สังคม

บีบหัวใจญาติร่ำไห้ หลังรู้ข่าวเศร้า พบร่างแรงงานไทยเสียชีวิตในอิสราเอลเพิ่ม 6 คน

โดย parichat_p

10 ต.ค. 2566

128 views

ญาติทราบข่าวร้องไห้ระงม หลังเจ้าหน้าที่พบร่างชาวไทยเสียชีวิตในอิสราเอลเพิ่มอีก 6 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวอุดรธานีถึง 4 คน


ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของ นายจักรพงษ์ หรือม่อน อายุ 28 ปี ชาวบ้านบ้านเดียม ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี หนึ่งในแรงงานไทยที่เพิ่งพบศพว่าเสียชีวิต โดยมีชาวบ้านและญาติๆ ที่ทราบข่าว เดินทางมาให้กำลังใจ และเตรียมเต็นท์รอจัดงานศพของนายม่อน บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก


นายสนธยา อายุ 33 ปี พี่ชายนายม่อน เผยว่า ตอนแรกไม่เชื่อที่เพื่อนคนงานของน้องชายมาบอก ว่า ม่อนตายแล้ว จึงโทรไปถามเพื่อนคนงานอีกคนที่หนีออกมาได้  เขาก็ยืนยันว่า จริง โดยเสียชีวิตพร้อมกับเพื่อนแรงงานไทยอีกคนที่ชื่อแจ็ค ในหลุมหลบภัย / น้องชายเพิ่งไปทำงานที่อิสราเอลได้ 8 เดือน ล่าสุดเพิ่งได้คุยกับน้องชายเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม จากนั้นก็ขาดการติดต่อ เรื่องที่เกิดขึ้น เสียใจจนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไง จากนั้นพี่ชายก็ปาดน้ำตา


ด้านนางดาวใส อายุ 68 ปี แม่นายม่อน บอกว่า ตอนคุยกับลูกชายครั้งสุดท้าย ได้บอกแมาว่าอีก 2 เดือน เงินเดือนจะออก แล้วจะส่งเงินกลับบ้านให้ แต่ลูกชายมาจากแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ ก่อนนี้ลูกสะใภ้มาเล่าว่า วันที่ 8 ตุลาคม ได้โทรไปหาลูกชาย ได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนจากปลายสาย และมีคนเรียกให้เข้าไปหลบภัย ซึ่งยังได้ยินเสียงหัวเราะ ตอนนั้นก็คิดว่าปลอดภัยแล้ว จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ทำให้แม่ยังไม่เชื่อ 100 เปอร์เซ็น ว่าลูกชายจะเสียชีวิต โดยเชื่อว่า ลูกยังมีชีวิตอยู่แน่นอน หัวอกคนเป็นแม่ อยากให้ลูกชายกลับบ้านตัวเป็นๆ


นอกจากนี้ ที่บ้านหนองบัวแดง ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี มีแรงงานไทยเสียชีวิตที่อิสราเอล ถึง 2 คน / คนแรก ชื่อ นายธีระพงศ์ หรือ ดอน อายุ 38 ปี โดยบรรยากาศที่บ้านนายดอน เป็นไปอย่างโศกเศร้า นางวรรณี แม่นายดอน กล่าวทั้งน้ำว่า ลูกชายไปทำงานที่อิสราเอล เป็นเวลา 2 ปี กับอีก 10 เดือน ก่อนเกิดสงคราม ลูกชายเพิ่งโทรมาบอกว่า จะกลับมาพักที่บ้านในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ซึ่งลูกได้เก็บของ แล้วส่งพัสดุมาล่วงหน้าก่อนแล้ว ของเพิ่งจะมาถึงบ้านเมื่อวานนี้ อีกไม่กี่วันลูกก็จะกลับบ้านแล้ว ซึ่งตนเองตั้งใจจะบอกลูกว่า กลับมาพักก็มาอยู่บ้านเราเลย ไม่ต้องกลับไปอิสราเอลแล้ว มาหางานทำแถวบ้าน เงินเดือนน้อยก็ช่างมัน ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาได้รับข่าวร้าย ว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว


ด้านนางสุดา หรือ ดี้ อายุ 39 ปี ภรรยานายดอน เล่าทั้งน้ำตาว่า คุยกับสามีครั้งสุดท้ายช่วง 10 โมงเช้า ของวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม ตอนแรกคุยกันเรื่องปกติ ผ่านไป 20 นาที ก็ได้ยินเสียงลูกระเบิดดังเข้ามา แล้วสัญญาณก็ตัดไป จึงแชทไปถามสามีว่า สัญญาณตัดเหรอ  ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง สามีถึงมาตอบกลับว่า ใช่ สัญญาณตัด  จากนั้นก็ติดต่อกันไม่ได้อีกเลย แม้จะพยายามติดต่อทุกช่องทาง กระทั่งมีเพื่อนแจ้งมาว่า สามีเสียชีวิตแล้ว ตนช็อกพูดไม่ออก เพราะอีกไม่กี่วัน สามีจะกลับบ้านแล้ว ตอนนี้อยากให้ทางการช่วยพาร่างสามีกลับบ้านด้วย


ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีก 1 คน อยู่ในบ้านหมู่บ้านเดียวกัน ชื่อ นายไกรสร หรือ เหลย อายุ 29 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของนายดอนด้วย / ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับนางเพ็ญ อายุ 48 ปี แม่ของนายเหลย เผยว่า ลูกชายไปทำงานที่อิสราเอล 5 ปีแล้ว โดยจะครบสัญญาในเดือนพฤศจิกายนนี้ ปกติลูกชายจะติดต่อพูดคุยกับลูกสะใภ้ทุกวัน นาน ๆ ทีจะคุยกับแม่ ตนเองได้คุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 กันยายน ตอนนั้นลูกชายบอกว่า เดี๋ยวหมดสัญญาจะกลับบ้าน แล้วมาบวชให้แม่ ทำให้ตนเองดีใจมาก


แต่แล้วกลับมาเกิดสงครามขึ้น ทำให้ตนใจคอไม่ดี พยายามติดต่อลูก 3 วัน แต่ก็ติดต่อไม่ได้ กระทั่งเพื่อนร่วมงานที่รอดชีวิต กับนายจ้างมาบอกแม่ว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้ว ตนเสียใจมาก ลูกไปไม่มาบอก ไม่มาหา ไม่มาร่ำลาแม่สักคำ ที่บอกว่าจะมาบวชให้แม่ แม่ก็รอ สุดท้ายก็มาจากแม่ไป โดยยังไม่ทันได้บวช



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/YYEsHP5ZaLk

คุณอาจสนใจ