ลูกสาวหญิงถูกชายอ้างเป็นตำรวจอุ้มรีดเงิน เชื่อคนก่อเหตุมีส่วนพัวพันกับอดีตแฟนตนเอง

กล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์บันทึกภาพรถเก๋งฮอนด้าซีวิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของคนร้าย วิ่งเข้ามาในถนนหมู่บ้านและจอดดูลาดเลาอยู่พักใหญ่ก่อนจะลงมือก่อเหตุอุ้มตัวผู้เสียหายไปรีดเงินค่าไถ่ 3 แสนบาท



นางพัชรี ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่ตนเองกลับจากส่งหลานที่โรงเรียน และขับรถเข้ามาในหมู่บ้านประมาณ 8.30 นมีรถเก๋ง civic สีขาว ขับมาปาดหน้า จากนั้นกลุ่มคนร้ายลงมากัน 4 คน ปกปิดใบหน้าและใช้หมวกไหมพรมคลุมศีรษะตนเองสองชั้น ใช้เคเบิลไทรัดข้อมือทั้งสองข้างลากตัวขึ้นเบาะด้านหลัง โดยมีชายสองคนนั่งประกบซ้ายขวาใช้ปืนจี้ศีรษะข้างละ 1 กระบอก ข่มขู่ว่าอดีตสามีของตนเองที่เลิกรากันไปกว่า 2 ปีแล้ว ถูกจับยาบ้า 1 พันเม็ดที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และซัดทอดมาถึงตนว่ามีส่วนพัวพันกับยาบ้าลอตดังกล่าวด้วย คนร้ายอ้างว่านายสั่งให้มาเอาเงินจากตน 300,000 บาท เพื่อปิดคดี หากไม่ยอมจ่ายจะยัดยาบ้า 1 พันเม็ดให้ แล้วส่งเข้าเรือนจำกลางนครปฐม ห้ามประกันตัวเด็ดขาด



ซึ่งบางช่วงบางตอนที่อยู่บนรถ นางพัชรีได้ยินกลุ่มคนร้ายเรียกชื่อ 1 ใน 4 คนว่า "แงะ" ซึ่งตนเองไม่เคยได้ยินหรือรู้จักคนชื่อนี้มาก่อน แต่ยอมรับว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตนเองเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด หลังจากได้รับโทษออกมาก็ไม่เคยกลับไปยุ่งเกี่ยวอีก



นางพัชรี เล่าต่อว่า จากนั้นคนร้ายโทรศัพท์ไปหาลูกสาวของตน บอกว่า แม่โดนจับให้นำเงินมาเป็นค่าไถ่ 3 แสนบาท ตนเองก็แปลกใจว่าคนร้ายรู้เบอร์ลูกสาวได้อย่างไร โดยทางลูกสาวเจรจาต่อรองค่าไถ่เหลือ 2 แสนบาท คนร้ายยินยอมและนัดแนะให้นำเงินมาวางในจุดข้างปั๊มน้ำมัน คนร้ายจึงยอมปล่อยตัว



ขนาดที่นางสาวเอ (นามสมมติ) ลูกสาวของนางพัชรีให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเองรู้จักและเคยเจอกับ นายแงะ เพราะ นายแงะเป็นเพื่อนของ นายต้น อดีตแฟนหนุ่มของตนเอง และตอนที่นายแงะโทรศัพท์มาหา บอกว่าแม่ถูกจับกุมตนเองจำเสียงได้และเช็คเบอร์โทรศัพท์แล้วว่าเป็นนายแงะจริง ซึ่งตนเองก็แปลกใจว่า นายแงะ ทราบเรื่องของแม่ได้ยังไง เพราะนายแงะเป็นตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ตอนที่โทรศัพท์มาบอก กลับบอกว่าแม่ถูกตำรวจภูธรภาค 7 จับกุม ให้รีดนำเงินไปไถ่ตัว



ซึ่งตนเชื่อว่า นายต้น อดีตแฟนหนุ่ม มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเพราะช่วงที่คบหากัน นายต้น รู้ว่าแม่ของตนเองเคยถูกจับในคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและรู้ว่าที่บ้านพอมีทรัพย์สินเงินทอง จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นคนชี้เป้าให้กับนายแงะกับพวกก่อเหตุดังกล่าว และตอนที่เลิกรากันก็มีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันด้วยเรื่องส่วนตัว ตนเองจึงไม่อยากจะคิดว่าถ้าเป็นการแก้แค้นของนายต้นอดีตแฟนหนุ่มจะต้องทำกันถึงขนาดนี้





ขณะที่ผู้เสียหายได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยังมีผู้เสียหายอีกรายที่เคยถูกแก๊งอ้างเป็นตำรวจอุ้มเรียกค่าไถ่เมื่อ 2 เดือนก่อน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทางผู้เสียหายไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือไม่โดยหลังเกิดเหตุไม่ได้เข้าแจ้งความเนื่องจากเกรงกลัวว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก