เลือกตั้งและการเมือง

เปิดเบื้องหลังตั้ง 'ต่อศักดิ์' นายกฯ เสนอเอง ชี้ ผบ.ตร. ต้องสนองนโยบายรัฐบาล

โดย nattachat_c

28 ก.ย. 2566

2.3K views

เปิดเบื้องลึกที่ประชุม ก.ตร. เบื้องหลัง นายกฯเลือก บิ๊กต่อ เป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 ผู้นำสีกากีคนใน เจ้าของนามเรียกขาน “พิทักษ์ 1”


มีรายงานจากแหล่งข่าว ในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ช่วงที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน ก.ตร.นัดถกวาระเลือก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่

โดยกำหนดนัดหมาย เวลาประมาณ 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยหลังจากที่นายกรัฐมนตรี ตรวจแถวกองเกียรติยศ แล้วเสร็จ

ก็เข้าสู่กระบวนการประชุม ก.ตร. ซึ่งมีรายงานว่า นายกฯ หารือกับคณะกรรมการ ก.ตร.ทั้งหมด แต่ยกเว้น บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็น คณะกรรมการ ก.ตร.โดยตำแหน่ง เพราะว่าทั้งคู่ ถือเป็นแคนดิเดต ที่มีส่วนได้เสีย/การหารือนอกรอบนี้เกิดขึ้นที่ห้องรับรอง ตรงข้ามกับห้องศรียานนท์ บนชั้น 2 ของอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

การหารือนอกรอบผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง มีรายงานว่า นายกฯ มีรายชื่ออยู่ในใจแล้ว และได้สอบถามกับ คณะกรรมการ ก.ตร.ว่า “หากผมเสนอ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. จะมีแรงต้านไหม”

ต่อมา เวลาประมาณ 14.30 น. หลังการหารือนอกรอบ คณะกรรมการ ก.ตร.ทั้งหมด ก็เริ่มเข้าห้องประชุมศรียานนท์ โดยที่ประชุม เปิดโอกาสให้ คณะกรรมการ ก.ตร.ลุกขึ้นอภิปรายจนครบทุกคน /ซึ่งพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ พยายามชี้แจงพร้อมเสนอแนะว่า ข้อกฎหมายระบุว่า การพิจารณาแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ยึดหลักอาวุโส มีความรู้ความสามารถ และมีคุณธรรม ซึ่งต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ

เมื่อมีข้อคิดเห็นจาก พล.ต.อ.เอก ทำให้ นายกฯเรียกฝ่ายกฎหมาย ก.ตร.มาชี้แจง พร้อมให้นำเสนอคุณสมบัติของ 4 นายตำรวจที่เป็นแคนดิเดต โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของหลักอาวุโส

จากนั้น นายกฯ ก็ใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว ยืนยันคำเดิมว่า “ผมขอเสนอ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” โดยนายกฯ ให้เหตุผลว่า “แคนดิเดตทั้ง 4 นาย อาวุโสต่างกันไม่มากนัก ทุกคนมีความรู้ความสามารถเท่าเทียมกัน ผ่านงานมาทุกรูปแบบ แต่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ ต้องทำงานสนองนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ จึงมั่นใจว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สามารถทำงานส่วนนี้ได้ดี”

และนั่นทำให้ พล.ต.อ.เอก พยายามคัดข้นและให้ข้อเสนอแนะอีกครั้ง โดยเน้นย้ำเรื่องของประสบการณ์ความรู้ความสามารถของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังน้อยเมื่อเทียบกับอีก 3 นายตำรวจ

แต่ นายกฯ ก็ยืนยันว่า การเสนอชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นดุลยพินิจและอำนาจโดยตรงของนายกฯ ในฐานะประธาน ก.ตร.อีกทั้ง พ.ร.บ.ตำรวจฯ ก็ไม่ได้ระบุว่าต้องยึดหลักอาวุโสเพียงอย่างเดียว แต่ให้คำนึงถึงหลักความรู้ความสามารถควบคู่ไปด้วย

เมื่อมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างกัน ที่ประชุม ก.ตร.จึงให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. อธิบายคุณสมบัติของ 4 แคนดิเดต ให้คณะกรรมการ ก.ตร.ได้รับฟัง โดย ผบ.ตร.ได้ชี้ให้เห็นว่าที่ผ่านมา มอบหมายงานให้ รอง ผบ.ตร.แต่ละคนรับผิดชอบด้านใดบ้าง โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่รับผิดชอบด้านงานป้องกันและปราบปราม ที่ดูเหมือนว่า จะได้แรงสนับสนุนที่ดีจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ มากกว่า แคนดิเดต คนอื่น

จากนั้น ที่ประชุม ก.ตร.ก็เปิดโอกาสให้ คณะกรรมการโหวตโดยเปิดเผย ด้วยการยกมือ สนับสนุน ผลก็ปรากฏว่า ก.ตร. 9 ท่านเห็นชอบตามที่นายกฯ เสนอ

มีเพียง พล.ต.อ.เอก ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่เห็นชอบ / ส่วนนายกฯ ในฐานะประธานที่ประชุม และนายประทิต สันติประภพ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ งดออกเสียง เนื่องจากมีรายงานว่าสาเหตุที่ทั้ง 2 คนงดออกเสียง เพราะผลโหวตคะแนนเสียงขาดแล้ว

ซึ่งจากผลโหวต มีรายงานว่า คณะกรรมการ ก.ตร.โดยตำแหน่ง ซึ่งเป็นคนนอก ((ไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจ)) จำนวน 2 ท่าน ยังเห็นชอบกับชื่อของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อีกทั้ง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิท่านอื่นๆ ก็เห็นชอบด้วย จึงทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีความชอบธรรมและขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าของนามเรียกขาน “พิทักษ์ 1 “ คนใหม่ทันที


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/rM9kFIep1WI


คุณอาจสนใจ

Related News