เศรษฐกิจ

'จุลพันธ์' ยันไม่ตัดสิทธิ์คนรวยรับ 'เงินดิจิทัล' - คน พท.ดาหน้าแจงความจำเป็น หลังหลายฝ่ายออกมาค้าน

โดย nattachat_c

16 ต.ค. 2566

248 views

กรุงเทพธุรกิจ ได้รายงานว่า ยอดเงินธนาคารพาณิชย์ ยอดบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์ และ ยอดบัญชีเงินฝากแบบประจำ 118 ล้านบัญชี


มีบัญชีที่ยอดเงินฝาก 5 แสนบาท ไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวนถึง 115 ล้าน


มีบัญชีที่ยอดเงินฝาก 5 แสนบาท ขึ้นไป จำนวน 3 ล้านบัญชี 


และไม่สามารถสรุปเรื่องความรวยได้ เพราะบางคนเก็บเงินในรูปแบบอื่น เช่น บ้าน รถ ที่ดิน 


ส่วนคนที่ได้เงินเดือนเดิน 8 หมื่น มีแค่ 1 ล้านคนเท่านั้น 

--------------

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ในแง่วงเงินที่เราจะนำมาใช้นั้น จะไม่ถึง 5.6 แสนล้านบาทแน่นอน เพราะคนที่มีอายุเกิน 16 ปี มีแค่ 5.48 ล้านคน ดังนั้น จะมีกรอบเต็มที่แค่ 5.48 แสนล้านบาท ยังไม่นับรวมเงื่อนไขที่ดูความจำเป็นของกลุ่มคน และคนที่ไม่มาร่วมโครงการ


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เขายังกล่าวถึงเงื่อนไขในการสมัครร่วมโครงการเบื้องต้นนั้น ยืนยันไม่ต้องมีการลงทะเบียน แต่ต้องทำการยืนยันตัวตนด้วยระบบเควายซี จากนั้น กดรับสิทธิ จะได้เข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน


ซึ่งขณะนี้ สำหรับผู้ที่เคยร่วมโครงการรัฐที่ผ่านมา 40 ล้านคน ที่ได้เควายซีไปแล้ว ก็ไม่ต้องมายืนยันตัวตน ฉะนั้น จึงเหลือเพียงสิบล้านคนเท่านั้น ที่จะต้องมายืนยันตัวตน

--------------

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า


ข้อมูลจาก IMF ปี 2023 ที่ระบุว่า การเติบโต GDP ไทยทรุดหนักสุดฟื้นตัวช้าสุด รวมทั้งข้อมูลจาก ธปท. และ สศช. สถานการณ์ประเทศไทย หนี้ครัวเรือนไทยเป็นอันดับ 7 ของโลก ส่งผลกระทบโดยเฉพาะถึงกลุ่มฐานราก


เป็นการสะท้อนว่า ประชาชนมีความสามารถในการหารายได้ต่ำลง ซึ่งหมายความว่า ประเทศไทยนอกจากจะฟื้นตัวช้า รายได้ไม่เพียงพอแล้ว ยังมีหนี้ที่ทำให้ไม่สามารถมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่โตตามศักยภาพ จึงไม่ฟื้นตัวเท่าช่วงก่อนโควิด


ดังนั้น นโยบาย Digital Wallet นอกจากสร้างโอกาส กระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้ประชาชนเป็นกลไกหลักในการใช้จ่าย ยังเพิ่มโอกาสเพิ่มศักยภาพในการฟื้นตัวของครัวเรือน และของประเทศ


“อยากให้ผู้ที่คิดต่าง เปิดใจ ทำความเข้าใจถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายนี้ เชื่อมั่นว่าประชาชนที่ไม่มีเงินทุนในการตั้งตัวจะสามารถสร้างเป็นอาชีพ เพิ่มรายได้ปรับวิถีชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสของประชาชนทุกคนที่มีสิทธิ” นายชัยกล่าว

--------------

รักษาการโฆษก การที่นายกฯอ้อนคนออกมา ก็คงอยากฟังเสียงของประชาชน จะได้ตัดสินใจ ไม่ได้ดราม่า ต้องการเห็นสิ่งที่อยู่ใต้พรม ขอให้ดูว่าเราตั้บใจจริง

--------------

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อ้อนประชาชน ให้เชียร์นโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท  พร้อมระบุว่า อย่ายอมให้คนที่ไม่เห็นด้วยโดยไม่มีเหตุผล มายับยั้งโครงการนี้ มองว่า มีนัยอย่างไรหรือไม่ ว่า


ตนมองว่า ความจริงนายเศรษฐาทำงานได้แค่เดือนเดียว หากนับจากวันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งในระยะเวลาที่ทำงานมาท่านก็เต็มที่ เมื่อคนเราตั้งใจ และเต็มที่มาก ๆ ก็ตั้งคำถามกับประชาชนว่า ทำขนาดนั้นแล้ว นโยบายหลายเรื่องที่เคยแถลงไว้ก็ทำสำเร็จ ประชาชนคิดเห็นอย่างไร แต่คงไม่ใช่เป็นการพูดเพื่อกดดันประชาชน หรือส่งสัญญาณออกมาเชียร์รัฐบาล คงไม่ถึงขั้นนั้น แต่ท่านคงอยากฟังฟีดแบ็ก


เมื่อถามว่า ในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นเจ้าของนโยบาย กังวลว่าจะเกิดกระแสต่อต้าน จนทำให้นโยบายต้องสะดุดหรือไม่

นายอนุสรณ์กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเสียงของนักวิชาการ และเสียงของประชาชนที่ออกมาเสนอแนะต่าง ๆ เป็นการต่อต้าน แต่คิดว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว


คนที่ออกมาให้ความเห็นหากยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศเป็นสำคัญ ก็ควรที่จะรับฟังและเราน้อมรับทุกเสียง ไม่ว่าจะสนับสนุน หรือเห็นต่าง เพราะการทำนโยบายทุกนโยบายก็เพื่อให้ประชาชนเข้าถึง มันจะไม่เกิดประโยชน์หากออกนโยบายไปแล้วประชาชนมีเงื่อนไข หรือติดอุปสรรค ไม่สามารถเข้าร่วมได้ และอยากฝากถึงประชาชนคนที่คัดค้านว่า รัฐบาลยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นทุกภาคส่วน


เมื่อถามต่อว่า ในฐานะ สส.มีข้อเสนอ หรือทางออกอย่างไรหรือไม่

นายอนุสรณ์กล่าวว่า ตนคิดว่าคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตที่ตั้งขึ้นมา มีกรรมการจากหลายภาคส่วน และการทำงานในฐานะนิติบัญญัติในสภา เราก็มีช่องทางในการตั้งข้อสังเกตแล้ว


และตนคิดว่าคณะกรรมการก็คงจะนำเอาข้อเสนอต่าง ๆ ปรับแก้ แต่คิดว่า จากการที่ฟังความเห็นของประชาชนมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่รอมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอยู่


ฉะนั้น หากเราตั้งธงร่วมกันว่า เราจะทำโครงการนี้ ตนคิดว่าวิธีการ หรืออะไรก็ตามคงไม่เป็นอุปสรรค จนกลบให้โครงการนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้

--------------

นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า

นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพราะประชาชนคาดหวัง เฝ้ารอ ท่ามกลางภาวะข้าวของแพง เงินบาทอ่อนค่า คนไร้กำลังซื้อ 


เม็ดเงิน 10,000 บาท เปรียบเหมือนฝนที่ตกลงมากลางทะเลทราย ช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างมาก ประชาชนได้ประโยชน์แน่นอน และจะมีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไปด้วย


ดังนั้น จึงอยากให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง มุ่งมั่นเดินหน้าต่อไป อย่าไปฟังเสียงคนค้านแค่หยิบมือเดียว พวกขาเดิม ๆ อยู่สุขสบาย มีรายได้เดือนละเป็นแสนประจำ เจ้าเก่าหน้าเดิม เขาไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว เขาไม่รู้จักความจน เพราะไม่เคยจน 


ข้องใจอย่างเดียวว่า สมัยรัฐบาลที่แล้ว ไม่เห็นออกมาค้านมาดำบ้าง อมอะไรเอาไว้อยู่ ทั้ง ๆ ที่ รัฐบาลตอนนั้น กู้ แล้วก็กู้ ก่อหนี้สร้างภาระให้ประเทศ แต่พอวันนี้ เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ไม่ทันไรก็ค้านซะแล้ว

--------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/tMhWyUbTLlc




คุณอาจสนใจ

Related News