยมีภาคธุรกิจของไทย เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งจะได้พบและหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าอยากให้รัฐบาลมีส่วนช่วยเหลือผลักดันอย่างไร

ส่วนหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีของจีน มีประเด็นหารือทั้งเรื่องฟรีวีซ่า 2 ประเทศ / การค้า การลงทุน  / รถไฟความเร็วสูง และเรื่องเรือดำน้ำ ที่ไทยทั้งยังมีปัญหากับจีนไม่สามารถจัดซื้อเครื่องยนต์ ของเยอรมันมาใช้กับเรือดำน้ำของจีนได้ตามสเป็ก

ซึ่งการหารือครั้งนี้ มีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมด้วย



-คปท. ค้านขยายเวลารักษาทักษิณนอกเรือนจำ - ขู่บุกชั้น 14

ประเด็นเกี่ยวกับนายทักษิณ เมื่อวานกลุ่ม คปท. เรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมทบทวนการอนุญาตให้นายทักษิณ ไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ขู่ หากไม่ได้คำตอบ วันที่ 22 ตุลาคม จะบุกชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์ความจริง

เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้พิจารณาทบทวนเรื่องการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งเหมือนเป็นการให้สิทธิพิเศษมากกว่าผู้ต้องขังรายอื่น

นายพิชิต ชัยมงคล ตัวแทน คปท. ได้เปิดเผยว่าทางกลุ่มมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ข้อแรกต้องนำตัวนายทักษิณกลับเข้าเรือนจำโดยทันที ข้อสอง คัดค้านการขยายเวลารักษาตัวของนายทักษิณภายนอกเรือนจำ ซึ่งจะครบ 60 วันในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ และข้อสาม ขอเรียกร้องให้องค์กรสิทธิมนุษยชนภายนอก เข้าไปสังเกตว่านายทักษิณป่วยจริง และจำเป็นต้องรักษาตัวที่นอกเรือนจำหรือไม่

หากมีการขยายเวลาการรักษาตัวของนายทักษิณ กลุ่ม คปท. ก็จะยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช. กล่าวโทษปลัดกระทรวงยุติธรรมต่อไป

ขณะที่นายนัสเซอร์ ยีหมะ ตัวแทน คปท. ยืนยันว่า หากกระทรวงยุติธรรมยังไม่ให้คำตอบในเรื่องนี้ ในวันที่ 22 ตุลาคม กลุ่ม ปคท. จะจัดกิจกรรมทวงถามความเป็นจริง โดยจะบุกไปชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจสอบว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่ ซึ่งนี่ไม่ใช่คำขู่

ยังมีเสียงวิจารณ์เรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล เมื่อวานมือเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ พิสิฐ ลี้อาธรรม ระบุว่า เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ไม่มีรัฐบาลไหนในโลกทำ

นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรื่องนี้ที่รัฐสภา ระบุว่า รู้สึกเสียดายเงิน 5 แสน 6 หมื่นล้านบาท เงินจำนวนดังกล่าวหากนำมาแจกคนยากจน ประมาณ 10 ล้านคน เป็น 1 แสนล้านบาท ยังพอรับได้ แต่หากนำมาแจกให้พวกเศรษฐี ชนชั้นกลางด้วย ซึ่งใช้เงินไม่กี่วันก็หมด มองว่าเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำโดยใช้เหตุ

สามารถนำเงินจำนวนนี้ไปทำประโยชน์ให้กับประเทศได้อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ด้วยเงินเพียง 4 แสนกว่าล้าน จะสามารถอยู่ได้เป็นสิบ เป็นร้อยปี

นอกจากนี้ นายพิสิฐ ยังตั้งคำถามถึงที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ แต่หากจะนำเงินธนาคารออมสินมาใช้ ก็เป็นเรื่องย้อนแย้งกัน เพราะกลายเป็นส่งเสริมให้เด็กออมเงิน แต่รัฐบาลทำตัวอย่างที่ไม่ดี คือนำเงินมาแจกให้บริโภค มาผลาญเล่น จึงไม่อยากเชื่อว่ารัฐบาลจะนำอนาคตมาเสี่ยง

ขณะที่เมื่อวาน คณะกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ สภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมร่วมกับ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่กระทรวงการคลัง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันในเรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัล

นายวรภพ วิริยะโรจน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลังฯ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า คณะกรรมาธิการได้สะท้อนความเห็นถึงสิ่งที่อยากจะให้รัฐบาลทบทวน ที่สำคัญเรื่องหนึ่ง คือ กรณีประชาชนที่ทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดนึง แต่ย้ายถิ่นฐานไปทำงานอยู่อีกจังหวัดนึง ซึ่งมีจำนวนมาก หากดูจากการใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตมี 2 ล้านกว่าคน จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้เพราะมีประชาชนเดือดร้อนจริง ๆ ซึ่งรัฐมนตรีได้รับปากว่าจะนำกลับไปทบทวน



-ก้าวไกล วอนอย่าเอาข้อผิดพลาด มาสกัดการตรวจสอบรัฐบาล

ก้าวไกล ยังอยู่ภายใต้กระแสกดดัน หลังกรณีถูกร้องเรียน สส.คุกคามทางเพศ เมื่อวาน รองโฆษก ออกมาบอกว่า ขออย่าเอาความผิด "ก้าวไกล" มาเป็นเกราะป้องกันการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนสส.ปราจีนบุรี คุกคามทางเพศ ว่า ที่ช้าเพราะผู้ร้อง ต้องเข้ามาให้ถ้อยคำด้วย และต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน เพราะถ้าตัดสินผิดก็เท่ากับว่าหมดอนาคตทางการเมืองตลอดชีวิตเลย แต่ยืนยันว่าใกล้จะเสร็จแล้ว

ส่วนที่มีข่าวว่าคณะทำงานจังหวัดสกลนครของพรรคก้าวไกลก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายกรุณพล ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ต้องใช้เวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริง

ส่วนกังวลหรือไม่ หากไปตรวจสอบพรรคอื่น แต่กลับถูกตั้งคำถามกับพรรคตัวเอง นายกรุณพล กล่าวว่า การตั้งคำถามนั้น ต้องแยกเป็นกรณีไป ขออย่าเอาความผิดพลาดบางเรื่องของก้าวไกล มาเป็นเกราะป้องกันการตรวจสอบทุจริตของรัฐบาล ยืนยันพรรคก้าวไกล ยังพร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุก

ทั้งนี้ ล่าสุดพรรคก้าวไกลได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ ประกอบด้วยคนในพรรคและคนนอก โดยมี น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธาน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/B9sJ0uzhQtc


คุณอาจสนใจ

Related News