แม่ค้าผัดไทยช้ำ ถูกลูกค้าหลอกสั่งผัดไทยให้ครูโรงเรียนดัง 350 กล่อง ก่อนเชิดเงินค่าส่วนต่างหลบหนี

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Heuang Panramisay โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดและข้อความว่า "เตือนภัยมิจฉาชีพ ท่านใดเคยพบเห็นรู้เบาะแสของชายมิจฉาชีพกรุณาให้ข้อมูลด้วยนะคะ




เหตุเกิดที่สามัคคี48 ร้านผัดไทย ชายดังกล่าวได้ว่าจ้างร้านผัดไทยโดยอ้างว่าเอาไปส่งให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยจะให้แม่ค้าไปรับเงินค่าอาหารจำนวน 37,650 โดยจะมีค่าส่วนต่างที่ชายคนนี้ต้องได้รับจากการบวกค่าอาหารเพิ่ม สร้างเรื่องว่าต้องเอาเงินส่วนต่างไปให้อาจารย์อีกคน หลอกให้แม่ค้านั่งแท็กซี่ไปโรงเรียนด้วยกัน แล้วขอเงินที่จะให้อาจารย์ไปก่อนเป็นจำนวนเงิน 5,700 แล้วขอลงตรงใต้ทางด่วนบอกให้แม่ค้าไปรอที่โรงเรียนตัวเองจะไปเอากล่องใส่อาหารมาให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาทางร้านมีผู้ว่าจ้างเอาอาหารไปเลี้ยงบ่อยๆเลยทำให้ไม่คิดว่าจะโดนมิจฉาชีพเล่นงานได้



โพสต์นี้ขอร้องนะคะ ทางเราโพสต์เพื่อเตือนภัยไม่อยากให้แม่ค้าด้วยกันมาโดนเหตุการณ์แบบนี้ ค้าขายก้อลำบาก ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเพื่อนสมาชิกคนไหนพอมีเบาะแสหรือข้อมูลของชายมิจฉาชีพกรุณาแจ้งด้วยค่ะรู้ว่าคงไม่ได้เงินคืนแต่เราอยากเอาเรื่องเพื่อไม่ให้ไปทำกับแม่ค้าหรือร้านค้าคนอื่นอีก



‼️ข้อมูลเพิ่มเติม จากกล้องวงจรปิด ชายดังกล่าวนั่งวินเบอร์37มา ให้มาส่งที่ซอยสามัคคี50แต่ทางเราไม่ทราบว่าจากวินไหน หากพี่ๆ วินจักรยานยนต์เห็นรูปแล้วพอมีเบาะแสกรุณาแจ้งด้วยนะคะ ทางเราต้องการข้อมูลเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป



เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 28 ก.ย.66 ที่ร้านขายผัดไทย-หอยทอด ปากซอยสามัคคี 48 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี พบน.ส.เมย์ (นามสมมุติ) 43 ปี เจ้าของร้านผัดไทย-หอยทอด



และ น.ส.เบิร์ด (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี น้องสาวเจ้าของร้านผัดไทย ซึ่งเป็นร้านขายแบบรถเข็น ราคาขายแบบธรรมดาจานละ 40 บาทพิเศษ 45 บาท ราคาขายแบบทะเลจานละ 55 พิเศษ 65 บาท แต่คนร้ายสั่งแบบใส่กล่องพิเศษ จึงคิดราคาขายแบบใส่กล่อง 80 บาท โดยคนร้ายเข้ามาก่อเหตุประมาณ 15.30 น.วันที่ 28 ก.ย.66



ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบ 360 องศา ของร้านขายกล้องวงจรปิด บันทึกภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 15.10 น. เป็นชายรูปร่างท้วม อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋า สวมแมส เดินมาจากทางปากซอยสามัคคี 50 ตรงมาที่ร้านขายผัดไทย-หอยทอด ปากซอยสามัคคี 48 จากนั้นได้สั่งผัดไทยกุ้งสดจำนวน 350 กล่อง โดยตกลงราคากัน



ต่อมากล้องวงจรปิดตัวเดิมจับภาพคนร้ายและ น.ส.เมย์ เดินไปที่ร้านขายเครื่องเขียนเพื่อไปซื้อซองจดหมายเพื่อนำมาใส่เงินส่วนต่างค่าผัดไทยให้กับอาจาร์ย ที่ รร.มัธยมแห่งหนึ่ง





จากการสอบถาม น.ส.เมย์ (นามสมมุติ) 43 ปี เจ้าของร้านผัดไทย-หอยทอด ทราบว่า คนร้ายมาสั่งผัดไทยตอนประมาณ 15.30 น.มาติดต่อขอสั่งผัดไทยที่ร้านโดยบอกว่าอาจาร์ยที่โรงเรียนเคยทางแล้วอร่อยดี โดยคนร้ายจะสั่งอาหารให้ไปส่ง 11.00 น.วันจันทร์ที่จะถึง ซึ่งตนบอกไปว่าไม่ทันเพราะที่ตนตั้งร้านตอน 13.00 น. กว่าจะเริ่มขายก็ประมาณ 14.00 น. ระหว่างที่พูดคุยรายละเอียดกันคนร้ายแจ้งว่าจะสั่ง 350 กล่อง ให้ไปส่งตอน 10.00 น.ที่โรงเรียน ความที่เป็นแม่ค้าก็อยากขายของ







เขาก็ชวนคุยอยู่นานหว่านล้อมต่างๆ นาๆ จนตนตกลงและถามเรื่องราคา ซึ่งปกติตนขายผัดไทยกุ้งสดหน้าร้านจานละ 55 บาท แต่คนร้ายบอดว่าจะสั่งทำแบบราคา 80 บาท ซึ่งเขาขอบวกเพิ่มอีกกล่องละ 25 บาทเป็นกล่องละ 105 บาทตามงบที่ทางโรงเรียนให้มา ซึ่งหมายความว่าตนเก็บเงินกับคนร้าย 80 บาทให้ลงบิล 105 บาท พอคำนวณเงินกันเป็นจำนวน 36,750 บาท ซึ่งตนจะได้เงินแค่ 28,000 บาท และมีส่วนต่าง 8,750 บาทที่คนร้ายจะต้องได้ โดยคนร้ายอ้างว่าคนในโรงเรียนทำกันแบบนี้ตนก็ไม่ได้สนใจ







จากนั้นคนร้ายก็ให้ตนเดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อทำบิลตกลงจ่ายเงินกัน แต่ตนไปไม่ได้จึงได้ให้น้องสาวไปแทน จากนั้นเขาก็อ้างว่าต้องนำเงินส่วนต่างไปให้อาจารย์ที่โรงเรียนที่ดูแลเรื่องนี้ แต่ตนมีเงินไม่พอมีแค่ 5,700 บาท คนร้ายก็บอกว่าไม่เป็นไร เอามาแค่ 5,700 บาท เดี๋ยวส่วนที่เหลือเขาจะออกให้ก่อน ตนก็คิดว่าไม่มีอะไรจึงเรียกน้องให้ไปแทน ซึ่งคนร้ายท่าทางรีบมากบอกว่าโรงเรียนจะปิดเพราะใกล้เลิกเรียนเขากลัวไม่ทัน ตนจึงเอาเงินให้น้องไปเพราะหลังจากคุยกับทางโรงเรียนแล้วจะให้รถโรงเรียนมาส่งพร้อมกับกล่องที่จะใส่ผัดไทย คนร้ายท่าทางดูดี แต่ตัวเหมือนคนที่ทำงานที่โรงเรียน อายุประมาณ 30 กว่า ปกติตนก็รับทำผัดไทยกล่องอยู่แล้วแต่ไม่เคยโดนหลอก ครั้งนี้ตอนแรกจะเรียกเงินมัดจำแต่คนร้ายบอกว่าให้ไปเอาเงินหมดเลย เพราะจะให้น้องเข้าไปทำใบเบิกเงินก็จะได้เงินเลย ก็ไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้นน้องก็ถูกทิ้งกลางทาง







หลังเกิดเหตุการณ์นี้ก็กลัวไปหมดเงินขายของได้ก็ไม่กล้าใส่ในถังเก็บเงิน เอาใส่เอี๊ยมหมด ระแวงไปหมด ลูกค้าที่มาสแกนก็ระแวงว่าเงินจะเข้าไหม สั่งขอก็ระแวงกลัวไม่มาเอา ดีนะยังไม่ได้ทำผัดไทย ตนก็อยากฝากถึงร้านค้าทุกร้าน คนเป็นแม่ค้าก็อยากได้ลูกค้าแต่ขอให้ดูดีๆว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ แต่คนร้ายก็มาแบบเนียนมากรู้ข้อมูลเราหทด ตนเจอเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เข็ดเลยต่อไปใครมาสั่งแล้วไม่วาง้งินก่อนตนจะไม่รับทำอีก





น.ส.เบิร์ด (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี น้องสาวเจ้าของร้านผัดไทย คนที่ส่งเงินให้คนร้าย กล่าวว่า เหตุเกิดประมาณเกือบ 16.00 น.ตนขายข้าวมันไก่อยู่ที่ร้านใกล้กัน ซึ่งตอนนั้นพี่สาวได้คุยตกลงกับคนร้ายอยู่ที่ร้านผัดไทย จากนั้นพี่สาวได้เรียกตนมาและวานให้ตนไปเอาเงินค่าผัดไทยกับกล่องใส่อาหารโดยไปกับคนร้ายที่มาสั่งผัดไทย โดยมีเงินส่วนต่าง 5,700 บาทที่พี่สาวให้มา คนร้ายได้ขอรับเงินไปก่อนตรงหน้าปากซอย จากนั้นได้เรียกแท็กซี่จากตลาดย่าโมเพื่อไปที่โรงเรียน เมื่อแท็กซี่ขับไปประมาณ 100 เมตรถึงบริเวณใต้ทางด่วน คนร้ายให้แท็กซี่จอดแล้วบอกกับตนว่าจะลงไปเอากล่องใส่อาหารให้ตนนั่งแท็กซี่ไปรอที่หน้าโรงเรียน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไรทั้งที่เงิน 5,700 ก็อยู่กับคนร้าย











เมื่อถึงหน้าโรงเรียนตนก็ยืนรอสักพักก็ไม่เห็นคนร้ายมาจึงได้โทรกลับมาหาพี่สาวว่ารอนานแล้วเขาไม่มาสักที จึงบอกให้พี่สาวโทรไปหาคนร้าย แต่พี่สาวไม่มีเบอร์ไม่ได้ขอไว้ ตอนที่ตนยืนรอสัก 10 นาทีตนก็เอะใจแล้วว่าเป็นคนร้ายแน่นอน เพราะคนร้ายมีท่าทางลุกลี้ลุกลนรีบไปหมด ตอนที่เขาขอเงิน 5,700 จากตนเขาก็บอดว่าจะเป็นคนให้กับบุคคลที่สามเอง ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเห็นข่าวเหมือนกันว่ามิจฉาชีพชอบมาหลอกแบบนี้แต่ก็ไม่เอะใจ เขามีท่าทีรีบร้อนมากอายุประมาณ 50 กว่า แต่งตัวน่าเชื่อถือคล้ายอาจาร์ย ก็อยากฝากเตือนร้านค้าต่างๆ เจอแบบนี้อย่าหลงเชื่ออย่าเอาเงินให้เขาก่อน ถ้าเขาจะมาสั่งของก็ให้เขาวางเงินมัดจำก่อน









เบื้องต้นผู้เสียหายได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป