นายกฯ บอกไม่กังวลตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ อาจมีการฟ้องร้อง ยันไม่ได้ลุแก่อำนาจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศส่งต่อเงินเดือน-เบี้ยประชุมทุกบาท ให้มูลนิธิต่างๆ ต่อยอดโอกาสเพื่อกลุ่มเปราะบางในประเทศ ว่าเป็นการรับมา จ่ายภาษี และบริจาคไป ซึ่งก็จะเปลี่ยนมูลนิธิไปเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของตนตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง


ส่วนจะเป็นตัวอย่างให้กับรัฐมนตรีคนอื่นๆหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ใช่หรอก แต่เป็นความประสงค์ส่วนตัว อย่าไปกดดันท่านอื่นเลย ทุกคนมีความจำเป็นส่วนตัว


เมื่อถามว่าได้ปรึกษาในแง่กฎหมายแล้วหรือไม่ ว่าหากบริจาคเงินเกิน 3,000 บาท จะผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูอยู่ ซึ่งการบริจาคทุกอันจะกระจายไปตามมูลนิธิที่มีการตรวจสอบแล้ว เป็นการช่วยเหลือภาคส่วนที่มีความต้องการ พร้อมย้ำว่าเป็นเจตนารมณ์ ซึ่งทำมาก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนไม่อยากพูดเยอะเดี๋ยวจะหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็เงียบๆไปดีกว่า

ส่วนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ มีความสบายใจแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้รอการโปรดเกล้าฯ ก่อน ทุกอย่างที่เสร็จสิ้นไปแล้ว ก็มีความสบายใจ

ส่วนเหตุผลที่ไม่รอผลการตรวจสอบกรณีของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล เพราะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่จะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาเป็น ผบ.ตร. ด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ แล้ว จะมีคณะกรรมการและมีโฆษกฯ เป็นผู้แถลงชี้แจง ทั้งนี้ยืนยันในเรื่องข้อกฎหมายนั้นเป็นไปอย่างเรียบร้อย

สำหรับกรณีที่ พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. โหวตไม่เห็นชอบให้ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่เหมาะสมที่จะเอาเรื่องในห้องประชุมมาพูด

เมื่อถามถึงกรณีที่อาจจะมีการฟ้องร้องกันภายหลังได้นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่กังวล เนื่องจากทำด้วยเจตนารมณ์บริสุทธิ์ ไม่ได้ลุด้วยอำนาจ และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางในที่ประชุม ยืนยันมีการพูดให้ความเป็นธรรมกับแคนดิเดตทุกคน