เลือกตั้งและการเมือง
กระทรวงการต่างประเทศเผยค้นหาตัวประกันทำได้ยาก ยันพาคนไทยกลับบ้านทุกวิถีทางเหตุสงครามอิสราเอลยังรุนแรง
โดย taweelap_b
14 ต.ค. 2566
80 views
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 66 นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ตะวันออกกลาง ล่าสุดขณะนี้สถานการณ์ยังมีความรุนแรงและน่าเป็นห่วงกังวล เนื่องจากอิสราเอลจะมีการเข้าพื้นที่ทางภาคพื้นดิน จึงมีการประกาศให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือของฉนวนกาซา อพยพภายใน 24 ชั่วโมง แต่จากรายงานล่าสุดมีจำนวนออกมาน้อยมาก ขณะที่กลุ่มฮามาส ประกาศว่าเป็นเพียงแค่สงครามจิตวิทยาเท่านั้น ให้ทุกคนประจำอยู่ที่เดิม จึงต้องจับตาสถานการณ์ต่อไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ล่าสุดกองทัพอิสราเอล ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้กองกำลังของอิสราเอลกำลังเข้าไปในพื้นที่ฉนวนกาซา เพื่อค้นหาตัวประกัน ทั้งนี้ ผู้ประสานงานค้นหาตัวประกันและผู้สูญหาย ของอิสราเอล เปิดเผยว่า ขณะนี้อิสราเอลได้มีความพยายามทางการทูตเพื่อนำตัวประกันออกมา แต่เนื่องจากยังอยู่ในภาวะสงคราม จึงดำเนินการต่าง ๆ ได้ยาก ขณะเดียวกันได้ยื่นเงื่อนไขขอส่งอาหารให้กับตัวประกันด้วย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากกลุ่มฮามาส ว่าจะอนุญาตหรือไม่
นางกาญจนา ยังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับรายงานว่ามีแรงงานไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน ทำให้ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตสะสม 24 คน ได้รับบาดเจ็บ 16 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 16 คน เท่ากับเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ขณะเดียวกันก็ยังมีแรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับมาโดยสายการบินที่ทางการไทยประสานงานไว้ จำนวน 7,058 คน ส่วนการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมา ยังคงต้องใช้เวลา แต่ได้สอบถามไปยังบริษัทขนส่งที่ประเทศอิสราเอลแล้ว แต่เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา ซึ่งบริษัทดังกล่าวก็รับปากว่าจะดำเนินการให้อย่างเร็งเร็วที่สุด โดยมีรัฐบาลอิสราเอลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งศพกับภูมิลำเนาทั้งหมด พร้อมย้ำว่าศพทั้งหมดยังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล คาดการณ์ว่าน่าจะใช้เวลามากกว่า 7 วัน
สำหรับภารกิจการอพยพแรงงานไทยออกจากพื้นที่อิสราเอล ในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) จะมีแรงงานไทย ประมาณ 100 คนเดินทางกลับมาด้วยสายการบิน ฟลายดูไบ มาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา เวลาประมาณ 07.25 น. โดยจะไม่มีการให้สัมภาษณ์ใด ๆ เนื่องจากต้องการให้แรงงานกลุ่มนี้กลับมาพบญาติที่กรุงเทพมหานคร โดยเร็วที่สุดซึ่งคาดว่าจะถึงเวลาประมาณ 10.30 น. โดยจะอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงแรงงาน
ขณะเดียวกันในคืนวันนี้จะมีเครื่องบินแอร์บัสเอ 340 ของกองทัพอากาศ เดินทางออกจากท่าอากาศยาน ทหารกองบิน 6 ไปยังสนามบินสนามบิน เทลอาวีฟ เพื่อรับแรงงานไทยกลับมา โดยจะถึงที่ประเทศไทยในวันที่ 16 ต.ค. เวลาประมาณ 04.00 น. โดยในเที่ยวบินดังกล่าว จะมีแรงงานไทยกลับมาประมาณ 137 คน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยังมีความพยายามที่จะหาเครื่องบินเช่าเหมาลำ และจากสายการบินต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่ออพยพแรงงานไทยกลับมาให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 คน และในระหว่างนี้ก็จะมีเครื่องบินของกองทัพไทย และการบินไทยที่จะบินไปรับแรงงานไทยกลับมาอีกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้มีการประสานเพื่อขอเปลี่ยนสถานที่เป็นโรงแรมเดวิด อินเตอร์คอนติเนนทัล เทลอาวีฟ โดยทำการจองไว้ จอง 100 ห้อง เพื่อรองรับแรงงานไทย ก่อนเดินทางกลับมา นอกจากนี้ เมื่อวานนี้มีแรงงานไทยเดินทางกลับมา จำนวน 56 คน ในจำนวนนี้ 37 คนจ่ายเงินซื้อตั๋วเดินทางกลับมาเอง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มฮามาส ใช้วิธีการพูดภาษาไทย เพื่อล่อให้แรงงานไทยออกมาจากที่ปลอดภัย แล้วถูกจับเป็นตัวประกันนั้น ยืนยันว่าแรงงานไทยไม่ใช่เป้าหมายพิเศษ เนื่องจากอยู่ในภาวะสงคราม จึงมีการจับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งคนอิสราเอลและชาวต่างชาติไปเป็นตัวประกัน เช่นเดียวกับกรณีที่กลุ่มฮามาส ออกมาเปิดเผยว่ามีตัวประกัน 3 คน เสียชีวิตจากการโจมตีทางของอิสราเอล เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีคนไทยเสียชีวิตจากประเด็นดังกล่าว เพราะยังไม่มีรายชื่อผู้เสียชีวิต แต่หวังว่าจะไม่ใช่คนไทยและไม่อยากให้ใครเสียชีวิต พร้อมย้ำว่าจะติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.66) เวลา 16.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางมาเป็นประธานในการประชุม ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานแรงงานและติดตามสถานการณ์สู้รบในอิสราเอลด้วย