เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 12 ต.ค.66 สส.ก้าวไกล แจงแชทหลุด18+ / คนไทยในอิสราเอลดับพุ่ง 20 / ค้นแบลงค์กันซุกเป้าไรเดอร์

1. คนไทยในอิสราเอล ดับพุ่ง 20 ราย – แจ้งขอกลับทะลุ 5 พันคน

กต.เผยยอดคนไทยเสียชีวิตที่อิสราเอล พุ่งเป็น 20 ศพ คนแจ้งขอกลับเพิ่มเป็น 5,174 คน ส่วนเที่ยวบินแรกนำ 15 คน ในนี้บาดเจ็บ 4 ถึงสุวรรณภูมิวันนี้ 10.35 น. มีรถนำไปสถานบันบำราศนราดูร ดูแลเรื่องสุขภาพทันที

2. ยิ้มได้! คนเจ็บดีใจได้กลับไทยวันนี้ – เข็ดแล้วไม่ขอกลับอิสราเอลอีก

สมมา แซ่จ๊ะ 1 แรงงานที่บาดเจ็บ วิดีโอคอลคุยกับครอบครัว เล่านาทีหนีตาย ถูกทหารอิสราเอลเข้าใจผิดคิดเป็นกลุ่มฮามาส นายจ้างพาขับรถหนี ถูกยิงที่เท้า ตอนนี้ปลอดภัย ลั่น เข็ด หวาดกลัวสงครามไม่ขอกลับไปอีก ครอบครัวเตรียมทำพิธีเรียกขวัญหลังกลับถึงจังหวัดตากบ้านเกิด

ขณะที่แม่สุดดีใจ แรงงานชาวพะเยา ที่ถูกยิงที่เข่า จะเดินทางถึงไทยวันนี้ เตรียมทำพิธีรับขวัญแบบล้านนา ลูกชายวิดีโอคอลหาแม่ บ้านดีใจมากที่สถานทูตไทยประสานรับตัวกลับไทย ที่นี่ยังรบกันต่อเนื่อง อยากรักษาตัวให้หายก่อนกลับบ้านเกิด เพราะตอนนี้บาดเจ็บเดินไม่สะดวก

3. แรงงานร้อง! ถูกบังคับทำงานกลางสงคราม วอนช่วยกลับไทย

แรงงานชาวลำปาง สุดทน อยากกลับบ้านมาก ทุกวันนี้ได้ยินเสียงปืน จรวด ดังสนั่น 24 ชั่วโมง ลูกไฟปลิวว่อนท้องฟ้า แต่ยังถูกนายจ้างอิสราเอลบังคับทำงานท่ามกลางการสู้รบ สุดหลอนต้องวิ่งหลบระเบิดในสวนผลไม้ วอนหน่วยงานเร่งช่วยพากลับไทย

สุดเศร้า! 2 แรงงานไทย ถูกระเบิดตกใส่เสียชีวิต ขณะทำงานในไร่ ห่างฉนวนกาซ่า แค่ 5 กิโลเมตร ครอบครัววิดีโอคอลหา ภรรยาผู้ตายร้องไห้ฟูมฟาย หัวใจแตกสลาย ไม่กล้าแม้แต่ไปดูศพสามี เผยนายจ้างให้คนงานกว่า 30 คนไปเก็บ ซูกินีในไร่ จนเกิดเหตุเศร้า วอนภาครัฐนำศพสามีกลับไทยด้วย

4. ไรเดอร์หนุ่มซิ่งชนรถตู้ – ตร.เห็นพิรุธค้นพบแบลงค์กันซุกเป้า

ไม่รอด! ตำรวจทุ่งสองห้อง จับไรเดอร์หนุ่มวัย 17 ซิ่งจักรยานยนต์ชนรถตู้ จนบาดเจ็บที่ศีรษะและใบหน้า แต่ไม่ยอมให้กู้ภัยทำแผล แถมมีพิรุธเดินหนีบขา เลยตรวจค้น ล้วงควักเจอแบลงค์กัน 1 กระบอก กระสุน 4 นัดซุกคาเป้ากางเกง อ้างมึนๆเป็นของเพื่อนรุ่นพี่ให้พกไว้ป้องกันตัว

เจ้าหน้าที่ทลายโรงงานผลิตแบลงค์กัน เนียนเช่าบ้านใกล้ค่ายทหารเมืองคอน ติดวงจรปิดรอบทิศทาง ใช้โดรนบินตรวจความเคลื่อนไหวนอกบ้าน ยึดของกลางเพียบ ทั้งแท่นกลึง ตู้เชื่อมท่อเหล็กทำลำกล้องปืนหลายขนาด พบความเชื่อมโยงขายส่งออนไลน์

5. จับ นายก อบต. คาห้องทำงาน เรียกรับเงินต่อสัญญาจ้าง

ป.ป.ช.มหาสารคาม รวบนายก อบต.หนองม่วง คาโต๊ะทำงาน เรียกรับสินบนต่อสัญญาลูกจ้างรายปี เจ้าตัวตีหน้ามึนอ้างไม่รู้เงินค่าอะไร มีคนมาวางไว้แล้วเดินออกไป แต่หลักฐานมัดแน่นเพราะเงินทั้งก้อนถูกซุกในลิ้นชักโต๊ะ



เรื่องเล่าการเมือง

-ณัฐวุฒิ ขอเวลาสอบ สส.ก้าวไกล คุกคามทางเพศ ยอมรับมีมูล

พรรคก้าวไกลมีเรื่องร้อนขึ้นมาอีกแล้ว ล่าสุดมีการร้องเรียนว่า สส.ของพรรคมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ซึ่งเมื่อวานนี้ นายณัฐวุฒิ หัวหน้าคณะกรรมการวินัยของพรรค ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้ "มีมูล" ทางพรรคกำลังสอบอยู่ หากผิดจริงโทษมีโทษให้พ้นสมาชิกพรรค และ ตัดสิทธิ์ลงสมัคร สส.

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยของพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายวุฒิพงษ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 ของพรรค ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เข้าข่ายคุกคามทางเพศ จากการแชตหาทีมงานสาว ว่า พรรคก้าวไกลได้รับเรื่องร้องเรียนเรื่องนี้มาตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ตอนนี้ทางพรรคกำลังอยู่ในกระบวนการสอบข้อเท็จจริง ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเสร็จเมื่อไร เนื่องจากในการสืบหาข้อเท็จจริง ทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวอ้าง ถึงตัวบุคคล เอกสาร และหลักฐานจำนวนมาก แต่เบื้องต้นถือว่าเรื่องนี้มีมูล

หากผิดจริงก็ต้องถือว่าผิดวินัยร้ายแรง ทั้งตัดสิทธิ์ไม่ส่งลงสมัครลงเลือกตั้งครั้งหน้า และให้พ้นสมาชิกพรรค

นักข่าวถามด้วยว่า มีการเปรียบเทียบว่าพรรคก้าวไกลแอ็คชั่นกับพรรคอื่นเร็ว แต่พอเป็นเรื่องพรรคตัวเองกลับค่อนข้างช้า ซึ่งนายณัฐวุฒิ ก็บอกว่า ข้อเท็จจริงของแต่ละรายไม่เหมือนกัน และ ตอนนี้เสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการวินัยมองว่ายังขาดพยานหลักฐานในหลายประเด็น ซึ่งต้องทำให้รอบคอบที่สุด



-สส.ก้าวไกล โยงแชตหลุดคุกคาม แจงเรื่องเก่าหวังดิสเครดิต

ขณะที่ตัวของสส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล ที่ถูกร้องเรียน เมื่อวานผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อตลอดทั้งวัน แต่ไม่รับสาย จนช่วงค่ำได้โพสต์คลิปชี้แจง ระบุว่าเป็นเรื่องเก่า เพื่อหวังดิสเครดิตทำลายชื่อเสียง

นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล โพสต์คลิปวิดีโอลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศว่า ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้ตั้งคณะกรรมการวินัย เพื่อหารือและเร่งตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเป็นความพยายามดิสเครดิต หวังทำลายชื่อเสียง เพื่อปิดบังเรื่องที่ตนกำลังตรวจสอบอยู่ในพื้นที่

ก็บอกว่า บุคคลกลุ่มนี้พยายามขุดคุ้ยข้อมูล เพื่อสร้างประเด็นในการร้องเรียนและสร้างประเด็นในการแฉ ให้ปรากฏในโซเชียล จะเป็นการแคปภาพเฉพาะบางส่วนมาเสนอต่อที่สาธารณะชน

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ผ่านมา 1 ปีครึ่งแล้ว ตั้งแต่ตนยังไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎร ดังนั้นการนำข้อมูลส่วนตัวมาแสดงต่อพื้นที่สาธารณะ จึงมีเป้าหมายบางประการอย่างชัดเจน

เมื่อวานนี้มีเอกสารที่เผยแพร่ในโซเชียล เป็นจดหมายของผู้เสียหาย ที่ยื่นร้องเรียนต่อพรรคก้าวไกล ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.2566 ซึ่งในเนื้อหา ผู้เสียหายบอกว่า ทำงานกับ สส.ก้าวไกล ปราจีนบุรี ในช่วงปลายปี 2564 จนกระทั่งปี 2565 ถูกชวนไปร่วมงานลงพื้นที่ด้วยกันบ่อยมากขึ้น โดยมีหน้าที่จดบันทึกข้อมูล และดูแลเพจก้าวไกลปราจีนบุรี

ก็มีการสรุปพฤติกรรม ของ สส.คนดังกล่าว เป็นข้อๆ ว่า ชอบชวนคุยเรื่องการช่วยตัวเองและมีเพศสัมพันธ์ ถามเรื่องการดูหนัง AV และจะให้ Sex toy / สส. ตีก้นโดยไม่ได้รับอนุญาตและชวนไปมีเพศสัมพันธ์ รวมถึง สส. เอารูป ผู้เสียหายตัดต่อใส่บนกางเกงในผู้ชาย นอกจากนี้ยังอยากให้ใส่บิกินี่ และชวน Sex Phone

ในโซเชียลยังได้แชร์ข้อความ ระบุว่า เป็นเพื่อนของผู้เสียหาย บอกว่า เมื่อร้องเรียนไปยังพรรคต้นสังกัด ก็ทำงานล่าช้า ไม่ได้เข้าข้างผู้เสียหาย เหมือนไม่อยากทำอะไรกับสส.คนนี้ แถมถูกตั้งเป็นกรรมาธิการสามัญของพรรคด้วย นอกจากนี้ยังแนบบทสนทนาทางไลน์ของ สส. ที่เป็นการพูดคุยในลักษณะ 18+ ด้วย



-กลุ่มหนุนแจกเงินดิจิทัล อัดนักวิชาการคัดค้าน ไม่เห็นหัวคนจน

หลังมีเสียงคัดค้านเยอะ เมื่อวานกลุ่มหนุนโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ออกมาแล้ว ยื่นหนังสือขอให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการ บอกชาวบ้านต้องการ อัด นักวิชาการที่ออกมาคัดค้าน ว่า ไม่เห็นหัวคนจน

กลุ่มผู้สนับสนุน นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นำโดยนายจุติพงษ์ พุ่มมูล ยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาล หลังมีนักวิชาการ และ สว. บางส่วน ออกมาคัดค้าน โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองรับเรื่อง

นายจุติพงษ์ อ่านแถลงการณ์ ช่วงหนึ่งระบุว่า ทางกลุ่มเห็นว่านโยบายดังกล่าวเป็นการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมในการสร้างโอกาสและต่อลมหายใจในการดำรงชีวิตของประชาชนและตลอดจนสร้างอาชีพ และทำให้คนไทยมีเกียรติมีศักดิ์ศรีลืมตาอ้าปากได้ จึงขอให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการเพื่อเป็นไปตามนโยบายที่หาเสียงและแถลงต่อรัฐสภา

ส่วนการคัดค้านของฝ่ายนักวิชาการที่ออกมาคัดค้านนั้น ทางกลุ่มมองว่า "มีอคติต่อรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย โดยไม่เห็นหัวประชาชนคนยากจน..ไม่มีความเข้าใจถึงเรื่องพายุหมุนทางเศรษฐกิจหรือดิจิตอลอีโคโนมิคส์ ทำให้เห็นว่า คนรวยบางกลุ่มมองไม่เห็นหัวคนจนรากหญ้าซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ"

ทั้งนี้ ทางกลุ่มได้นำ สากกะเบือ มาประกอบการแถลงข่าวด้วย โดยระบุว่า นักวิชาการที่ค้านโครงการเป็นนักวิชาการ "รุ่นอมสากกะเบือ" เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาไม่เคยออกมาท้วงติง แต่วันนี้มาพูดกันปาว ๆ

ขณะที่นายสมคิด ระบุว่า รัฐบาลยินดีที่จะนำความเห็นทุกกลุ่มไปศึกษาพูดคุยกัน โดยจะไม่มองว่ากลุ่มไหนรวยหรือจน แต่จะมองว่าเป็นความเห็นที่ตรงไปตรงมาหรือไม่ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ



-สมชัย แนะเพื่อไทย "3 ถอย" ก่อนเดินหน้าแจกเงินดิจิทัล

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัล ว่าการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ต้องใช้เงินราว 560,000 ล้าน อาจไม่ง่ายดังที่หาเสียง

มีเสียงทักท้วงว่า อย่างไรก็เป็นการใช้งบประมาณแผ่นดิน เพราะถึงกู้มาก่อน ก็ต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมาคืนพร้อมดอกเบี้ย การใช้เงินต้องผ่านสภา ยิ่งเป็นการใช้เงินจำนวนมากถึง 1 ใน 6 ของงบประมาณประจำปี จะเลี่ยงไปใช้การกู้จากธนาคารรัฐ จะเสี่ยงคุกหรือไม่

การตั้งจากงบประมาณแผ่นดิน ปี 2567 ปีเดียวอาจมีเงินไม่พอ อาจต้องแบ่งตั้งเป็น 2 ปี

วันนี้ รัฐบาลเองอยากแจก ประชาชนอยากได้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเอามาจากไหน จากงบประมาณ ก็ไม่พอ จากกู้ออมสิน ก็ไม่พอ และเสี่ยง เพื่อไทยจึงต้องถึงเวลา 3 ถอย

1. ถอยวันแจก ไม่สามารถทำได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เพราะงบประมาณกว่าจะออกก็กลางเมษายน 2567 ดังนั้น หากจะใช้งบแผ่นดิน ไม่กู้ ต้องแจกได้ประมาณ พฤษภาคม 2567

2. ถอยเป็น 2 งวด คือ พฤษภาคม 2567 และ พฤศจิกายน 2567 เพื่อเป็นการแบ่งเงินก้อนดังกล่าวให้กระจายใน 2 ปีงบประมาณ ซึ่งมีความเป็นไปได้ในหาการเม็ดเงิน

3. ถอยเงื่อนไขแจก เปลี่ยนเงื่อนไขการแจกเป็นแบบให้ทุกคนที่อายุ 16 ขึ้นไปแบบสมัครใจ โดยแพลมมาแล้วว่า อาจใช้วิธีลงทะเบียน ใครใคร่ได้ ก็ลงทะเบียน ใครไม่อยากได้ก็ไม่ต้องลง เพื่อให้คนรวย ไม่เดือดร้อน แสดงสปิริตช่วยชาติ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/0AS1CnAf5bY