ชัยนาทเฝ้าระวัง! พื้นที่ด้านท้ายน้ำหลังเขื่อนเจ้าพระยา

วันนี้ 4 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังหน้าเป็นห่วงหลังจากที่ปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทางเขื่อนเจ้าพระยายังคงปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ด้านท้ายเขื่อน เพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะมาถึง

ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์น้ำ ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,676 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่บริเวณเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.50 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 12.64 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 3.7 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 1,449 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีมวลน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,313 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

โดยจากการระบายน้ำดังกล่าว เริ่มส่งผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำของ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ และ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีน้ำเอ่อเข้าท่วมใต้ถุนบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่นอกคันกันน้ำ อย่างไรก็ตามทางกรมชลประทานจะทำการควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไม่ให้เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นอกจากนี้ยังได้ทำการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งลองลำน้ำอย่างเต็มศักยภาพ ประมาณ 387 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อีกทั้งยังเป็นการลดผลกระทบให้กับพื้นที่ด้านท้ายน้ำ

อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ก็ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด