สังคม

น้ำท่วมภาคเหนืออ่วม 'เศรษฐา' สั่งรองนายกฯ-รมต.ลงพื้นที่ - เตือนสัปดาห์หน้า รับมือไต้ฝุ่นโคอินุ

โดย passamon_a

1 ต.ค. 2566

40 views

น้ำท่วม น้ำป่า ทำหลายจังหวัดภาคเหนืออ่วม 'เศรษฐา' สั่งรองนายกฯ-รมต. ลงพื้นที่ 'สทนช.' เตือน 9 จังหวัด เฝ้าระวังดินถล่ม น้ำล้นตลิ่ง 3-7 ต.ค. 'ทีมกรุ๊ป' เตือนสัปดาห์หน้า เตรียมรับมือไต้ฝุ่นโคอินุ


เมื่อวันที่ 30 ก.ย.66 เวลาประมาณ 12.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า "หลังจากผมได้รับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดแพร่ ผมได้สั่งการให้ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์โดยเร่งด่วน พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง เพราะคาดว่าจะมีน้ำท่วมขังอีกประมาณ 1-2 วัน


ขณะนี้น้ำกำลังถูกระบายไปตามแม่น้ำยม ซึ่งอาจเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำในจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก ซึ่งทางกรมชลฯ ได้เร่งระบายน้ำไปทางแม่น้ำน่านเพื่อลดผลกระทบ ขณะที่ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจ.สุโขทัยและพิษณุโลก เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ สำคัญที่สุดคือต้องพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน ผมขอให้พี่น้องในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือด้วยนะครับ โดยเก็บข้าวของขึ้นที่สูงก่อน และหากขาดเหลืออะไรสามารถประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้การช่วยเหลือได้ทันที เราทุกคนจะทำงานเต็มที่เพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนปลอดภัยครับ


โดยวันนี้จะมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช. มหาดไทย และนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.แพร่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ส่วนวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม) จะมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. มหาดไทย และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช. คมนาคม ลงพื้นที่ จ.แพร่ และสุโขทัย ติดตามผลกระทบจากน้ำท่วม และเส้นทางรถไฟเสียหาย"


ต่อมา เวลา 22.25 น. นายเศรษฐา โพสต์เอ็กซ์ หรือทวิตเตอร์ ระบุว่า "วันนี้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ผมเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตลอดทั้งวันทราบว่าหลายพื้นที่สถานการณ์น้ำคลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่พี่น้องประชาชนยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ ผมขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสแตนบายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะผ่านพ้นเรียบร้อย สำหรับพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนรีบเข้าไปช่วยเหลือประชาชน และฟื้นฟูบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ให้กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุดด้วยครับ


ที่น่าเป็นห่วงมากขณะนี้คือ จ.ลำปางและแพร่ รวมถึงจ.สุโขทัย ซึ่งขณะนี้คันกั้นน้ำบางส่วนพังลงมา เราพยายามทำให้น้ำไหลลงทุ่งที่เป็นแก้มลิง มากที่สุด เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ที่เป็นบ้านเรือนราษฎร แต่ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องเกษตรกรที่อาจจะได้รับผลกระทบ โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะชดเชยความเสียหายให้อย่างแน่นอน


สำหรับการกู้เส้นทางรถไฟ ช่วงสถานีแก่งหลวง-บ้านปิน ขณะนี้จำเป็นต้องรอเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ คาดว่าจะสามารถกู้ได้ช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ โดยทางรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะเข้าไปร่วมกำกับในพื้นที่ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


ผมขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ผลัดเวรเฝ้าระวังน้ำตลอด 24 ชั่วโมง และให้หมั่นคอยแจ้งเตือนประชาชนทุกระยะ เวลานี้เจ้าหน้าที่ทุกคนคือที่พึ่งของพี่น้องประชาชน ผมขอขอบคุณท่านสำหรับการทำงานหนัก เราจะผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกันครับ"


ด้าน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่องมรสุมทำให้เกิดฝนตกหนักสะสมบริเวณภาคเหนือ ทำให้มีน้ำในลำน้ำเพิ่มมากขึ้นและมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำปริมาณมาก โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ขนาดกลาง และขนาดเล็ก มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์เก็บกักน้ำสูงสุด


กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ในวันที่ 3-6 ต.ค.66 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สทนช. ได้วิเคราะห์คาดการณ์จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ โดยมีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 3-7 ต.ค. ดังนี้


1. เฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่ม

- เชียงใหม่ (อ.จอมทอง แม่แจ่ม อมก๋อย แม่วาง แม่แตง ฝาง ดอยเต่า ฮอด ดอยสะเก็ด กัลยาณิวัฒนา)

- ตาก (อ.เมืองตาก ท่าสองยาง สามเงา บ้านตาก แม่ระมาด วังเจ้า อุ้มผาง แม่สอด พบพระ)

- กำแพงเพชร (อ.โกสัมพีนคร คลองลาน ปางศิลาทอง)

- ลำพูน (อ.เภอลี้ ทุ่งหัวช้าง)

- แพร่ (อ.วังชิ้น ลอง)

- ลำปาง (อ.เถิน แม่ทะ เสริมงาม เกาะคา)


2. เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ

- แม่น้ำวัง ได้แก่ อำเภอสามเงา และบ้านตาก จ.ตาก

- แม่น้ำยม ได้แก่ อำเภอสวรรคโลก ศรีนคร ศรีสำโรง ศรีสัชนาลัย ทุ่งเสลี่ยม และเมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย

- แม่น้ำเจ้าพระยา คาดการณ์จะมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น อยู่ในเกณฑ์ 1,200-1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.00 - 1.50 เมตร


ขณะที่ ทีมกรุ๊ป ยืนยันชื่อแล้ว พายุไต้ฝุ่นโคอินุ จากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เคลื่อนที่ทางทิศตะวันตก มีแนวโน้มจะเข้าไทย ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก 9 -11 ต.ค. จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า มีความจำเป็นต้องระบายน้ำพร่องน้ำออกจากเขื่อนที่มีน้ำมากในแนวเส้นทางที่จะมีฝนตกหนัก เช่น ลำปาว น้ำอูน หนองหาร ห้วยหลวง เพิ่มเติมอีกหรือไม่


พายุไต้ฝุ่นโคอินุ (#14:Koinu=ดาวหมาญี่ปุ่น) จากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นพายุลูกที่ 14 ของปีนี้ เคลื่อนที่ทางทิศตะวันตก

- 3 ต.ค. เพิ่มกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 และ 2 (สูงสุด=5)

- 4 ต.ค. ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากในไต้หวันทั้งประเทศ

- 5 ต.ค. เพิ่มกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 3 ทำให้ฝนตกหนักที่ฮ่องกง แล้วเคลื่อนที่ต่อไปทางตะวันตก


หากไม่เปลี่ยนแปลง จากการคาดการณ์เบื้องต้น คาดว่า

- 7 ต.ค. ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากที่ไหหลำ

- 9 ต.ค. ขึ้นฝั่งเวียดนาม ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่กรุงฮานอยและพื้นที่ใกล้เคียง และในพื้นที่ประเทศลาว ตั้งแต่เวียงจัน สุวรรณเขต ลงไปถึงจำปาสัก และเริ่มมีฝนตกปานกลางถึงตกหนัก ในจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร อุบลราชธานี ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน และภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานคร

- 10 ต.ค. จะทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน และอีสานตอนกลาง ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน และภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานคร

- 11 ต.ค. ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน และภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานคร


จึงต้องติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิดต่อไป ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง



ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/CrbtYNHNNGU

คุณอาจสนใจ

Related News