‘บิ๊กโจ๊ก’ เปิดตัวทีมทนาย ‘อนันตชัย’ เตรียมสู้คดี ฟ้องกลับชุดจับ พร้อมแจงปมให้เงินนักข่าว

‘บิ๊กโจ๊ก’ เปิดตัวทีมทนาย ‘อนันตชัย’ เตรียมสู้คดี ฟ้องกลับชุดจับ เชื่อการโดนตรวจสอบครั้งนี้เป็นเรื่องการเมืองภายใน พร้อมแจงประเด็นที่สังคมสงสัย เรื่องเงินจ่ายนักข่าว-ที่มาเงินที่ใช้ในการทำงาน

เมื่อช่วง 10.30 น.ที่ผ่านมา พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดตัวทีมทนายที่เข้ามาทำคดีสู้กลับ กรณีถูกตรวจค้นและกล่าวหาว่ารับเงินการเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งทีมทนายที่เข้ามาทำคดี คือ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช หรือ ทนายกระดูกเหล็ก เข้ามารับทำคดี พร้อมติงชุดจับเรื่องการขอหมายจับที่ไปโกหกศาล โดยไม่ใส่ยศ เพื่อปกปิดว่าเป็นตำรวจ เชื่อว่าหลังจากนี้จะทำให้การทำงานของตำรวจท้องที่ยากขึ้น และเชื่อว่าในอนาคต อาจจะโอนย้ายอำนาจสอบสวนไปเป็นของส่วนงานอื่นไม่ใช่ตำรวจ

ทนายอนันต์ชัย จะแบ่งทีมทำงานเป็น 2 ส่วน คือ คดีของบิ๊กโจ๊ก 1 ทีม และคดีของลูกทีมบิ๊กโจ๊ก 1 ทีม และตั้งวอร์รูมติดตามข่าวสารผ่านสื่ออย่างใกล้ชิด หากใครพูดพาดพิงทำให้เสียหายก็จะฟ้องไปเรื่อยๆ ไม่ได้ฟ้องเพื่อเตะตัดขา แต่เป็นการปกป้องสิทธิตัวเอง ส่วนเรื่องขอหมายจับที่ไม่ระบุยศ เชื่อว่าน่าจะมีนัยยะแอบแฝง

ส่วนเรื่องของเฮียแต๋ม เจ้าของบ้านที่บิ๊กโจ๊กเช่าอยู่นั้น บิ๊กโจ๊ก กล่าวว่า เช่าบ้านของเฮียแต๋มจริงแต่ใช้จริง 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นพ่อของบิ๊กโจ๊กที่เคยอาศัยอยู่ ส่วนที่เหลือใช้เก็บของ และให้กับลูกน้องไว้พัก เพราะไม่สามารถสร้างบ้านใหม่ได้ทัน แต่ยืนยันว่าเฮียแต๋มไม่ยุ่งเกี่ยวกับเว็บพนันแน่นอน เพราะมีธุรกิจซึ่งได้เงินอยู่ต่อปีประมาณ 7-8 ร้อยล้านอยู่แล้ว

และในวันนี้ (27 ก.ย. 2566) บิ๊กโจ๊กเปิดใจในรายการกรรมการข่าวคุยนอกจอว่า เรื่องที่โดนตรวจสอบเชื่อว่าเป็นเรื่องการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาเหตุอาจจะเกิดจากที่เขาไปทำคดีแล้วไปกระทบบางคนบางกลุ่ม แต่ยืนยันว่าทุกเรื่องตรวจสอบได้ เพราะไม่ได้เป็นหรือทำตามที่ถูกกล่าวหา เงินที่นำมาใช้ให้ลูกน้องทำงาน ทำคดีก็เป็นเงินของตัวเองที่เอามาสนับสนุนในการทำงาน เดือนหนึ่งกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนก็ได้รับการสนับสนุนจากงบลับของ ผบ.ตร. ครั้งละ 6 แสนบาท โดยจะให้เงินมาประมาณ 3 เดือนครั้ง ด้วยการทำงานแบบนี้ภรรยาถึงขั้นบอกให้ลาออก

และยังบอกด้วยว่าการกู้เรือฟินิกซ์ ที่ประสบอุบัติเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 เป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนตายถึง 47 คน กรมเจ้าท่าใช้เวลา 3 เดือนก็กู้เรือไม่ได้ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนจะไม่เข้ามาไทย สุดท้ายต้องใช้เครดิตส่วนตัวไปจ้างเรือเครนมาจากสิงคโปร์มากู้เรือ ขึ้นมาในเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งเงินที่ใช้ครั้งนั้นกว่า 30 กว่าล้านบาท และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครจ่ายเงินให้ทั้งรัฐบาลและกรมเจ้าท่า แถมตอนนั้นยังโดนเด้งไปสำนักนายกฯ อีก

พร้อมย้ำว่าเงินถูกกล่าวหาว่ามาจากมินนี่หรือเว็บพนันออนไลน์ มันไม่สอดคล้องกับเงินที่ใช้จ่ายจริงในแต่ละเดือน แล้วมากล่าวหาว่ารับเงินจากเว็บพนันได้อย่างไร

กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) ว่า มีนักข่าว 4 คนที่รับเงินจากบิ๊กโจ๊กด้วย เรื่องนี้บิ๊กโจ๊กยอมรับว่าให้จริง แต่ไม่ได้จ่ายเป็นรายเดือน แต่ให้เป็นรายครั้งที่ออกมาทำงานด้วยกัน ถือว่าเป็นค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง และเงินที่ให้เป็นเงินส่วนตัวไม่ใช่เงินที่มาจากการพนันตามที่ถูกกล่าวหา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/mbtQtvJDg9Y