อาชญากรรม
ฟังยาวๆ ‘มินนี่’ เปิดหน้าชน ลั่น! ไม่มีอะไรจะเสีย ซัดรูปหลุดหลังถูก ตร.ยึดมือถือ ยันไม่ได้เป็น 'เจ้าแม่เว็บพนัน'
โดย nattachat_c
29 ก.ย. 2566
1.8K views
มินนี่ เปิดหน้าสู้ บินตรงสิงคโปร์กลับไทย จ่อเอาผิด ตร. PCT ปล่อยภาพคู่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ สร้างความเสียหาย แจงความสัมพันธ์ลับ แค่ระยะเวลาสั้น ๆ ยืนยันไม่ใช่เจ้าแม่เว็บพนัน ถูกยัดข้อหา แฉตำรวจบังคับให้เขียนว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่เธอไม่ยอม ปัดตอบเส้นทางเงินเอี่ยวบัญชีม้า ให้เป็นหน้าที่ทนาย แต่ยอมรับโอนเงิน ภาคภูมิ ยืมจริง ขอโทษ บิ๊กโจ๊ก - เอ ศุภชัย - ภาคภูมิ ทำให้เสียชื่อเสียง พร้อมย้ำว่าไม่มีใครสั่งการ หรือวางบทให้ตนมาทำอะไร
วานนี้ (28 ก.ย.) เวลา 19.30 น. นางสาวมินนี่ อายุ 26 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศสิงคโปร์ ทันทีที่ลงเครื่องได้เดินทางมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนข้างถนนบริเวนด้านหน้า บก.น.5 ปมเปิดเว็บพนันออนไลน์ และเชื่อมโยงบุคลลที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจและพลเรือน จนนำไปสู่การออกหมายจับ รวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย หรือ รองหนึ่ง รองผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4
นางสาวมินนี่ เผยว่า ยินดีที่จะเปิดหน้าเปิดตา ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว โดยเริ่มชี้แจงว่าความสัมพันธ์กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ปี 2563 รู้จักกันคบหากันในเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นก็เลิกรากันไปเพราะรู้ว่าเขามีครอบครัว แล้วบังเอิญต้นปี 2566 กลับมาเจอคุยกันอีกครั้ง สนิทกันกลับมาเป็นเหมือนเดิมในระยะเวลาหนึ่ง
ส่วนเรื่องการยืมเงิน พี่เขา (พ.ต.อ.ภาคภูมิ) ก็ยืมเงินปกติ คืนบ้างไม่คืนบ้าง ส่วนมากคนอื่นโอนให้เพราะชอบไปเที่ยวต่างประเทศ จำนวนไม่เยอะ เหตุผลที่เขายืมเงินอาจเป็นเพราะเงินเดือนเขาไม่เยอะ ส่วนความสัมพันธ์ไม่ใช่สามีภรรยา คอนเฟิร์มไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน ย้ำเป็นคนคบหากันในช่วงเวลาหนึ่ง
ส่วนภาพที่ปรากฏตามสื่อ 2 ภาพ ถ่ายในที่สาธารณะ คบกันในระยะเวลาสั้นๆ หนึ่ง เป็นช่วงที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ยังคบภรรยาอยู่ ส่วนประเด็นเรื่องเงินไม่ขอตอบ ยืนยันบิ๊กโจ๊กไม่รู้จักตัวเอง เจอกันในงานเลี้ยง 2 - 3 ครั้ง กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ คลิปกับบิ๊กโจ๊ก ตัวเองไปขอถ่ายเอง ยืนยันไม่เคยโพสต์ภาพคลิปที่หลุดลงโชเซียล
จึงคาดว่าภาพหลุดน่าจะมาจากตำรวจที่เข้ามาตรวจค้นจากโทรศัพท์ส่วนตัว 2 คน ชื่อเล่น ชื่อเจ อีกคนตัวคล้ำๆ สูงๆ น่าจะเป็น ตม. มาตรวจค้น ให้ความร่วมมือทุกอย่าง รูปในโทรศัพท์ส่วนตัวทำไมจึงหลุดออกมา อยากจะทราบว่าในวันนั้น ให้โทรศัพท์ ให้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรหลุด แต่วันนี้ทุกคนเดือดร้อนเพราะตัวเอง
ทั้งนี้ มั่นใจว่าหลุดจากโทรศัพท์ตัวเองเครื่องเดียว ตอนนี้โทรศัพท์อยู่ที่ PCT 4 ขอความเป็นธรรม มีทั้งภาพ แชต คุยกับคน 2 คน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ได้ทำเว็บพนัน ตำรวจ 2 คน บังคับให้เขียนระบุว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ มีส่วนได้ส่วนเสีย ทำเว็บพนันร่วมกัน แต่จะให้หนูเขียน ถามว่าทำไมโทรศัพท์มีรูปหัวหน้าพี่ด้วย หนูก็ไม่ตอบ พี่เป็นตำรวจเหมือนกัน ทำไมมาบังคับให้เขียนในสิ่งไม่เป็นความจริง พอเรื่องมันเกิดขึ้น ก็คิดว่าถ้าเขียนตามที่เขาบอกไปมันก็คงจะจบไป
“พอเขาไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ เขาก็เอารูปส่วนตัวของหนูไปเปิดเผย รูปที่เป็นคน 2 คน เขาจะรักกัน ไม่เกี่ยวกับกฎหมายอะไรเลย ลูกหนู 6 ขวบแล้ว เล่นติ๊กต็อกเป็น วันนี้ต้องออกมา จะเกิดอะไรขึ้นหนูไม่กลัว เพราะเป็นชีวิตหนูเหมือนกัน “
นางสาวมินนี่ ย้ำไม่รู้ว่าตนภูกใช้เป็นเครื่องมือใคร ตนเป็นเพียงคนเล็กๆ คนหนึ่ง แต่ต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตน ลูกก็ยังเล็ก ซึ่งตอนนี้ตนเองเป็นโรคซึมเศร้าและต้องกินยารักษาตัวอยู่ ตั้งแต่เกิดเรื่องรู้สึกเครียด พ่อแม่ก็เครียด วันนี้จึงอยากออกมาปกป้องศักดิ์ศรีตนเอง
----------
วานนี้ (28 ก.ย.) เวลา 19.30 น. นางสาวมินนี่ อายุ 26 ปี เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ช่วงการให้สัมภาษณ์นักข่าวพยายามสอบถามถึงประเด็นเปิดเว็บพนันออนไลน์ แต่ทนายความขอให้มินนี่ ไม่ให้พูดเรื่องดังกล่าวและขอไม่ให้พูดเรื่องคดี “ยืนยันไม่เกี่ยวพนันออนไลน์ ไม่ใช่เจ้าแม่พนันออนไลน์ ขอให้ดูในรูปคดี นอกจากนี้ยังขอโทษ บิ๊กโจ๊ก -เอ ศุภชัย โดนมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยืนยันต้องปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง ไม่รู้จักบอส - ตาล ขณะนี้ให้ทนายดำเนินคดีแน่นอนเพราะเสียหายมาก”
จากนั้น “มินนี่” พร้อมทนายความก็หยุดให้สัมภาษณ์เพียงเท่านี้ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปขึ้นรถเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อไปยื่นคำให้การเพิ่มเติมในคดีเดิมที่เคยถูกจับกุมที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ /ระหว่างนั้นนักข่าวก็ยืนไมค์ถามมินนี่อีก โดยกล่าวว่ารู้สึกเสียใจที่โดนกล่าวหาว่าเป็นเจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์ อยากบอกคนที่นำภาพของตนมาเผยแพร่ ยันยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด
นักข่าวถามว่าอยากพูดอะไรถึง “บิ๊กโจ๊กบ้าง” มินนี่ ยกมือไหว้พร้อมกล่าวว่า “อยากขอโทษท่านบิ๊กโจ๊ก จริงๆ ที่หนูมีรูปในโทรศัพท์ เพราะหนูเป็นคนชอบถ่ายรูป พอรูปหลุดออกไปก็เลยทำให้คนตีความไปทำให้ท่านเดือนร้อน หนูทราบตัวเองดีที่ทำให้ท่านเดือนร้อน ถ้ามีโอกาสอยากเข้าไปกราบขอโทษท่านบิ๊กโจ๊ก ขอโทษทุกคนที่เดือดร้อนเพราะหนู”
นักข่าวถามจะต่อสู้คดีหรือจะชี้แจงประเด็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เจ้าตัวบอกก็อยากจะชี้แจงหลายเรื่องเพราะมีคนเดือดร้อนเพราะตนจริงๆ คนเดือนร้อนเพราะตนไม่ใช่แค่พี่หนึ่ง (พ.ต.อ.ภาคภูมิ) ยังมีน้องชายของพี่หนึ่ง คือ พ.ต.อ. เขมรินทร์ พิสมัย ที่เดือดร้อนเพราะตนด้วย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตนสักอย่าง ตอนนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ และ พ.ต.อ. เขมรินทร์
ซึ่ง พ.ต.อ.เขมรินทร์ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน แค่เราเคยไปทานข้าวด้วยกัน ตนมีเพื่อนเป็นต่างด้าวอยากมาทำธุรกิจในไทย โดย พ.ต.อ.เขมรินทร์ เป็นตำรวจ ตม.น่าจะมีความรู้เยอะ พ.ต.อ.ภาคภูมิ จึงนัดให้มาเจอ พ.ต.อ.เขมรินทร์ ทั้งนี้มีภาพหลุดเป็นภาพคู่กับ พ.ต.อ.เขมรินทร์ ด้วย ก็ทำให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ ซวยไปด้วย ซึ่งตนก็จะไปขอโทษ
มินนี่ ยืนยันว่า “ที่ตนออกมาพูดครั้งนี้ไม่มีใครสั่งให้มาพูด แต่ตนเองทนไม่ไหว ดูข่าวตื่นเช้ามาเห็นรูปตัวเองเดิมๆ ทุกวัน ไม่เซ็นเซอร์หน้าให้ ตนไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเลยได้แต่อ่านข่าวตัวเอง มันไม่จริง ตนไม่เคยซัดทอดใคร วันนี้จึงต้องออกมาพูด ถ้าตนไม่ออกมาพูดจะเป็นยังไงต่อ ก็จะกลายเป็นจำเลยของสังคม ยืนยันฟ้องร้องแน่นอนในส่วนภาพที่หลุดออกมา”
การที่ตนเดินทางกลับไทยก่อนกำหนดเพราะไม่ไหวแล้ว ตนเป็นเป็นซึมเศร้าต้องกินยา วันนึงถ้าตนคิดทำอะไรไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง สิ่งที่ทำให้ตนร้องไห้คือลูก เขาเห็นข่าวของตนเอง / ส่วนกระแสข่าวว่าตอนที่ตนโดนจับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เป็นคนประกันตัว ยืนยันไม่จริง คนที่ไปประกันตัวคือทนายความ
------
วานนี้ (28 ก.ย.) เวลา 20.00 น. “มินนี่” พร้อมทนาย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อมายื่นคำให้การเพิ่มเติม ในคดีเดิมที่เคยถูกจับกุมที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ มีทั้งภาพถ่าย คำพูดและเหตุการณ์วันที่ถูกชุดจับกุม บังคับให้เซ็นเอกสารซัดทอด ว่าเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์มีความเกี่ยวข้องกับตำรวจหลายนาย ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
ก่อนหน้านี้ตนเองรู้สึกเครียดมาก แต่หลังจากที่ได้ให้สัมภาษณ์และได้พูดความในใจออกมาก็รู้สึกโล่ง หวังว่าเสียงการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้จะทำให้คนเข้าใจตนมากขึ้น
ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านออกมาแฉ ว่าตนไปหลอกให้ “เปิดบัญชีม้า” นั้น ในเรื่องนี้ตนเองยังไม่ขอพูดเนื่องจากเป็นเรื่องของข้อกฎหมายและอยู่ในสำนวนคดี จะให้ทนายเป็นผู้ชี้แจงดูรูปคดีให้ ตนไม่กังวลเรื่องนี้ เเต่ยอมรับว่าตั้งแต่เด็ก พ่อกับแม่ของตนที่อาศัยอยู่ที่ จ.เลย เป็นผู้กว้างขวางเนื่องจากเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และได้พาตนไปรู้จักกับผู้ใหญ่กับผู้หลักผู้ใหญ่หลายวงการ // ตนเองรู้สึกแย่ที่ทำให้แม่เสื่อมเสียชื่อเสียงมาก แต่ไม่รู้จะทำยังไงมันเกิดขึ้นแล้วแค่ต้องยอมรับมัน ตั้งใจจะกลับไปกราบคุณแม่ เพราะคุณแม่เสียหายมากจริงๆ
“มินนี่” ยังกล่าวอีกว่า ไม่รู้ว่าตนถูกหรือผิด แต่ตนก็อยากจะพูดในสิ่งที่ตนต้องพูด ตนเพิ่งเข้าใจว่านักข่าวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดก็วันนี้แหละ ชีวิตคนๆ หนึ่งไม่เคยเจออะไรแบบนี้ พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณที่ให้ความเป็นธรรมกับชีวิตของตนมาก ตอนนี้ตนเครียดจริงๆ
โดย “มินนี่” กล่าวทิ้งท้ายว่าตนอยากจะไปกราบขอโทษ พ่อกับแม่ที่ทำให้เครียด ขณะเดียวกันหากมีโอกาสก็อยากจะเข้าไปกราบขอโทษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ด้วยตนเอง ดังนั้นจึงฝากสื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงให้ด้วย หากมีการนัดหมายบิ๊กโจ๊ก ได้ตนเองก็พร้อมเดินทางไป
หลังจากยืนเอกสารเสร็จ มินนี่ พร้อมทนายความได้เดินทางกลับ โดยมินนี่ กล่าวว่า “ตอนนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทั้งนี้ตอนอยู่สิงคโปร์ ไม่มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ติดต่อมาพูดคุยหรือโทรมาสอบถามอะไร วันนี้ได้พูดแล้วก็สบายใจ จากนี้ต้องรอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตนหรือไม่กังวลเรื่องความปลอดภัย”
มีรายงานว่า ในวันนี้ (29 ก.ย.) มินนี่พร้อมทนายความ จะเดินทางไปที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจด้วย
-----------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ukBMVVut7vc