เลือกตั้งและการเมือง

‘เศรษฐา’ เผยแผนอพยพ แรงงานไทยในอิสราเอลกลับบ้าน แบ่งเป็น 3 ชุด เที่ยวบินแรกถึงไทย 12 ต.ค.

โดย petchpawee_k

11 ต.ค. 2566

24 views

วานนี้ (10 ต.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเฝ้า สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม โดยเปิดเผยว่า ทรงมีความห่วงกังวล ต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นขณะนี้ และแสดงความเสียใจที่มีการสูญเสียของคนไทย รวมถึงมีผู้บาดเจ็บและถูกลักพาตัว เรื่องของความไม่สงบเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง ดังนั้นการดูแลผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้ง 2 ประเทศ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งแต่อยากให้เรื่องนี้ยุติด้วยสันติวิธีโดยเร็วที่สุด เพื่อลดการสูญเสียและการบาดเจ็บ


ส่วนการอพยพคนไทยจากประเทศอิสราเอลว่า ขณะนี้มี 2 ทาง คือ สายการบินพาณิชย์ ที่จะเดินทางออกมาในวันนี้ (11 ต.ค.66) และถึงไทยวันที่12 ต.ค.66 จำนวน 11 คน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บที่ต้องเร่งนำกลับมารักษา และ จากกองทัพอากาศ โดยเครื่องบินแอร์บัส A340 จะนำคนไทยเดินทางกลับมาอีก 150 คน ในวันที่ 14 ตุลาคม และถึงไทยในวันที่ 15 ตุลาคม / และวันที่ 24 ตุลาคม อีก 80 คน


สำหรับคนไทยที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัย อย่างดีจากสถานทูตฯ แต่คงไม่มีใครรับประกันได้ เพราะเราไม่รู้ว่าความขัดแย้งนี้ จะลุกลามไปมากน้อยอย่างไร ตนเองจึงมองว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องคิดว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทางการทูตไปสมทบอีก 4 คน เพื่อประสานงานเรื่องการอพยพ


ส่วนเรื่องคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ความคืบหน้าการช่วยเหลือเป็นอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายการทูต ที่มีความสัมพันธ์กับบุคคล กับหลายๆ รัฐบาล ก็ได้ต่อสายตรงพูดคุยกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง จึงขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่ขอให้มั่นใจว่าทุกทางที่ดำเนินการอยู่ เราพยายามทำทุกอย่างแล้ว และยังคงพยายามอย่างสูงสุด พร้อมคำนึงถึงอิสรภาพแล้ความปลอดภัยของผู้ที่ถูกจับกุมตัวเป็นสำคัญ


สำหรับข้อกังวลสิทธิการช่วยเหลือของผู้ที่เดินทางไปเป็นแรงงานไม่ถูกกฎหมาย จะดำเนินการอย่างไร เพราะหลายคนกังวลว่าจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้อีก จึงไม่ประสงค์กลับไทย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องลืมเรื่องนี้ไปก่อน เพราะเรื่องความปลอดภัยของคนไทยในต่างแดนสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของชีวิตและความปลอดภัย ที่ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุด


ขณะที่ตัวเลขคนไทยผู้เสียชีวิต ที่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากที่สุดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเป็นประเทศที่สูญเสียมาก ณ เวลานี้จำนวน 18 คน ขณะที่สหรัฐอเมริกามี 9 คน จึงถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวลใจว่าจะหยุดแค่นี้หรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามสถานการณ์ที่อิสราเอลยึดพื้นที่คืนมา และดูว่ามีผู้หลงเหลือหรือไม่


โดยย้ำว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลและละเอียดอ่อนมาก ทั้งนี้ได้กำชับทางการทูตและการช่วยเหลือในทุกช่องทางและทุกวิถีทางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวประกัน ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หรือ แรงงานไทยและคนไทยที่อยู่ที่นั่นที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับมาโดยเร็ว ตนเชื่อว่า รัฐบาลไทยมีความพร้อม เพราะไม่ได้เตรียมเฉพาะเครื่องบินA 340 เพียงลำเดียว แต่ยังมีเครื่องบิน C130 ของกองทัพอากาศที่พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเครื่องบินรวมทั้งหมด 5 ลำ สำหรับอพยพคนไทย ส่วนการดูแลหลังจากนี้จะต้องดูแลให้ดีตามกฏหมาย แต่ละคนมีความเสียหายอย่างไรให้ยึดระเบียบที่วางไว้

-----------------------------------

ขณะที่ วานนี้ เวลาประมาณ 20.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ หรือ X ระบุ


“สำหรับสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ดำเนินอยู่นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทยครับ ในการเตรียมแผนอพยพคนไทยมีความคืบหน้าเพิ่มเติม 2 ทางคือ ทางแรก กลับมาโดยสายการบินพาณิชย์ และ ทางที่สอง กลับโดยเครื่องบินกองทัพอากาศไปรับแบ่งเป็น 3 ชุด คือ


1. อพยพออกมาพรุ่งนี้ถึงไทยวันที่ 12 ต.ค. 66 ประมาณ 15 คน ชุดแรกนี้เป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและแรงงานที่อพยพจากพื้นที่เสี่ยงภัย ครับ


2. อพยพประมาณ 140 คน ออกมาในวันที่ 14 ต.ค. 66 ถึงกรุงเทพวันที่ 15 ต.ค. 66 โดยส่งเครื่องบินกองทัพอากาศ Airbus A340 ไปรับ และ


3.ส่งคนไทยจำนวน 80 คนกลับทางเครื่องบินพาณิชย์ในวันที่ 18 ต.ค. 66


ซึ่งเราพยายามทยอยอพยพคนไทยกลับให้เร็วที่สุดโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักครับ ในส่วนของผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันผมได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ดำเนินการพูดคุยกับบรรดามิตรประเทศต่างๆ ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และอยากขอให้ความมั่นใจว่า เราได้ทำทุกทาง และจะพยายามอย่างสูงสุดเพื่อช่วยเหลือ โดยคำนึงถึงอิสรภาพของคนไทยที่ถูกจับตัวไปเป็นสำคัญที่สุด


ทั้งนี้ผมได้สั่งการให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเสริมข้าราชการไปสนับสนุนข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟในภารกิจช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยอีกด้วยครับ”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/HapS2tacxcs

คุณอาจสนใจ

Related News